https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
วิธีการชําระหนี้ กยศ ผ่อนผันการชําระหนี้ กยศ ขอผ่อนผันชําระหนี้ กยศ การชําระหนี้ กยศ แบบรายเดือน MUSLIMTHAIPOST

 

วิธีการชําระหนี้ กยศ ผ่อนผันการชําระหนี้ กยศ ขอผ่อนผันชําระหนี้ กยศ การชําระหนี้ กยศ แบบรายเดือน


11,866 ผู้ชม


วิธีการชําระหนี้ กยศ ผ่อนผันการชําระหนี้ กยศ  ขอผ่อนผันชําระหนี้ กยศ การชําระหนี้ กยศ แบบรายเดือน

การชำระหนี้/การผ่อนผัน 
หลักเกณฑ์การชำระหนี้ 
 
เมื่อผู้ กู้ ยืมสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาแล้วเป็นเวลา 2 ปี ผู้กู้ยืมเงินมีหน้าที่ต้องชำระเงินกู้ยืมคืนให้แก่กองทุนเงินให้กู้ยืม เพื่อการศึกษา
ตามระยะเวลาและวิธีการที่กำหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ
ผู้ กู้ยืมที่กำลังศึกษาอยู่และไม่ได้กู้ยืมเงินติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี และไม่ได้แจ้งสถานภาพการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาให้ธนาคารทราบ
ถือว่าเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้
ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคมของปีที่ครบกำหนดชำระหนี้ ผู้กู้ยืมจะได้รับหนังสือจากธนาคาร เพื่อแจ้งเงินต้นทั้งหมด จำนวนเงินที่ต้องชำระหนี้
งวดแรก ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ รวมทั้งตารางการชำระหนี้ของแต่ละปี ให้ผู้กู้ยืมทราบ
ผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้จะต้องชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของปีที่ครบกำหนดชำระหนี้
ผู้ กู้ยืมต้องชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงค้างของปีที่ 1 เป็นต้นไป โดยจะต้องชำระหนี้ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม
ของทุกปีและจะต้องชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 ปี นับจากวันครบกำหนดชำระหนี้งวดแรก
ผู้กู้ยืมสามารถเลือกผ่อนชำระหนี้เป็นรายปีหรือรายเดือนได้แต่ระยะเวลารวมกันต้องไม่เกิน 15 ปี
หาก ผู้กู้ยืมไม่ชำระหนี้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด คือภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งผู้กู้ยืมจะต้อง
เสียเบี้ยปรับเฉพาะเงินต้นที่ค้างชำระในอัตราดังนี้
ค้างชำระ 1-12 เดือน เสียเบี้ยปรับร้อยละ 12 ต่อปี
ค้างชำระเกิน 12 เดือน เสียเบี้ยปรับร้อยละ 18 ต่อปี
ผู้กู้ยืมอาจชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนถึง กำหนดชำระได้โดยไม่เสียดอกเบี้ย
 
มาตรการในการติดตามหนี้ กรณีผู้กู้ค้างชำระ
 
 
ส่งจดหมายถึงผู้กู้ที่จะครบกำหนดชำระหนี้ เพื่อแจ้งภาระหนี้และวิธีการติดต่อขอชำระหนี้ให้ทราบก่อนถึงวันครบกำหนดชำระ
ผู้กู้ที่ยังไม่มีความสามารถชำระกองทุนฯ ให้โอกาสขอผ่อนผันการชำระได้ หากมีเหตุผลสมควรและเข้าเกณฑ์การผ่อนผัน
เมื่อผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้
เดือนแรกโทรศัพท์เตือนให้มาชำระ
เดือนที่ 2 ถึงเดือนที่ 12 โทรศัพท์และส่งจดหมายติดตามทวงถามเป็นระยะๆ
เกิน 12 เดือน หากยังไม่ได้รับการติดต่อชำระหนี้ จะติดตามผู้กู้และผู้ค้ำประกันโดยวิธีออกไปพบตัว (Home Visit)
 
