https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ผักไฮโดรโปนิกส์ pantip ไฮโดรโปนิกส์ สวนจตุจักร ปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์ MUSLIMTHAIPOST

 

ผักไฮโดรโปนิกส์ pantip ไฮโดรโปนิกส์ สวนจตุจักร ปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์


1,288 ผู้ชม


ผักไฮโดรโปนิกส์ pantip ไฮโดรโปนิกส์ สวนจตุจักร ปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์

 

วิธีปลูกผักไฮโดรโปนิค

สวัสดีจ้ามาพบกันอีกครั้งกับคอลัมน์ DIY วันนี้พี่ Skoolbuz พาน้องๆ มาพบกับความรู้กับการปลูกผักไฮโดรโปนิค เอาไว้ทานเองที่บ้านแบบง่ายๆ ทำไม่ยากเลย ใครอยากลองทำก็ลองดูได้เลยนะจ๊ะ

 1.ขีดฟองน้ำตามภาพ

2.ตัดให้เป็นลูกเต๋า

 

3.เอาหัวแร้ง มาเจาะรูแก้ว กว้าง 1นิ้ว (แก้วเล็กจะทนกว่า )

 

 โต๊ะปลูก ใช้ตาข่าย เจาะรู หรือ โฟม

โฟมหนา1" เจาะรูตามขนาดของแก้ว 
โฟม 1 แผ่น... เจาะแถวละ 7รู...จะได้ 7 ช่อง...จะปลูกผักได้ 49รู...

ฟองน้ำแช่น้ำให้ฉ่ำ ถ้าผักที่มีเมล็ดเล็กๆ ให้ใส่ฟองน้ำตื้นๆ สำหรับเม็ดผักบุ้งแช่น้ำไว้ 1 คืน เนื่องจากเม็ดใหญ่ จากนั้นก็ คีบเม็ดที่พองๆ ใส่ฟองน้ำชิ้นละ 4 เม็ด เรียงใส่ถาด เอาน้ำใส่สูง 1 เซ็น ปิดด้วยหนังสือพิมพ์เปียกน้ำ นำไปวางในที่ร่ม

วันเมื่อเริ่มงอก เปิดหนังสือพิมพ์ออก เติมน้ำถ้าแห้ง วางในที่มีแสงแดดอ่อนๆ อีก 2 วันก็พร้อมลงแก้ว

เมื่อผสมน้ำปุ๋ยแล้ว 3cc/น้ำ 1 ลิตร เทน้ำใส่ถังโดยแต่ละแถววางแก้ว ที่เจาะรูไว้แล้ว 1 แก้ว เพื่อที่จะให้เป็นตัววัดระดับน้ำ น้ำจะชนก้นแก้วพอดี จากนั้นลุย เอาผักบุ้งต้นเล็กๆ ใส่แก้ว เสียบลงรูโฟม แล้วไม่ต้องทำไรมาก แค่คอยดูห่างๆ คอยมองหาแมลง เมื่อผักโตประมาณวัยรุ่นผัก ช่วงนี้ผักจะดูดน้ำเร็ว เติมน้ำเพิ่ม ให้รากจมในน้ำ 2 ส่วนอีก 1 ส่วนลอยกลางอากาศเพื่อรับออกซิเจน (ตอนลงผัก วันแรก ตัวฟองน้ำจะจมน้ำหมด แต่ไม่ให้น้ำท่วมก้นแก้วนะคะ เดี๋ยวผักตาย หลังจากนั้นต้นผักจะโตขึ้น พร้อมกับฟองน้ำที่ลอย พ้นน้ำ แต่ราก 2 ส่วนจะต้องจมน้ำนะคะ อีก 1 ส่วนลอยกลางอากาศเป็นรากหายใจ เราต้องคอยดูไม่ให้น้ำแห้ง )

ภาพข้างบน ตาข่ายเขียวอย่างเดียวไม่ดี น้ำเจอแดดจะขึ้นตะไคร่น้ำ ต้องหาเสี่อน้ำมันมาปิด

ภาพนี้ผักขาดสารอาหารเกิดจากฝนตกทำให้ปุ๋ยจืด วิธีแก้เติมปุ๋ยตามปริมาณของน้ำ 3 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร

 ผักโตพร้อมถอน ราก กับน้ำ จะอยู่ประมาณนี้จะเห็นว่าน้ำใสแทบจะเป็นน้ำเปล่า

 

ปลูกในตะกร้าก็ได้

 ผักสวยงาม

 

 

