https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น MUSLIMTHAIPOST

 

ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น


1,755 ผู้ชม

คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น


คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น

ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น

คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น

ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : คำทักทายในภาษาญี่ปุ่นคำทักทายในภาษาญี่ปุ่น
     1) Ohayoo gozaimasu.(อรุณสวัสดิ์) ใช้เป็นคำทักทายตั้งแต่ตื่นนอนในตอนเช้า จนกระทัถึงเวลาประมาณ 10.00น.เมื่อพูดกับบุคคลสนิทสนมกัน หรือ ผู้น้อย พูดว่า Ohayoo เท่านั้นพอ
    2) K onnichiwa.(ทิวาสวัสดิ์) ใช้ทักทายในเวลากลางวันไม่เคร่งครัดนักว่าตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง
    3) Konbanwa.(สายัณห์สวัสดิ์) เป็นคำทักทายตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงกลางคืน
    4) Oyasuminasai.(ราตรีสวัสดิ์) เป็นคำทักทายเมื่อจากกันตอนดึกๆหรือก่อนจะเข้านอน
     5)Sayoonara(ลาก่อน)ใช้เป็นคำอำลา เมื่อจะจากกันหากต้องการจะบอกความรู้สึกว่าอยากจะพบกันอีกซึ่งตรงกับสำนวน ไทยว่าพบกันใหม่ก็ให้กล่าวว่า Mata aimashoo.
     6)O-genki desu ka.(สบายดีหรือครับ/คะ) genki แปลว่า สบายดี มีสุขภาพแข็งแรง มีชีวิตชีวา เมื่อจะทักทายผู้คนอย่างสุภาพให้พูดว่า o-genki desu ka.แต่เวลาตอบให้ตอบว่า genki desu.โดยให้ละ o เอาไว้ คำว่า o ใช้เติมข้างหน้าคำบางคำเพื่อทำให้เป็นคำสุภาพ
     7) Arigatoo gozaimasu.(ขอบคุณครับ/ค่ะ) เป็นคำแสดงความขอบคุณ บางครั้งอาจเติมคำว่า doomo(มาก)ไว้ข้างหน้าเป็น doomo arigatoo gozaimasu.ซึ่งจะแสดงคำขอบคุณมากยิ่งขึ้นเมื่อพูดกับบุคคลที่สนิทสนม หรือผู้น้อยใช้ว่า doomo arigatoo หรือ arigatoo เท่านั้นพอบางครั้งคนญี่ปุ่นอาจพูดเพียงคำว่า doomo และละคำข้างหลังเอาไว้ แต่ควรระวังว่าคำที่ละไว้นั้นอาจเป็นคำว่า arigatooหรืออาจเป็นคำ อื่นๆเช่นsumimasen(ขอโทษ)ฯลฯก็ได้ ทั้งนี้ให้พิจารณาจากสถาณการณ์ในขณะที่พูดนั้น
     8) (Iie)doo itashimashite (ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ) ใช้กล่าวตอบคำขอบคุณหรือขอบใจของผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีคำที่มีความหมายว่าไม่เป็นไร อีก2คำคือ kamaimasen และ daijoobu desu แต่คำทั้งสองนี้ใช้กล่าวในกรณีที่ผู้พูดไม่เดือดร้อน หรือไม่ถือโทษต่อสิ่งที่คู่สนทนากระทำ
     9) sumimasen,gomennasai (ขอโทษครับ/ค่ะ) sumimasen ใช้กล่าวขอโทษเมื่อจะรบกวน ขอความช่วยเหลือในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือเมื่อกระทำผิดพลาด ส่วน gomennasai ใช้กล่าวขอโทษเมื่อกระทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : คำทักทายในภาษาญี่ปุ่นคำพูดที่ใช้ในห้องเรียน(สามารถใช้ที่อื่นได้ด้วย)
     1) hajimemashoo (เริ่มกันเถอะ)เป็นคำที่ใช้เมื่อจะเริ่มเรียนหรือเริ่มทำอะไรบางอย่าง mashooซึ่งอยู่ข้างท้ายเป็นรูปชักชวน มีความหมายว่า ....กันเถอะ