วิธีนับระยะเวลาครบกำหนดชำระหนี้
 
 
ตัวอย่าง ผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาในปีการศึกษา 2545 ผู้กู้ยืมจะครบกำหนดชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2548
 
 
 
ช่องทางในการชำระหนี้คืน สามารถเลือกช่องทางในการชำระหนี้ได้ 2 วิธี
 
 
1. ชำระที่เคาน์เตอร์ธนาคาร
ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้มากกว่าหรือเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ต้องชำระก็ได้
ผู้กู้ยืมจะได้รับใบรับเงินเพื่อกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเก็บไว้เป็นหลักฐาน
2. ชำระโดยการหักบัญชีอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้กู้ยืม
ผู้กู้ยืมจะต้องแจ้งความประสงค์กับธนาคารให้หักบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้กู้ยืม ที่เปิดไว้ตอนทำสัญญากู้หรือบัญชีเงินฝาก
ออม ทรัพยที่ผู้กู้ยืมเปิดใหม่ และผู้กู้จะต้องนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ผู้กู้ยืมเปิดใหม่ และผู้กู้จะต้องนำเงินเข้าบัญชีเงินฝาก
ออมทรัพย์ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี (กรณีชำระหนี้เป็นรายปี) หรือก่อนวันที่ 5 ของทุกเดือน (กรณีชำระหนี้เป็นรายเดือน) ผู้กู้ยืม
จะต้องนำบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ไปรับรายการหักบัญชีที่สาขาและเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 
อนึ่ง การให้บริการรับชำระหนี้ทั้ง 2 ช่องทางนี้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท
 
 
วิธีการชำระหนี้
 
 
1. การติดต่อชำระหนี้ครั้งแรก ผู้กู้ยืมทุกรายต้องติดต่อแสดงตนในการชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ สาขาใดก็ได้ที่ท่านสะดวก
โดยขอให้ผู้กู้ยืมดำเนินการดังนี้
1.1 กรอกหนังสือแสดงตนในการชำระหนี้ (กยศ.201) และเก็บสำเนาไว้เป็นหลักฐาน
1.2 หากผู้กู้ยืมประสงค์จะเปลี่ยนงวดการชำระหนี้จากรายปีเป็นรายเดือนสามารถทำได้ โดยให้ผู้กู้ยืมแจ้งความประสงค์ดังกล่าว
กับพนักงานของธนาคาร
1.3 แจ้งจำนวนเงินที่ผู้กู้ยืมประสงค์จะชำระหนี้งวดแรกพร้อมชำระหนี้กับพนักงานของธนาคาร โดยผู้กู้ยืมจะได้รับใบรับเงิน
เพื่อชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เก็บไว้เป็นหลักฐาน
2. การชำระหนี้ครั้งต่อไป
ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้ ได้ตามวิธีใดวิธีหนึ่งของการชำระหนี้ทั้ง 3 วิธีตามที่กล่าวข้างต้น
 
 
การชำระหนี้ก่อนกำหนด
 
1. ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้คืนกองทุนฯทั้งหมดหรือบางส่วนในช่วงก่อนสำเร็จการศึกษา หรือช่วงระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปีได้โดยผู้กู้ยืม
ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
2. กรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่สำเร็จการศึกษา ผู้กู้ยืมสามารถหยุดพักชำระหนี้และสามารถกู้ยืมเงินต่อไปในปีการศึกษาที่เหลือได้
 
