https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
อนุบาล อนุบาลในฝัน ในทัศนะของ ผู้ปกครอง โรงเรียนนี้แหละใช่เลย MUSLIMTHAIPOST

 

อนุบาล อนุบาลในฝัน ในทัศนะของ ผู้ปกครอง โรงเรียนนี้แหละใช่เลย


1,257 ผู้ชม


โรงเรียนอนุบาลในฝัน ของคุณพ่อ คุณแม่ 
การหาโรงเรียนอนุบาลที่เหมาะสมให้กับลูกซักแห่ง คงเป็นเรื่องที่ต้องใช้การพิจารณากันเป็นอย่างมากในครอบครัว ซึ่งแต่ละครอบครัวก็มีความกังวลที่แตกต่างกันออกไป ในเรื่องคุณสมบัติที่โรงเรียนอนุบาลควรจะมี เราลองมาดูกันว่าโรงเรียนในฝันของคุณพ่อคุณแม่ต้องการนั้นเป็นอย่างไรกัน


เรื่องแรกคือ เรื่องบุคลากรในโรงเรียน (55.9%) เช่น ครู หรือผู้ช่วยสอน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสุด เพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับเด็ก และเป็นผู้ที่จะกระตุ้นและสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กทั้งในด้านการเรียนและในด้านคุณธรรมและจริยธรรมรวม


ดังนั้น โรงเรียนในฝันจะต้องมีครูและบุคลากรในโรงเรียนที่มีใจรักเด็ก เอาใจใส่กับเด็ก และสามารถเข้ากับเด็กได้ดี (43.4%) และอีกประการหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่มองว่าขาดไม่ได้ คือ จะต้องมีจิตวิทยาในการเลี้ยงเด็ก มีจิตใจดี อ่อนโยน โอบอ้อมอารี และมีจิตวิญญาณความเป็นครู (23.4%) ที่ต้องการสอนให้เด็กเป็นผู้ที่มีความรู้และเป็นคนดีในสังคม


เรื่องที่สอง เป็นเรื่องของสถานที่และบรรยากาศ (47%) ที่ต้องมีความสะดวก สบายในการรับส่งลูก และถ้าใกล้บ้าน (38.4%) ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัญหาจราจรที่ติดขัดที่เกิดขึ้น ทำให้ถ้ามีโรงเรียนที่ใกล้บ้าน จะทำให้ประหยัดเวลาและง่ายในการรับส่งลูกๆ และในบริเวณโรงเรียนต้องมีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ควรจะมีการปลูกต้นไม้ หรือมีสนามหญ้าให้เกิดความร่มรื่น (23.6%)


เด็กๆ สามารถทำกิจกรรมต่างๆ สามารถสัมผัสสิ่งรอบตัว และสามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้จากธรรมชาติได้


แต่คุณพ่อคุณแม่ยังมองว่าความปลอดภัยและความสะดวกสบายของสถานที่ (25.7%) ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรมีควบคู่กับสถานที่ที่มีความเหมาะสม


ต่อมาคือ เรื่องแนวการเรียนการสอน (42.1%) ที่โรงเรียนในฝันควรจะมี คุณพ่อคุณแม่มองว่าแนวการสอนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องเน้นกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง (78.1%) โดยให้ความสำคัญกับเด็กในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง โดยมีคุณครูเป็นผู้ที่คอยแนะนำหรือให้คำปรึกษา รวมทั้งการเรียนการสอนที่คุณพ่อคุณแม่มองว่าเหมาะสมกับเด็กวัยอนุบาลมากที่สุด คือ การเรียนการสอนควรอยู่ในรูปของกิจกรรม (44.6%) เน้นให้เด็กปฏิบัติและทดลองทำทั้งการเรียนรู้จากในห้องเรียนและการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจและเป็นการสะสม สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับเด็กในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ


