https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบผลักดันใช้ คะแนนโอเน็ต สอบจบ ม.3 และ ม.6 MUSLIMTHAIPOST

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบผลักดันใช้ คะแนนโอเน็ต สอบจบ ม.3 และ ม.6


607 ผู้ชม


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบผลักดันใช้ คะแนนโอเน็ต สอบจบ ม.3 และ ม.6

รมว.ศึกษา เตรียมดันใช้โอเน็ตสอบจบ ม.3 และ ม.6

สอบโอเน็ต

รมว.ศึกษาฯ เห็นชอบผลักดันใช้คะแนนโอเน็ตเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนจบการศึกษา ม.3 และ ม.6 เตรียมเสนอ ครม.เริ่มปี 2555 นี้ทันทีในสัดส่วนร้อยละ 20 และเพิ่มขึ้นจนเป็นร้อยละ 50 ภายในปี 2558 ขณะที่คะแนนโอเน็ต ป.6 ม.3 ประกาศผลแล้ว พบนโยบายใช้โอเน็ตคัดเลือกเข้าเรียนต่อ ม.1 ม.4 ส่งผลให้คะแนนเพิ่มเกือบทุกวิชา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเพิ่มเท่าตัว

ศ.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) โดยได้เห็นชอบในหลักการให้นำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ในระดับชั้น ม.3 และ ม.6 เป็นส่วนหนึ่งของการจบการศึกษาภาคบังคับและมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือการใช้เป็น Exit Exam โดยให้เริ่มในปี 2555 ในสัดส่วนร้อยละ 20 ของผลการเรียน และเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ในปีถัดไป และร้อยละ 50 ภายในปี 2558 ซึ่งจากนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะเปิดรับฟังความคิดเห็น ก่อนจะออกเป็นประกาศกระทรวงศึกษาธิการต่อไป และเนื่องจากเป็นประเด็นที่มีผลกระทบกับโรงเรียนในทุกสังกัด จึงจะเสนอให้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย

“จะปรับปรุงระบบการศึกษาให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง โดยการใช้ผลสอบโอเน็ตเป็นส่วนหนึ่งของการจบการศึกษา ซึ่งยกระดับการศึกษาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หลังจากนี้ สพฐ. และ สทศ. จะทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นผู้เกี่ยวข้อง ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ประกาศเป็นนโยบายรัฐบาล” ศ.สุชาติ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังกล่าวสนับสนุนให้ สทศ.เสนอของบประมาณเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2556 เพื่อการจัดทำคลังข้อสอบ (Item Bank) และการวางระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Testing) ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการจัดสอบที่กว้างขวางและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น

ด้าน รศ.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการ สทศ. เปิดเผยว่า สทศ.ได้ประกาศผลการสอบโอเน็ตระดับชั้น ป.6 และ ม.3 ปีการศึกษา 2554 แล้ว เมื่อเวลา 22.00 น. คืนวันที่ 26 เมษายน 2555 และจากการวิเคราะห์ผลสอบในภาพรวมพบว่า ทั้ง ป.6 และ ม.3 ส่วนใหญ่มีผลคะแนนดีขึ้นเกือบทุกรายวิชา ภายหลังจากที่ สพฐ.ได้ประกาศว่าจะนำผลคะแนนโอเน็ตครั้งนี้ให้มีผลต่อการเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 อย่างไรก็ตาม เป็นการเทียบเคียงกับผลการสอบในปี 2553 ซึ่งเป็นข้อสอบฉบับสั้น จึงจะไปตรวจสอบในรายละเอียดของคะแนนที่เพิ่มหรือลดในแต่ละรายวิชาโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ผลสอบโอเน็ตทั้ง ป.6 และ ม.3 มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีที่ผ่านมา เป็นสัญญาณว่าแนวทางการเพิ่มความสำคัญของการสอบโอเน็ตมาถูกทางแล้ว แม้จะเป็นการประกาศใช้คะแนนโอเน็ตร้อยละ 20 ในการคัดเลือกเข้าเรียนต่อ ม.1 และ ม.4 เฉพาะโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงเท่านั้น แต่เชื่อว่าได้ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อนักเรียนทั้งระบบ ขณะที่นโยบายการยกระดับคะแนนโอเน็ตก็ทำให้โรงเรียนและครูพัฒนามาตรฐานการเรียนการสอนให้สูงขึ้นด้วย

สำหรับค่าสถิติผลการสอบโอเน็ตระดับชั้น ป.6 ปีการศึกษา 2554 มีนักเรียนผู้เข้าสอบกว่า 780,000 คน วิชาภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ย 50.04 คะแนน วิชาสังคมศึกษา 52.40 คะแนน วิชาภาษาอังกฤษ 40.82 คะแนน วิชาคณิตศาสตร์ 52.22 คะแนน วิชาวิทยาศาสตร์ 38.37 คะแนน วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา 58.87 คะแนน วิชาศิลปะ 46.75 คะแนน และวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 55.38 คะแนน ซึ่งโดยส่วนใหญ่คะแนนเพิ่มขึ้นจากการสอบโอเน็ตในปีการศึกษา 2553 ซึ่งใช้ข้อสอบฉบับสั้น โดยวิชาที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ภาษาอังกฤษ จากปีก่อนคะแนนเฉลี่ย 20.99 คะแนน ส่วนวิชาที่คะแนนลดลง คือ วิทยาศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยในปีก่อน 41.56 คะแนน

สำหรับค่าสถิติผลการสอบโอเน็ตระดับชั้น ม.6 ปีการศึกษา 2554 มีนักเรียนผู้เข้าสอบราว 790,000 คน วิชาภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ย 48.11 คะแนน วิชาสังคมศึกษา 42.73 คะแนน วิชาภาษาอังกฤษ 30.49 คะแนน วิชาคณิตศาสตร์ 32.08 คะแนน วิชาวิทยาศาสตร์ 32.19 คะแนน วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา 50.87 คะแนน วิชาศิลปะ 43.50 คะแนน และวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 47.29 คะแนน ซึ่งโดยส่วนใหญ่คะแนนเพิ่มขึ้นจากการสอบโอเน็ต ม.3 ในปีการศึกษา 2553 ซึ่งใช้ข้อสอบฉบับสั้น โดยวิชาที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด คือภาษาอังกฤษ จากปีก่อนคะแนนเฉลี่ย 16.19 คะแนน ส่วนวิชาที่คะแนนลดลง คือ สุขศึกษา คะแนนเฉลี่ยในปีก่อน 71.97 คะแนน.

ขอบคุณที่มา สำนักข่าวไทย

  Link     Mthai News

อัพเดทล่าสุด