 
กรณีผู้กู้ยืมศึกษาอยู่ หรือสำเร็จการศึกษาไม่ถึง 2 ปี
 
1. กรณีที่ผู้กู้ยืมเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้แล้ว แต่ผู้กู้ยืมกำลังศึกษาอยู่ให้ผู้กู้ยืมนำรายงานสถานภาพการศึกษา (กยศ.204) หรือ
หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาที่รับรองสำเนาถูกต้องแล้วไปให้ธฯาคารเพื่อชะลอการชำระหนี้
และหากในปีต่อๆ ไป ผู้กู้ยืมยังไม่สำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา ให้ผู้กู้ยืมนำเอกสารดังกล่าวไปให้ธนาคารตั้งแต่วันที่
1 กรกฎาคมของทุกปีเป็นต้นไป จนกว่าผู้กู้ยืมจะสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา
2. กรณีที่ผู้กู้ยืมเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้แล้ว แต่ผู้กู้ยืมดังกล่าวสำเร็จการศึกษาไม่ถึง 2 ปี ให้ผู้กู้ยืมนำหนังสือรับรองการสำเร็จ
การศึกษาหรือใบปริญญาบัตร หรือใบประกาศนียบัตร หรือรายงานผลการศึกษา (Transcript) ของสถานศึกษาที่รับรอง
สำเนาถูกต้องแล้วไปให้ธนาคารเพื่อชะลอการชำระหนี้
 
 
กรณีการขอผ่อนผันชำระหนี้ ผู้กู้ยืมต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ครบกำหนดชำระหนี้แต่ละงวด หากผู้กู้ยืมยังไม่ชำระ
และ พ้นวันที่ครบกำหนดชำระแล้ว (5 กรกฎาคม ของทุกปี) ถือว่าผู้กู้ยืมค้างชำระหนี้จะต้องเสียเบี้ยปรับและถูกติดตามหนี้จนกว่าจะ ได้รับอนุมัติ
ผ่อนผันชำระหนี้ จึงระงับการติดตามและถือเป็นหนี้ปกติต่อไป
 
 
การยกเลิกสัญญาฯ ระหว่างการศึกษา
 
 
การ ยกเลิกสัญญาฯ ระหว่างปีการศึกษา เกิดขึ้นได้ตามความประสงค์ของผู้กู้ยืมเองหรือยกเลิกสัญญาฯ โดยกองทุนฯ เนื่องจากผู้กู้มีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง
หรือความประพฤติไม่เหมาะสม ผู้กู้ยืมมีหน้าที่ต้องชำระหนี้คืนกองทุนฯ ภายใน 30 วัน หรือภายในเวลาที่ได้ทำความตกลงกับกองทุนฯ โดยผู้กู้ยืมจะติดต่อ
ทำหนังสือยกเลิกและชำระหนี้ทั้งหมดได้ภายใน 30 วัน ธนาคารจะส่งเรื่องให้กองทุนฯ พิจารณาเป็นรายไป
กรณี ที่ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ถึงแก่ความตายหนี้ตามสัญญากู้ยืมฯ เป็นอันระงับไป ทั้งนี้ทายาทหรือสถาบันต้องส่งสำเนาใบมรณบัติที่รับรองโดยเจ้าหน้าที่
ราชการ ผู้มีอำนาจให้ธนาคารทราบ และกรณีผู้กู้พิการ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบการงานได้ ให้ขอผ่อนผันจากคณะกรรมการฯ เป็นกรณีๆ ไป