นอกเหนือจากการเรียนการสอนที่เน้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้แล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ยังมองว่าสำคัญไม่แพ้กัน คือการปลูกฝังให้เด็กเป็นคนดีของสังคม ดังนั้นโรงเรียนในฝันจึงควรจะมีการสอนจริยธรรม มารยาท และการมีวินัยในสังคม (5.8%) เพื่อเป็นการวางรากฐานให้กับเด็กให้เป็นคนดีต่อไป


เรื่องสุดท้าย คือเรื่องอุปกรณ์การเรียน การสอน (41.1%) ที่ผู้ปกครองมองว่า อุปกรณ์ต้องมีความหลากหลายและทันสมัย กระตุ้นการเรียนรู้ของเด็ก (53.4%) และเด็กๆ สามารถที่จะมีอุปกรณ์ในการทดลอง หรือสร้างการเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย และสามารถที่จะกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจที่อยากจะเรียนรู้ โดยอุปกรณ์เหล่านั้นจะต้องมีมาตรฐาน และปลอดภัยไม่เกิดอันตรายกับเด็ก และที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ อุปกรณ์ต้องมีความเหมาะสมกับวัยของเด็ก และเพียงพอกับจำนวนเด็ก (29.3% ที่เข้าเรียนอีกด้วย

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้ปกครองจะต้องหาสถานศึกษาให้กับบุตรหลาน โดยเฉพาะในระดับอนุบาล เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมให้เด็กได้เข้าเรียน

ในระดับประถมต่อไป ดังนั้น การเลือกโรงเรียนอนุบาลก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกไม่แพ้ในระดับมัธยมเช่นกัน ที่ผู้ปกครองทั้งหลายต้องคัดสรรที่เรียนที่มี

คุณภาพดีพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นและความต้องการของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยอนุบาล สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏ

สวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่จะเข้าเรียนในระดับอนุบาลในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เป็นตัวแทนภาค จำนวน

1,311 คน  ระหว่างวันที่  24 มีนาคม - 2 เมษายน 2550 สรุปผลได้ดังนี้

1. ด้านอาคาร สถานที่ ของ “โรงเรียนอนุบาลในฝัน”  ควรมีลักษณะ  ดังนี้

อันดับ          ความคิดเห็น                                                            ร้อยละ

1          อยากให้โรงเรียนมีความสะอาด เป็นระเบียบ เรียบร้อย                               28.26

2          โรงเรียนควรมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยเช่น มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน,

มีรั้วรอบขอบชิดให้ความปลอดภัยแก่เด็ก ,ไม่มีสายไฟระเกะระกะ                         23.15

3          โรงเรียนมีสถานที่กว้างขวาง สะดวกสบาย สถานที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก

ไม่แออัดจนเกินไป / ไม่มีมลพิษ / มีสถานที่ที่จัดกิจกรรมสำหรับเด็กอย่างเพียงพอและเหมาะสม   15.86

4          มีสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกรอบบริเวณโรงเรียน คือ มีต้นไม้ ร่มรื่น

บรรยากาศเงียบสงบ, ห่างไกลแหล่งอบายมุข, อยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้ เป็นต้น                 13.55

5          สถานที่ได้รับมาตรฐาน คือ มีอาคารเรียนที่สวย ทันสมัย แข็งแรงมั่นคง,

อาคารเรียนไม่สูงเกินไป, พื้นไม่ลื่น,ระเบียงมีความสูงพอที่จะป้องกันเด็กพลัดตกได้            10.36

อื่นๆ เช่น มีสนามเด็กเล่นที่ได้มาตรฐาน มีของเล่นและอุปกรณ์สำหรับเด็กที่ปลอดภัย ฯลฯ         8.82

2. ด้านครู / อาจารย์ ของ “โรงเรียนอนุบาลในฝัน”  ควรมีลักษณะ  ดังนี้

อันดับ          ความคิดเห็น                                                            ร้อยละ

1          ควรเป็นครูที่รักและเอาใจใส่เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน / ดูแลเด็กอย่างทั่วถึง              36.21

2          มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการสอน / มีวิสัยทัศน์กว้างไกล                  21.38

3          เป็นครูที่ใจดี มีเมตตา ยิ้มแย้ม แจ่มใส ร่าเริง                                      15.69