 วิธีดูปุ๋ย.แบบไหนเรียกว่าปุ๋ยจืด...แก้วบนซ้าย มือให้ดูสีของน้ำปุ๋ย...ถ้าปุ๋ยจืดน้ำจะสีจางๆ จนถึงใส...แต่ถ้าอยู่ใน ถังยาวๆ ก็ให้ดูที่ผิวของน้ำ...จะมีแผ่นฟิล์มใสๆ ที่ผิวน้ำคล้ายน้ำมันบางๆ แสดงว่ายังมีปุ๋ยแผ่นฟิล์มที่ว่าลอยน้ำประมาณ 30%...ของผิวน้ำก็ใช้ได้ ถ้า ฝนตกบ่อยๆ ปุ๋ยจืด...ผักก็ยังต้นเล็ก...จะทำอย่างไร...กะปริมาณของน้ำที่มีในถังว่ามีกี่ลิตรเติมปุ๋ยเพียวๆ เลยแล้วก็หา ไม้มากวนปุ๋ย

 ถ้ามีหนอนให้จับออก (ใช้ตีมตีบ) คีมคีบหนอน...สังเกตุฟองน้ำมั้ยยังฉ่ำน้ำอยู่...ถ้าผักโตขึ้นกว่านี้จะปล่อยให้ฟองน้ำฉ่ำไม่ได้...ควรจะต้องแห้ง...ไม่งั้นโคนต้นผักจะเน่า

 

 ล้างถังปลูกบ่อยๆ ถ้าปลูกซ้ำน้ำเดิมหลายรอบผักจะต้นเล็กลงเรื่อยๆ ดูผักกาดขาวซ้ายมือ กำลังโต ต้องแยกออกให้อยู่ห่างๆ กัน แน่นเกินไปผักจะไม่โต

 

 วิธีการดูว่า ผักได้สารอาหารที่ต้องการพอแล้วหรือไม่


- ถ้าใบเหลือง แสดงว่า คุณให้น้อยไป ให้ใส่เพิ่ม ในปริมาณที่เท่าๆ กัน
- ถ้าใบเขียวเข้ม หรือเขียวแก่ ผิดจากผักทั่วไปตามสายพันธุ์ แสดงว่า คุณให้ปุ๋ยเยอะไป ให้เติมน้ำเข้าไป
*** หมั่นดูน้ำในกะละมังด้วย ยิ่งผักโตไวเท่าไหร่ ยิ่งกินน้ำปุ๋ยมากเท่านั้น อย่าให้มันขาดน้ำ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย


- น้ำปุ๋ยเก่าที่ต้องการจะเปลี่ยน สามารถนำไปรดน้ำต้นไม้ทั่วไปได้
- ต้นกล้าที่เหลือ เพาะเกินเสียดายทำไง? เอาไปเพาะลงดินได้
- ผักที่ปลูก หากไม่ต้องการให้แมลงรบกวน ควรทำตาข่ายรูถี่ๆ กั้นปิดโดยรอบกะละมังไว้ แต่ให้สูงเผื่อผักโตเต็มที่ด้วย
- น้ำ + อากาศในน้ำ (จากตัวพ่นออกซิเจน) + ออกซิเจนจากอากาศทั่ว + แดด เป็นสิ่งที่พืชต้องการ เพราะงั้น ควรนำกะละมังอยู่ที่ๆ มีแดด
***แต่ ถ้าต้นกล้าที่เพิ่งเพาะใหม่ๆ ลงโฟม แนะนำว่า ไม่ควรตากแดดแรงๆ อาจจะเป็นที่ร่มที่พอมีแสงผ่าน ไปก่อนเพราะมันยังเล็ก อาจจะตายได้ ถ้ามันโตขึ้นกว่าขนาดต้นกล้ามากสักหน่อย(มันมีใบสัก 4 - 5 ใบ) ค่อยเอามันออกแดดแรงๆ ได้(มันชอบมาก)
- แล้วเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่า ผักไม่แก่เกินไป? ประมาณ 1 เดือนในช่วงหน้าหนาว 1 เดือนครึ่งในช่วงหน้าร้อน
- ผักแก่ กับ ผักกำลังกิน แตกต่างกันอย่างไร? ผักแก่จะเหนียว และแข็ง ผักกำลังกินจะกรอบ เมื่อนำไปผัดจะนิ่มกว่าผักที่ปลูกในดิน
- ระยะเวลาการปลูกในดิน กับในน้ำต่างกันเท่าไหร่? ในดินจะใช้เวลาเพิ่มอีกครึ่งหนึ่งของในน้ำ

 

แหล่งที่มา : skoolbuz.com

อัพเดทล่าสุด