แนวทางการดูแลภาวะ โลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ - โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงตั้งครรภ์ MUSLIMTHAIPOST

 

แนวทางการดูแลภาวะ โลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ - โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงตั้งครรภ์


2,836 ผู้ชม


โลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์


เลือดจาง...อาการน่าห่วงของแม่ท้อง (Mother & Care)

แนวทางการดูแลภาวะ โลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์  - โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงตั้งครรภ์


           สาเหตุของเลือดจาง
          ปกติในเม็ดเลือดแดงจะมี “ฮีโมโกลบิน” สารโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งในเวลาที่หายใจเข้า ฮีโมโกลบินจะทำหน้าที่นำออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงถ่ายออกซิเจนไปสู่รกเพื่อให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ของแม่และลูกในท้องทำหน้าที่ได้ตามปกติ
          ภาวะ เลือดจาง เกิดจากการที่ฮีโมโกลบินต่ำกว่าปกติ หรือมีเม็ดเลือดแดงปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ไม่ดี ซึ่งในช่วงตั้งท้องจะมีเลือดเพิ่มขึ้นมากกว่าในภาวะปกติ ทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลง โดยระดับของฮีโมโกลบินในช่วงตั้งท้องจะค่อยๆ ลดลงอยู่ และจะกลับสู่ค่าปกติหลังคลอดลูกแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ แต่คุณแม่ท้องต้องระวังไม่ให้ระดับฮีโมโกลบินต่ำกว่า 11 กรัมเปอร์เซ็นต์ เพราะจะทำให้เกิดภาวะเลือดจาง และหากเป็นมากก็จะอันตรายต่อแม่และลูกในท้อง
          นอก จากนี้ ภาวะเลือดจางอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก เช่น การได้รับสารอาหารโดยเฉพาะธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ขาดกรดโฟเลต ริดสีดวงทวารเลือดออกเนื่องจากมีแผลในกระเพาะอาหาร หรือเป็นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ เป็นต้น
           อาการของเลือดจางในแม่ท้อง
           หน้าซีด เหนื่อยง่าย เวียนหัวและเป็นลมบ่อยๆ
           หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
           คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
          หากคุณแม่มีภาวะเลือดจางมากแล้ว อาจทำให้แท้งและคลอดก่อนกำหนด หรือระยะการคลอดนาน เนื่องจากมดลูกบีบรัดตัวไม่ดี นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณแม่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย หรือตกเลือดระหว่างคลอดอีกด้วย
          ทั้ง นี้ การที่คุณแม่มีภาวะเลือดจางในขณะตั้งครรภ์เลือดที่ไปเลี้ยงรกจะมีออกซิเจน น้อยกว่าปกติ ทำให้ออกซิเจนที่ส่งไปยังลูกมีน้อยกว่าจำนวนที่ควรได้รับซึ่งอาจทำให้เกิด อันตรายต่อลูกได้ คือ
           ทารกมีโอกาสพิการแต่กำเนิดสูง
           คลอดก่อนกำหนดและทารกน้ำหนักน้อย
           ทารกเสียชีวิตในครรภ์
           ทารกคลอดออกมาแล้วเสียชีวิต
           ทารกที่เกิดมาเป็นโรคเลือดจาง
           แม่ท้องป้องกันเลือดจางได้อย่างไร?
          ก่อนตั้งครรภ์ ควรมีการตรวจเช็คร่างกายก่อนว่ามีภาวะเลือดจางหรือไม่ ถ้าเป็นเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็กก็ควรกินอาหารเสริมให้ร่างกายเป็นปกติ ก่อนจึงตั้งครรภ์ และเมื่อตั้งครรภ์แล้วควรรีบไปฝากครรภ์เพื่อให้คุณหมอตรวจว่ามีภาวะเลือดจาง หรือไม่
          ส่วนใหญ่แล้วแม่ท้องที่เลือดจางนานๆ ระหว่างตั้งครรภ์มักเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ดังนั้น คุณหมอจะให้ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็กและวิตามินเสริมมาให้กินตลอดระยะที่ตั้งครรภ์และ 6 สัปดาห์หลังคลอด สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็ควรจะได้รับธาตุเหล็กไปจนถึง 6 เดือนหลังคลอด เพื่อไม่ให้ร่างกายของคุณแม่ขาดธาตุเหล็กและเกิดภาวะเลือดจาง ทั้งนี้ คุณแม่ต้องไม่ลืมที่จะดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอพักผ่อนให้เพียงพอ และหากมีโรคต่างๆ ที่อาจทำให้เสียเลือด ก็ควรรีบไปปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอดูแลอย่างใกล้ชิดและรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อลดการเสียเลือด
          นอกจากนี้ การกินอาหารของคุณแม่ก็ยังช่วยให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดจางได้ โดยอาหารที่คุณแม่ควรกินในระหว่างท้องเพื่อเสริมธาตุเหล็กให้ร่างกาย มีดังนี้
           โปรตีนจากเนื้อสัตว์ นอกเหนือจากเนื้อหมู ไก่ ไข่ และนมแล้ว คุณแม่ท้องควรกินปลาและอาหารทะเลอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
          โปรตีนจากพืช ได้แก่ ถั่วต่างๆ และผลิตผลจากถั่ว เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร เป็นต้น
          ธัญพืช ผัก และผลไม้ เช่น ข้าวกล้อง จมูกข้าว แครอท แคนตาลูป ฟักทอง บร็อคโคลี ผักคะน้า เป็นต้น
          คุณแม่ท้องจะต้องกินอาหารที่มีกากใยร่วมด้วย เพราะธาตุเหล็กจะทำให้ถ่ายยากและอุจจาระดำค่ะ
ที่มา  women.kapook.com

อัพเดทล่าสุด