https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
โรคเริมที่ก้น สาเหตุโรคเริม โรคเริมกับคนท้อง MUSLIMTHAIPOST

 

โรคเริมที่ก้น สาเหตุโรคเริม โรคเริมกับคนท้อง


2,696 ผู้ชม


โรคเริมที่ก้น สาเหตุโรคเริม โรคเริมกับคนท้อง

 

 

 

ป้องกันไม่ให้กลับเป็นเริมซ้ำ

โรคเริมที่ก้น สาเหตุโรคเริม โรคเริมกับคนท้อง
เริมเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัส HSV ซึ่งมี 2 ชนิด คือ HSV1 เกิดที่ริมฝีปากและ HSV2 เกิดที่อวัยวะเพศ การติดเชื้อครั้งแรกจะรุนแรง อาจจะมีไข้ อ่อนเพลีย ตุ่มน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงโต อาการผื่นจะคันๆ แสบๆ ต่อมาจะมีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นเป็นกลุ่มๆ จากนั้นจะแตกเป็นแผลมีน้ำเหลืองไหล 2-4 วัน แล้วตกสะเก็ด แผลจะหายเองใน 2-3 สัปดาห์ เมื่อแผลแห้งจะไม่ติดต่อ แต่เมื่อหายแล้วเชื้อจะยังอยู่ในร่างกาย เมื่อมีปัจจัยมากระตุ้นเช่น เครียด ร่างกายอ่อนแอ ไม่สบาย พักผ่อนไม่เพียงพอ เชื้อก็จะเคลื่อนมาตามเส้นประสาทแล้วกลับมาเป็นโรคอีก การกลับมาเป็นซ้ำอาการจะไม่รุนแรง ไม่มีไข้ แผลหายเร็วขึ้น ต่อมน้ำเหลืองไม่โต คนที่เป็นโรคเอดส์ อาการจะรุนแรงกว่าคนปกติมาก แผลจะใหญ่และเรื้อรัง


การตากแดด แสงยูวีจะเป็นตัวกระตุ้นเชื้อไวรัสนี้ได้ เพราะยูวีไปกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ผู้หญิงที่เป็นเริมที่ก้น หากมีรอบเดือนก็จะทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นได้

การดูแลรักษา
หากมีอาการแสบๆ คันๆ หรือเห็นผื่นครั้งแรก ควรรีบทานยาจะทำให้หายเร็วขึ้น การทานยาฆ่าเชื้ออาจทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้เป็นผื่นมากขึ้น

บางคนเป็นเริมบ่อย เป็นทุกเดือนจนน่ารำคาญอาจไปพบแพทย์เพื่อทานยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องก็อาจจะช่วยได้

การป้องกัน

วิธีที่ดีที่สุดต้องอาศัยภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำให้ไวรัสสงบลง ไม่เครียด พักผ่อนให้พอ ไม่ตากแดดมากเกินไปค่ะ


แหล่งที่มา : ladytip.com

อัพเดทล่าสุด