https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง MUSLIMTHAIPOST

 

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง


648 ผู้ชม


กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง




พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 126 กำหนดให้มีกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างในกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงาน ตาย หรือในกรณีอื่นๆ ที่คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้กำหนดให้ช่วยเหลือหรือให้การสงเคราะห์

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างประกอบด้วยเงินสมทบที่ได้มาจากนายจ้างและลูกจ้าง เงินค่าปรับที่ได้รับจากการลงโทษผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเงินทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้ เงินดอกผลของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและเงินอื่นๆ ตามที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 127

สำหรับการบริหารกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างนั้นจะมีคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างทำหน้าที่ดูแลบริหารกิจการเพื่อประโยชน์ของการดำเนินการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

มาตรา 130 กำหนดให้ลูกจ้างสำหรับกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปต้องเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ซึ่งจะถูกบังคับให้หักค่าจ้างส่งเข้าสู่กองทุนนี้ อย่างไรก็ตามมาตรานี้ยังได้กำหนดด้วยว่า ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่กิจการที่นายจ้างจัดให้ มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนเงินสำรองเลี้ยงชีพหรือจัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่นายจ้างออกจากงานหรือตาย ดังนั้น ลูกจ้างที่อยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่แล้วหรือลูกจ้างที่นายจ้างได้จัดให้มีการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ออกจากงานหรือตายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎกระทรวงจะออก มาก็ไม่ต้องเป็นสมาชิกของกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างแต่อย่างใด

มาตรา 131  กำหนดว่านับแต่วันที่ลูกจ้างเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ทุกครั้งที่มีการจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้าง ให้ลูกจ้างจ่ายเงินสมทบโดยให้นายจ้างหักจากค่าจ้างและนายจ้างจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ทั้งนี้ ตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงแต่ต้องไม่เกินร้อยละ 5 ของค่าจ้าง จึงทำให้เห็นว่าลูกจ้างอาจจะต้องถูกหักค่าจ้างถึงร้อยละ 5 เพื่อส่งเข้าเป็นเงินสะสมในกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างต่อไป แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย กฎกระทรวงตามมาตรา 131 จึงยังไม่ออกมาใช้บังคับ

อนึ่ง การจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจะเริ่มดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อมีการตราพระราชกฤษฎีกามาใช้บังคับ (มาตรา 163)

คำอธิบายกฎหมายแรงงาน

โดย ศาสตราจารย์เกษมสันต์ วิลาวรรณ


อัพเดทล่าสุด