4          ควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ไม่โกรธหรือโมโหง่าย/ใจเย็น มีเหตุผล และเข้าใจเด็ก          11.21

5          มีทักษะในการสอนที่ดี มีจิตวิทยาในการดูแลเด็ก พัฒนาเด็กได้                             9.31

6          มีจรรยาบรรณความเป็นครู / มีความรักในอาชีพ                                      6.21


3. ด้านการเรียน / การสอน ของ “โรงเรียนอนุบาลในฝัน”  ควรมีลักษณะ  ดังนี้

อันดับ          ความคิดเห็น                                                  ร้อยละ

1          สอนให้เกิดความสนุกสนาน ไม่ต้องเข้มงวดมากเกินไป                       19.83

2          สอนโดยการเน้นด้านภาษา                                           19.41

3          มีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ว่ายน้ำ, ดนตรี, นันทนาการ เพื่อให้เด็กรู้สึกสนุก           16.03

4          เน้นการดูแลเอาใจใส่และสอนให้เด็กเกิดความเข้าใจในด้านต่างๆมากขึ้น         15.61

5          เน้นพัฒนาการด้าน IQ และ EQ ไปพร้อมๆ กัน                            14.77

6          มีสื่อและอุปกรณ์ต่างๆ ที่หลากหลาย เสริมทักษะและพัฒนาเด็ก                  14.35

4. ด้านการอบรม / เลี้ยงดู ของ “โรงเรียนอนุบาลในฝัน”  ควรมีลักษณะ  ดังนี้

อันดับ          ความคิดเห็น                                                                             ร้อยละ

1          ดูแลเอาใจใส่เด็กเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยปะละเลย ให้เปรียบเสมือนเป็นลูกตัวเอง / ดูแลอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง         48.35

2          อบรมให้เด็กเป็นคนมีคุณธรรม จริยธรรม รู้จักการมีศีลธรรม วัฒนธรรมไทย การใช้ชีวิตในสังคม                    17.47

3          ใจดี มีเมตตา ให้ความรักและความจริงใจเลี้ยงดูเด็กอย่างเป็นกันเอง ให้เด็กเกิดความรู้สึกอบอุ่นและมีความสนุกสนาน    9.62

4          สอนเกี่ยวกับมารยาทไทย การมีสัมมาคารวะ การอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ก้าวร้าว รู้จักกาลเทศะ พูดจาสุภาพ              9.11

5          สอนให้เด็กเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่ได้ในสังคมอย่างมีความสุข                                      8.61

6          อบรมให้เด็กประพฤติตัวเป็นคนดี กตัญญูรู้คุณ ให้มีน้ำใจเอื้อเฟือเผื่อแผ่                                        6.84

5. ความคาดหวังของผู้ปกครองต่อ โรงเรียนอนุบาลในฝัน ในประเด็นอื่นๆ ดังนี้

อันดับ          ความคิดเห็น                                                                                ร้อยละ

1          ควรเน้นการดูแลด้านความปลอดภัยของเด็กให้มากกว่าเด็กในระดับอื่นๆ / ควรมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา   22.18

2          เสริมสร้างทักษะ และ พัฒนาการด้านอื่นๆเช่น ศิลปะ, กีฬา, ภาษา, คอมพิวเตอร์, ดนตรี, คณิตศาสตร์                21.01

3          เน้นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่เหมาะสม และมารยาททางสังคมให้แก่เด็ก                                     19.84

4          มีการเพิ่มกิจกรรมต่างๆ  เช่น การรำ  การเต้น การว่ายน้ำ                                               13.62

5          ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียว เอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด                                                     12.84

6          มีจัดอาหารที่มีประโยชน์ สะอาดถูกสุขลักษณะให้กับเด็กอย่างเหมาะสม                                          10.51

--สวนดุสิตโพล--
 ที่มา : ศูนย์วิจัยวิถีครอบครัวไทยยุคใหม่ บริษัทรักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด 

อัพเดทล่าสุด