https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ปัญหาโรคซึมเศร้า ผู้หญิง (งานวิจัยโรคซึมเศร้าผู้หญิง) MUSLIMTHAIPOST

 

ปัญหาโรคซึมเศร้า ผู้หญิง (งานวิจัยโรคซึมเศร้าผู้หญิง)


828 ผู้ชม


งานวิจัยโรคซึมเศร้าผู้หญิง
เผย! ผู้ชายเสี่ยงซึมเศร้ามากกว่าหญิงหลังเตียงหัก ปัญหาโรคซึมเศร้า ผู้หญิง (งานวิจัยโรคซึมเศร้าผู้หญิง)
หนังสือ พิมพ์เดอะครอนิเคิล เฮอรัลด์ฉบับออนไลน์ของประเทศแคนาดารายงานวานนี้ว่างานวิจัยใหม่ล่าสุดโดย สำนักงานสถิติแห่งชาติแคนาดาศึกษาพบว่าจริง ๆ แล้วผู้ชายกลับเป็นฝ่ายที่ยอมรับการแยกทางกันหรือเลิกรากันได้ยากกว่า ผู้หญิง
อย่างไรก็ดีนักวิจัยพบว่าทั้ง ผู้หญิงและผู้ชายที่ชีวิตสมรสจบสิ้นลงยังคงมีความเสี่ยงในการเป็นโรคซึม เศร้ามากกว่าคนที่ยังสามารถครองรักครองเรือนอยู่ได้ตามปกติ ทั้งนี้เป็นการวิจัยทางสถิติของทีมนักวิจัยจากสำนักงานสถิติแห่งชาติประเทศ แคนาดา

โดยนักวิจัยพบว่าผู้ชายที่เลิกกับคู่รักหรือภรรยาจะ มีความเสี่ยงในการมีอาการโรคซึมเศร้ามากกว่ากว่าผู้ชายที่ยังอยู่กับคู่ครอง ดีอยู่ถึง 6 เท่าตัว ในขณะที่อัตราการเป็นโรคซึมเศร้าในผู้หญิงที่แยกทางกับสามีหรือคู่รักมี มากกว่าปกติเพียงแค่ 3.5 เท่านั้นหลังประสบปัญหารักร้าว
แต่ เมื่อวิเคราะห์รวมกันโดยไม่จำแนกเพศแล้วพบว่าคนที่แยกทางกันเดินมีความ เสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ที่ประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่คนที่ยังใช้ชีวิตคู่อยู่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้เพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเองโดยผลการวิจัยที่ได้สร้างความแปลกใจให้แม้กระทั่งมิ เชล ร็อตเตอร์มานน์ซึ่งเป็นผู้เขียนผลการวิจัยนี้
“ใน ทางหนึ่งเราทราบกันดีว่าโดยทั่วไปแล้วโรคซึมเศร้ามักพบได้บ่อยกว่าในผู้หญิง แต่ก็มีหลักฐานทางวิชาการหลายอันระบุว่าผู้ชายจะมีคนคอยปลอบใจให้กำลังใจ น้อยกว่าผู้หญิงซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ก็ได้” ร็อตเตอร์มานน์กล่าว
“เป็นไปได้ว่าหนึ่งในปัจจัยที่ว่าทำไมผู้ชายมี ความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าอันเป็นผลจากการเลิกกันมากกว่าผู้หญิงเพราะ ว่าภรรยาหรือคู่ครองเป็นที่ของกำลังใจแหล่งหลัก ๆ ของผู้ชายและเมื่อเธอไม่อยู่แล้วจึงไม่มีใคร” นักวิเคราะห์ของสำนักงานสถิตแห่งชาติฯคนหนึ่งกล่าว

ทั้งนี้พบ ว่า 19 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชายที่เลิกรากับคู่ครองของตัวเองได้รับกำลังใจและการปลอบ ใจจากคนรอบข้างลดน้อยลงต่างจากฝ่ายหญิงซึ่งมีเพียงแค่ 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นอย่างนั้น และหากทำการเปรียบเทียบกันภายในเพศจะพบว่าผู้หญิง 11 เปอร์เซ็นต์ที่แยกทางกับคู่ครองมีการสนับสนุนทางใจจากคนรอบข้างน้อยลง เทียบกับ 5 เปอร์เซ็นต์ในผู้หญิงที่ยังครองรักครองเรือนอยู่ตามปกติ
เจน นี่ ทิปเปอร์ ซึ่งเป็นนักวิจัยอยู่ที่สถาบันครอบครัวเวเนียร์ในออตตาวากล่าวว่า “โดยปกติแล้วผู้หญิงจะอยู่ในสถานะที่ดีกว่าในเรื่องของการหากำลังใจจากคนรอบ ข้าง ซึ่งต่างจากผู้ชาย”
แต่ถ้ามองในด้านของชีวิตความเป็นอยู่หลัง การหย่าร้างหรือเลิกรากันแล้วผู้หญิงโดยส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายอาศัยอยู่บ้าน เดิมและฝ่ายชายเป็นฝ่ายที่ย้ายไปอยู่ที่ใหม่แต่ผู้หญิงก็มักจะเป็นฝ่ายที่มี รายได้ที่น้อยกว่าฝ่ายชายมากพอสมควรหลังแยกทางกัน
ทั้งนี้การวิจัย ชิ้นนี้เป็นการวิจัยที่ศึกษาและวิเคราะห์มากจากข้อมูลจากการสำรวจสุขภาพ ประชาการระดับชาติของประเทศแคนาดาซึ่งทำขึ้นทุก ๆ 2 ปี โดยข้อมูลที่นำมาใช้ประมวลผลมาจากการเก็บข้อมูลที่ทำขึ้นระหว่างปี 1994 และปี 2005
ที่มา : thaihealth.or.th
 

อัพเดทล่าสุด