     2) Yasumimashoo (หยุดพักกันเถอะ) เป็นคำพูดชักชวนให้หยุดพักสักครู่ในระหว่างการเรียนหรือการกระทำใดๆ
     3) Owarimashoo (เลิกกันเถอะ)เป็นคำพูดชักชวนให้จบหรือเลิกกระทำ อนึ่ง เมื่อจะถามเจตจำนงของคู่สนทนาก็ให้เติมคำว่าKa เข้าที่ท้ายประโยค ทำให้เป็นประโยคคำถามHai, เป็นคำตอบรับคำถามของคู่สนทนาอย่างสุภาพว่า ครับ/ค่ะ หากจะตอบปฏิเสธเนื่องจากยังไม่พร้อมจะใช้ว่าChotto matte kudasai. (กรุณาคอยสักครู่)
      4) wakarimashita ka (เข้าใจไหมครับ/คะ)ใช้เวลาที่จะถามความเข้าใจของอีกฝ่ายหนึ่งมีวิธีถามตอบดังนี้
      Wakarimashita ka. เข้าใจไหมครับ/ค่ะ
     -Hai,wakarimashita. –เข้าใจครับ/ค่ะ
      -Iie,wakarimasen. –ไม่เข้าใจครับค่ะ
     5) Moo ichido(itte kudasai) (โปรดพูดอีกครั้ง)ใช้พูดเมื่อไม่เข้าใจคำอธิบายหรือคำถามของคู่สนทนาและต้องการให้พูดให้ฟังอีกครั้งหนึ่งจะ พูดเพียง moo ichido(อีกครั้ง) ก็ได้ เมื่ออยากให้พูดช้าๆให้พูดว่า Moo ichido yukkuri(itte kudasai) (โปรดพูดช้าๆอีกครั้ง)
     6)Isshonidoozo(เชิญพร้อมๆกัน,เชิญ ด้วยกัน)ใช้พูดชักชวนในความหมายให้ทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยกันโดยผู้พูดและ ผู้ฟังเข้าใจกันอยู่แล้วว่า กำลังเชิญ ชวน ให้ทำอะไร
     7) Kekkoo desu และ ii desu เมื่อครูตั้งคำถาม และนักเรียนตอบได้ถูกต้องจะพูดว่า kekkoo desuหรือ ii desuถ้าไม่ถูกต้องจะพูดว่า chigaimasu และขอให้ระวังด้วยว่าหากพูดว่า Iie,kekkoo desu. จะมีความหมายว่าไม่ละครับ/ค่ะเป็นการปฏิเสธการชักชวน
ภาษาญี่ปุ่น มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า : คำทักทายในภาษาญี่ปุ่นตัวเลข
     0 0 zero,rei
     1 1 ichi
     2 2 ni
     3 3 san
     4 4 shi,yon
     5 5 go
     6 6 roku
     7 7 shichi,nana
     8 8 hachi
     9 9 kyuu,ku
     10 10 juu
ตั้งแต่ 11 ขึ้นไปก็เพิ่มจำนวนหลักเป็น 10,100,1000,10000 เช่นเดียวกับภาษาไทย อนึ่งขอให้ระวังการออกเสียงตัวเลขบางตัวเช่น
     14 14 juu-shi,juu-yon 70 nanajuu,shichijuu
     17 17 juu-shichi,juu-nana 90 kyuujuu
     19 19 juu-kyuu,juu-ku 104 hyaku-yon
     24 nijuu-shi,nijuu-yon 109 hyaku-kyuu
     27 27 nijuu-shichi,nijuu-nana 300 sanbyaku
     29 29 nijuu-kyuu,nijuu-ku 400 yonhyaku
     40 yonjuu 600 roppyaku
     750 nanahyaku-gojuu 800 happyaku
     3000 sanzen 4000 yonsen
     8000 hassen 10000 ichiman
     1000000 hyakuman

 

ภาษาญี่ปุ่น , เรียนภาษาญี่ปุ่น , ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้น , ภาษาญี่ปุ่น คำทักทาย , คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น , ภาษาญี่ปุ่นคำพูดทั่วไป , ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในห้องเรียน , ภาษาญี่ปุ่นการนับเลข , ตัวเลขภาษาญี่ปุ่น , จำนวนนับภาษาญี่ปุ่น , คำทักทายทั่วไปในภาษาญี่ปุ่น

ที่มา www.arukithai.com/th

อัพเดทล่าสุด