https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
สูตรอาหารเช้า หมอแนะนำ จาก bloggang สูตรอาหาร MUSLIMTHAIPOST

 

สูตรอาหารเช้า หมอแนะนำ จาก bloggang สูตรอาหาร


994 ผู้ชม


ผลไม้-ธัญพืช สูตรอาหารเช้ารับอรุณ

นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
ตาม หลักการอาหารแนวธรรมชาติบำบัดให้ถือว่า ควรกินผัก ผลไม้กับธัญพืช 60% ลดไขมันลงเหลือวันละ 20% นอกนั้นให้กินโปรตีนประมาณ 50-60 กรัม ส่วนแคลอรีลดได้จากวันละ 3,300 แคลอรีต่อวันเหลือ 1,600 แคลอรี ที่เป็นเช่นนี้ตั้งอยู่บนเหตุผลที่ว่าร่างกายของคนเราที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้ว ไม่ต้องการอาหารโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตมากนัก เพียงเอามาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเท่านั้น
ปัญหาประการหนึ่งที่คนแวดล้อมผมมักหยิบยกขึ้นมาถามก็คือกินผลไม้จะอยู่ท้องหรือเปล่า นี่น่าจะเป็นเรื่องที่เราต้องพูดคุยกัน
ในทางปฏิบัติจริงเราต้องรู้ก่อนว่าระดับอาหารที่เรากินทุกวันนี้ ปริมาณแคลอรีสูงเกินมาตรฐาน ไขมันก็ล้นเกิน อาหารที่ล้นเกินเหล่านี้ไปไหน ก่อนอื่นเมื่อแป้งถูกย่อยเป็นน้ำตาลแล้วดูดซึมเข้าไปสู่กระแสเลือดส่งถึง เซลล์ กระบวนการที่อาหารจะผ่านเข้าสู่เซลล์และเซลล์เผาผลาญอาหารได้ เซลล์ต้องใช้วิตามินและเกลือแร่ชนิดต่างๆ
แต่ในร่างกายที่ไม่ค่อยได้กินผัก ผลไม้และธัญพืช เซลล์จะขาดวิตามิน และเกลือแร่เหล่านี้ อาหารส่งมาถึงปากประตูแล้วแต่เซลล์เอาไปใช้งานไม่ได้ อาหารก็จะล้นเหลือแล้วส่งไปเก็บเป็นแป้งชนิดหนึ่งเรียกว่า ไกลโคเจน เก็บไว้ที่ตับ ส่วนไขมันก็เก็บไว้ตามพุงกะทิ
วันแล้ววันเล่าที่ร่างกายรับอาหารล้นเกินอยู่เรื่อยๆ นอกจากเราจะอ้วนขึ้นแล้ว เซลล์ของเรายังเคยชินกับระดับน้ำตาลสูงๆ ที่เข้าไปหล่อเลี้ยง ถึงแม้น้ำตาลเหล่านั้นจะไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์เท่าที่ควรก็ตาม
ครั้นเมื่อเราทำงานหนักซึ่งต้องใช้น้ำตาลกลูโคสขึ้นมาจริงๆ โดยธรรมชาติร่างกายเราจะเปลี่ยนไกลโคเจนที่ตับออกมาเป็นน้ำตาลอีกครั้งหนึ่ง ถ้ายังไม่พอก็จะหมุนเอาไขมันที่สะสมอยู่ตามใต้ผิวหนัง แต่ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการสลายไกลโคเจนกับไขมันที่สะสมอยู่ในคลังอาหาร เราก็มักจะรู้สึกหิวโหยขึ้นมาเสียก่อน อันเป็นเหตุให้เรากินอาหารเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้นถ้าเปลี่ยนอาหารมาเป็นผัก ผลไม้และธัญพืช 60% ย่อมเป็นธรรมดาอยู่เองที่เซลล์ทั่วร่างกายจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่จำ เป็นในการเผาผลาญสารอาหารได้ครบครัน ดังนั้นแม้ว่าเราจะลดปริมาณแคลอรี ซึ่งก็คือ ข้าวและน้ำตาล หรือไขมันที่เรากินให้เหลือน้องลงไป แต่เซลล์ก็กลับมีประสิทธิภาพที่จะใช้สารอาหารเหล่านี้ได้หมดจดเกลี้ยงเกลา คนที่กินอาหารด้วยสูตรนี้จึงพบว่าร่างกายจะแข็งแกร่ง มีเรี่ยวแรง แต่ไม่อ้วนเลย...
ผมแนะนำให้คนหันมากินอาหารเช้าด้วย ผลไม้และธัญพืช เพราะทุกวันนี้อาหารของคนในเมืองเปลี่ยนแปรไปมาก หลายคนไม่ยอมกินอาหารเช้า บางคนกินกาแฟถ้วยเดียวกับปาท่องโก๋ บางคนกินขนมปังทาเนยและแยม บางคนกินขนมปังไข่ดาว หมูแฮมแบบอเมริกันเบรกฟาสต์เลยทีเดียว ที่เป็นจารีตนิยมหน่อยก็กินข้าวต้มกับกับข้าวเบาๆ สองสามอย่าง
ลองหันกินอาหารเช้าแบบธรรมชาติบำบัดที่ผมใช้อยู่บ้าง อาจได้ความอร่อย ทรงคุณค่าอีกแบบหนึ่ง
หนึ่ง ผมใช้ผลไม้ตามฤดูกาล ตั้งแต่มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงสุกอย่างน้ำดอกไม้หรืออกร่อง ชมพู่ มะละกอ ส้มโอ หรือฝรั่ง เลือกเอาสักอย่างหนึ่งตามใจคุณ หั่นใส่จานให้ได้สักครึ่งจาน
ส่วนที่สองคือธัญพืช ผมใช้ลูกเกาลัด มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลันเตา ถั่วเขียว บางครั้งก็ลูกเดือย เมล็ดบางชนิดผมเลือกที่คั่วสุกแล้วไม่ใส่เกลือ บางชนิดกินดิบได้ อย่างมะม่วงหิมพานต์เป็นต้น สำหรับลูกเดือยต้องแช่น้ำข้ามคืนแล้วรุ่งเช้าเทน้ำออก เอาใส่เตาไมโครเวฟสัก 6 นาที ใครที่ไม่นิยมไมโครเวฟก็จะเอาใส่กระชอนจุ่มลงลวกในน้ำต้มเดือดๆ ครู่เดียวแล้วจุ่มน้ำเย็นรอบหนึ่ง จะสุกพอดีกิน อาหารส่วนนี้มีปริมาณสัก ? จาน
ส่วนที่สามคือผลไม้แห้ง ส่วนนี้มีไว้เพื่อเพิ่มความหวานให้กับอาหารมื้อนี้ อาจใช้ลูกเกด พลับแห้ง สาลี่แห้ง สตรอเบอร์รี่แห้งหรือินทผลัม ส่วนนี้มีปริมาณสัก ? จานเช่นเดียวกัน ผลไม้แห้งได้จากโครงการหลวงฯ ที่ตลาด อตก.
กินอาหารจานนี้พร้อมกัน


  

ที่มา   board.palungjit.com

อัพเดทล่าสุด