การชำระหนี้
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
(1) หลักเกณฑ์การชำระหนี้
           1.เมื่อผู้กู้ยืมเงินสำเร็จการศึกษา หรือเลิกการศึกษาเป็นเวลา 2 ปี จะเข้าข่ายเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้ ผู้กู้ยืมเงินมีหน้าที่ต้องชำระเงินกู้ยืมเงินให้กับกองทุนตามระยะเวลาและ วิธีการที่กำหนดไว้ในระเบียบของคณะกรรมการกองทุนฯ
           2. ผู้กู้ยืมที่กำลังศึกษาอยู่และไม่ได้กู้ยืมเงินติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปีและไม่ได้แจ้งสถานภาพการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาให้ธนาคารทราบจะเข้าข่าย เป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้
           3. ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคมของปีที่ครบกำหนดชำระหนี้ ผู้กู้ยืมจะได้รับหนังสือจากธนาคารเพื่อแจ้งเงินต้นทั้งหมดจำนวนเงินที่ต้อง ชำระหนี้งวดแรก ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ รวมทั้งตารางการชำระหนี้ของแต่ละปี ให้ผู้กู้ยืมทราบ
ทั้งนี้ผู้กู้ยืมที่ได้ย้ายที่อยู่ไปจากที่อยู่เดิมเมื่อครั้งทำสัญญากู้จะต้องแจ้งที่อยู่ใหม่ให้ธนาคารทราบด้วย
           4.ผู้กู้ยืมที่ครบกำหนดชำระหนี้จะต้องชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของปีที่ครบกำหนดชำระหนี้
            5. ผู้กู้ยืมจะต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงค้างของปีที่ 1 เป็นต้นไป โดยจะต้องชำระหนี้ ภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี และจะต้องชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 ปี นับจากวันครบกำหนดชำระหนี้งวดแรก
             6. ในกรณีที่ผู้กู้ยืมเงินไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้คืนได้ภายในระยะเวลาที่ กำหนดคือภายในวันที่ 5 กรกฎาคม ของทุกปี ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ซึ่งผู้กู้ยืมจะต้องเสียเบี้ยปรับในอัตราร้อย ละ 12 ต่อปี ของเงินต้นที่ค้างชำระในงวดนั้น กรณีค้างชำระไม่เกิน 12 เดือน และจะต้องเสียเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด กรณีค้างชำระเกิน 12 เดือน
วิธีนับระยะเวลาครบกำหนดชำระหนี้
ตัวอย่าง ผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาในปีการศึกษา 2547 ผู้กู้ยืมจะครบกำหนดชำระหนี้งวดแรกภายใน วันที่ 5 กรกฎาคม 2550
                                                          (2) วิธีการชำระหนี้
การชำระหนี้มี 3 วิธีคือ
          1. ชำระโดยการหักบัญชีอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้กู้ยืม โดยผู้กู้จะต้องนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของตนที่มีอยู่กับธนาคาร เป็นเลขที่บัญชีเดียวกันกับผู้กู้ยืมได้รับเงินกู้เมื่อครั้งกู้ยืมเงิน หรือบัญชีออมทรัพย์ของผู้กู้บัญชีอื่นที่ผู้กู้ได้แจ้งความประสงค์ไว้ โดยนำเงินเข้าฝากก่อนวันที่ 5 กรกฎาคมของ ทุกปี (กรณีชำระหนี้เป็นรายปี) หรือก่อนวันที่ 5 ของทุกเดือน (กรณีชำระหนี้เป็นรายเดือน) ผู้กู้ยืมจะต้องนำบัญชีเงินฝากฯ ไปปรับ รายการหักบัญชีที่สาขาและเก็บไว้เป็นหลักฐาน วิธีนี้จะสะดวกกับผู้กู้ยืมที่ใช้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีรับเงิน เดือนหรือรายได้อื่นๆ
        2. ชำระหนี้ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้มากกว่า หรือเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ต้องชำระก็ได้ ผู้กู้ยืมจะได้รับ ใบรับเงินเพื่อชำระหนี้กองทุนฯ ไว้เป็นหลักฐาน
