ตัวอย่าง คำฟ้องตั๋วเงิน MUSLIMTHAIPOST

 

ตัวอย่าง คำฟ้องตั๋วเงิน


2,983 ผู้ชม


ตัวอย่าง คำฟ้องตั๋วเงิน

      ข้อ ๑. เมื่อประมาณต้นเดือน......................... จำเลยได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คมอบให้ไว้แก่โจทก์ เพื่อชำระหนี้จำนวน ......ฉบับ เป็นเช็คของธนาคาร...... สาขา.........จำนวน .... ฉบับ ดังต่อไปนี้       

                  ๑.๑  เช็คเลขที่ ...................ลงวันที่ .......................สั่งจ่ายเงิน  จำนวน ....................บาท (......................บาทถ้วน)

                 ๑.๒  เช็คเลขที่ ...................ลงวันที่ .......................สั่งจ่ายเงิน  จำนวน ....................บาท (......................บาทถ้วน)

                 โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คดังกล่าวทั้ง ............ฉบับ โดยชอบด้วยกฎหมาย

     ข้อ ๒. ครั้นเช็คดังกล่าวในข้อ ๑ แต่ละฉบับถึงกำหนดสั่งจ่าย โจทก์ได้นำไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร...................... สาขา................ เพื่อเรียกเก็บเงินตามวิธีการของธนาคาร ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง ...... ฉบับ โดยเช็คตามข้อ ๑.๑ ถึง ข้อ ๑.๒ ธนาคารให้เหตุผลว่า “ยังไม่มีการตกลงกับธนาคาร” 
               รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายเช็คและใบคืนเช็ค เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑ ถึง ๒ ตามลำดับ

      ข้อ ๓. จากการกระทำของจำเลยดังกล่าวแล้วในข้อ ๑ และ ๒ ทำให้โจทก์ได้รับเงินตามเช็คและได้รับความเสียหาย จำเลยจึงมีหน้าที่ที่จะต้องชำระเงินตามเช็คทั้ง ๑๓ ฉบับ ให้แก่โจทก์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ...................... บาท (...................... บาทถ้วน) พร้อมด้วยดอกในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันผิดนัดจนถึงวันฟ้องดังต่อไปนี้ คือ

                ๓.๑ เช็คตามข้อ ๑.๑ ถึง ๑. ๒ จำเลยผิดนัดตั้งแต่วันที่ ......................  จนถึงวันฟ้องเป็นเวลา ......................  เดือน คิดเป็นดอกเบี้ย ...................... บาท(...................... บาทถ้วน)

      ฉะนั้น จึงรวมเป็นต้นเงินตามเช็คและดอกเบี้ยที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์ทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน ......................   บาท (......................   บาทถ้วน)

      หลังจากที่ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์ได้ติดต่อทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คหลายครั้ง แต่จำเลยก็ไม่จัดการชำระให้แก่โจทก์

      โจทก์ไม่มีทางใดที่จะบังคับจำเลยได้ จึงจะต้องฟ้องคดีเพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่งบังคับกับจำเลยต่อไป
 

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

คำขอท้ายคำฟ้องแพ่ง

      เพราะฉะนั้น ขอศาลออกหมายเรียกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษา และบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้

๑.     ให้จำเลยชำระเงินจำนวน ............................. บาท (............................. บาทถ้วน) ให้แก่โจทก์

๒.   ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน .............................  บาท (............................. บาทถ้วน) นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น

๓.   ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความโจทก์ด้วย

ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาคำฟ้อง โดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย............ฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว

                                                                                                           ...............................โจทก์

      คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้า.................ทนายความใบอนุญาตที่.................อยู่บ้านเลขที่..................หมู่..............ถนน....................ตรอก/ซอย................ใกล้เคียง.................ตำบล/แขวง.................อำเภอ/เขต.................จังหวัด...................โทรศัพท์...........................พิมพ์

                                                                                                               .............................พิมพ์
 


อัพเดทล่าสุด