2.1 การติดต่อชำระหนี้
ผู้กู้ยืมทุกรายติดต่อชำระหนี้ได้ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาใดก็ได้ที่ท่านสะดวก ดังนี้
          1.1สำหรับผู้ที่เริ่มติดต่อชำระหนี้ในครั้งแรก ให้กรอกหนังสือแสดงตนในการชำระหนี้(กยศ.201) ครั้งต่อไปผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้ ได้ตามวิธีใดวิธีหนึ่งของการชำระหนี้ทั้ง 3 วิธีตามที่กล่าวข้างต้น
          1.2หากผู้กู้ยืมประสงค์จะเปลี่ยนงวดการชำระหนี้จากรายปีเป็นรายเดือน สามารถทำได้ โดยให้ผู้กู้ยืมแจ้งความประสงค์
           1.3 แจ้งจำนวนเงินที่ผู้กู้ยืมประสงค์จะชำระหนี้งวดแรก พร้อมชำระหนี้โดยผู้กู้ยืมจะได้รับใบรับเงินเพื่อชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ ยืมเพื่อการศึกษา เป็นหลักฐาน
2.2 การชำระหนี้ก่อนกำหนด
           1. ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้คืนกองทุนทั้งหมดหรือบางส่วนในช่วงก่อนสำเร็จการ ศึกษา หรือช่วงระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปีได้ โดยผู้กู้ยืมไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
           2. กรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับที่ไม่เกินกว่าระดับปริญญาตรี ผู้กู้ยืมสามารถหยุดพักชำระหนี้ และสามารถกู้ยืมเงินต่อไปในปีการศึกษาที่เหลือได้
 2.3 ตารางแสดงการคำนวณเงินต้นและดอกเบี้ย
          1. ผู้กู้ยืมกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 1 บาท
          2. คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงค้างของปีที่ 1 เป็นต้นไป
          3. ระยะเวลาในการชำระหนี้ 15 ปี
(ผู้กู้ยืมต้องเสียค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ครั้งละ 10 บาท)
ตารางแบบผ่อนชำระ 15 ปี
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าผู้กู้ยืมกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 100,000.-บาท
        1. นำยอดเงิน 100,000.-บาท คูณกับช่องที่ (2) จะทราบว่าเงินต้นคงเหลือในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินเท่าใด
        2. นำยอดเงิน 100,000.-บาท คูณกับช่องที่ (4) จะทราบว่าเงินต้นที่จะต้องชำระในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินเท่าใด
        3. นำยอดเงิน 100,000.-บาท คูณกับช่องที่ (5) จะทราบว่าดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินเท่าใด (ยกเว้นปีที่ 1 ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย)
4.นำยอดเงิน100,000.-บาทคูณกับช่องที่(6)จะทราบว่าเงินต้นและดอกเบี้ยที่จะต้องชำระในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินเท่าใด
2.4 กรณีผู้กู้ยืมศึกษาอยู่ หรือสำเร็จการศึกษาไม่ถึง 2 ปี
แต่ได้รับจดหมายแจ้งภาระหนี้
         ตามหลักเกณฑ์แล้วจะยังถือว่าไม่เป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้จะต้องทำ “หนังสือแบบรายงานสถานภาพการศึกษา (กยศ.204)” และให้สถาบันการศึกษารับรองทุกปีจนกว่าจะจบการศึกษา สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้วไม่ถึง 2 ปี ให้ผู้กู้ยืมนำหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาหรือใบปริญญาบัตร หรือใบประกาศนียบัตร หรือรายงานผลการศึกษา (Transcript) ไปให้สาขาของธนาคารเพื่อชะลอการชำระหนี้
           
                                          (3) ผู้กู้ยืมถึงแก่กรรม หรือทุพพลภาพ
 กรณี ผู้กู้ยืมถึงแก่กรรม หนี้ตามสัญญากู้ยืมเป็นอันระงับไป ทั้งนี้ทายาทหรือสถาบันการศึกษาต้องส่งสำเนาใบมรณบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ยืมที่ถึงแก่กรรม โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจรับรองสำเนาเอกสารดังกล่าว แล้วส่งให้ธนาคารทราบ
- กรณีผู้กู้ยืมทุพพลภาพ กองทุนมีอำนาจพิจารณาระงับการเรียกให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมได้ โดยต้องส่งสำเนาสมุดประจำตัวคนพิการที่รับรองแล้วให้ธนาคาร เพื่อเสนอกองทุนฯ พิจารณาระงับการเรียกให้ชำระหนี้ตามสัญญาต่อไป
(4) การขอผ่อนผันชำระหนี้
กอง ทุนฯ ได้มอบอำนาจให้ บมจ.ธนาคารกรุงไทยมีอำนาจในการพิจารณาผ่อนผันหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมที่ครบ กำหนดชำระหนี้แล้วแต่ยังไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้คืน โดยหากผู้กู้ยืมอยู่ในสถานะภาพเป็น ผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้น้อย (ต่ำกว่า4,700บาท)หรือประสบภัยพิบัติผู้กู้ยืมสามารถติดต่อขอผ่อนผันได้ โดยทำหนังสือขอผ่อนผัน(กยศ.202) พร้อมหนังสือรับรองการขอผ่อนผัน(กยศ.203) ส่งให้ บมจ.ธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาเมื่อธนาคารพิจารณาแล้วธนาคารจะมีหนังสือแจ้งผล การพิจารณาให้
ผู้กู้ยืมทราบต่อไป
ผู้กู้ยืมรายที่ธนาคารอนุมัติให้ ผ่อนผันได้ ถือว่าผู้กู้ยืมไม่เคยผิดนัดการชำระหนี้ซึ่งผู้กู้ยืมจะได้รับยกเว้นเบี้ย ปรับที่เกิดเนื่องจากการค้างชำระค่างวดเท่านั้นโดยผู้กู้ยืมยังคงต้องชำระ ค่างวดและดอกเบี้ยตามสัญญา ทั้งนี้ ธนาคารมีอำนาจผ่อนผันโดยการยืดเวลาการชำระหนี้งวดที่ค้างชำระออกไปได้คราวละ ไม่เกิน 6 เดือนติดต่อกันแล้วไม่เกิน 2 ปี
กรณีการขอ ผ่อนผัน ชำระหนี้ ผู้กู้ยืมต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ครบกำหนดชำระหนี้แต่ละงวด หากพ้นวันที่ครบกำหนดชำระแล้ว (5 กรกฎาคม ของทุกปี) ถือว่า
ผู้กู้ยืมค้างชำระหนี้จะต้องเสียเบี้ยปรับและถูกติดตามหนี้จนกว่าจะได้รับอนุมัติ
ผ่อนผันชำระหนี้จึงระงับการติดตามและถือเป็นหนี้ปกติต่อไป
 (5) เงื่อนไขตามสัญญากู้ยืมเงินกองทุนฯ
ที่ผู้กู้ควรทราบและถือปฏิบัติ
1. ถ้าผู้กู้ยืมเปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุล หรือสถานที่อยู่ หรือย้ายสถานศึกษา หรือจบการศึกษาหรือเลิกการศึกษา ผู้กู้ยืมมีหน้าที่แจ้งให้ธนาคารผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืมทราบเป็น หนังสือภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุล หรือสถานที่อยู่ หรือย้ายสถานศึกษา หรือจบการศึกษา หรือเลิกการศึกษา มิฉะนั้นถือว่าผู้กู้ยืมผิดสัญญา ผู้ให้กู้ยืมมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และเรียกเงินกู้ที่ผู้กู้ยืมได้รับไปแล้วทั้งหมดคืนในทันที
2. ผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษา และเข้าทำงานในสถานที่ใด ผู้กู้ยืมต้องแจ้งที่อยู่และสถานที่ทำงานนั้น พร้อมทั้งจำนวนเงินเดือน หรือค่าจ้างที่ได้รับให้ธนาคารผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืมเพื่อการ ศึกษาทราบเป็นหนังสือภายใน 30 วันนับแต่วันที่ผู้กู้ยืมเริ่มทำงาน และในกรณีที่ผู้กู้ยืมย้ายที่อยู่หรือเปลี่ยนแปลงงานหรือสถานที่ หรือเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเงินเดือนหรือ ค่าจ้าง ผู้กู้ยืมต้องแจ้งให้ธนาคารผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืมฯ ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ผู้กู้ยืมย้ายที่อยู่ เปลี่ยนงานหรือเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเงินเดือน
หรือค่าจ้างทุกๆ ครั้ง
3. ให้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อปฏิบัติในข้อ 1 และ 2 ส่ง
บมจ.ธนาคารกรุงไทย
แจ้งเปลี่ยนที่อยู่ /ที่ทำงาน/สถานะอื่นๆ
ในกรณีที่ผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงสถานะของตัวเอง
เช่น เปลี่ยนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เลขที่บัญชีเงินฝาก เข้าทำงานหรือย้ายสถานที่ทำงาน   
ผู้กู้ยืมจะต้องกรอกข้อความ และจัดส่งให้ ฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย

Source: https://www.studentloan.or.th

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
ชั้น 16 อาคาร 2 เลขที่ 63 ซอยทวีมิตร ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กทม. 10310
โทรศัพท์ 0-2610-4888 โทรสาร 0-2643-1470

อัพเดทล่าสุด