https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
การป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรม MUSLIMTHAIPOST

 

การป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรม


815 ผู้ชม


การป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรม

 

การป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรม

การตั้งครรภ์ VS เลือดจาง ...อันตรายแค่ไหน ?

 

"คุณเพิ่งท้องได้ 12 สัปดาห์ กินยานี้นะ และกินอย่างต่อเนื่องตลอดการตั้งครรภ์ ไม่อย่างนั้นคุณอาจมีปัญหา..?

          คำถามที่เกิดขึ้นสำหรับคนกำลังจะเป็นแม่ คือ ยาอะไร? ทำไมต้องกินด้วย? ไม่กินแล้วจะเป็นอย่างไร?

          เม็ดเลือดแดงของคนเรามีหน้าที่นำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย เม็ดเลือดแดงจับกับออกซิเจนได้ด้วยสารตัวหนึ่งที่อยู่ภายในเม็ดเลือดเรียกว่า"เฮโมโกบิน" และสิ่งสำคัญที่อยู่ในเฮโมโกบิลก็คือธาตุ"เหล็ก" ดังนั้นจึงมีความเกี่ยวพันกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่ขาดธาตุเหล็กจะทำให้เฮโมโกบินต่ำ ส่งผลทำให้เม็ดเลือดแดงมีปริมาณลดลง ทำให้ออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายลดลง ส่งผลต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะของเรา

          ยาเม็ดสีน้ำตาล หรือสีดำ ก็คือวิตามินที่ทีธาตุเหล็กอยู่ด้วย แพทย์จะให้คนท้องรับประทานตลอดการตั้งครรภ์ เพราะจะได้เอาธาตุเหล็กไปสร้างเป็นเม็ดเลือดแดงในตัวของทารกที่อยู่ระหว่างการสร้างอวัยวะต่างๆ รวมทั้งเม็ดเลือดแดงด้วย

          ภาวะเลือดจาง คือการที่เม็ดเลือดแดงน้อย หรือที่คนทั่วไปบอกว่าโรคซีดนั่นเอง โดยปกติแล้วคนตั้งครรภ์จะมีการตรวจพบโลหิตจางเล็กน้อยได้ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ซึ่งเกิดจากภาวะที่มีปริมาณน้ำตาลในเลือด หรือพลาสมาเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 3 เดือนแรกของการท้องควรต้องมีระดับเฮโมโกบินไม่ต่ำกว่า 11 กรัมต่อเดซิลิตร และในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ควรจะมีระดับไม่ต่ำกว่า 10 กรัมต่อเดซิลิตร

          โดยทั่วไปโลหิตจางในคนท้องมีสาเหตุหลัก คือ การขาดธาตุเหล็ก รองลงมาคือการสูญเสียเลือดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ริดสีดวงทวาร โรคกระเพาะอาหารเป็นแผล หากแม่ไม่มีโลหิตจาง ลูกก็จะไม่เป็นโลหิตจางด้วย

          ในประเทศญี่ปุ่น มีการวิจัยออกมาว่าพบภาวะซีดในคนท้องได้ถึง 52% โดยมีความสัมพันธ์กับภาวะ 3 อย่างคือ

    1. การที่ก่อนตั้งครรภ์มีประวัติของประจำเดือนที่ค่อนข้างมากกว่าปกติ
    2. เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหาร พบว่าคนที่รับประทานอาหารไม่ครบมื้อ มีโอกาสโลหิตจางมากขึ้น
    3. เกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

         การแนะนำ คือ ควรดูแลเรื่องประจำเดือนก่อนการตั้งครรภ์ ให้มีการเสียเลือดในประมาณที่เหมาะสมและมีการรับประทานธาตุเหล็กเสริมอย่างเหมาะสม ควรต้องรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงก่อนและระหว่างการตั้งครรภ์ น่าจะเป็นสิ่งที่ป้องกันภาวะโลหิตจางในคนท้องได้

          โลหิตจางที่เกิดขึ้นทำให้เหนื่อยง่าย ซึ่งปกติคนท้องก็มักจะเหนื่อยง่ายอยู่แล้ว ต้องอุ้มลูก อุ้มรกในท้องเป็นน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม หน้ามืด วิงเวียนง่าย และหากเป็นรุนแรง ตามรายงานมีอาการทางสายตา อาจมองภาพไม่เห็นได้จากการที่เส้นประสาทตาบวม

          โลหิตจางส่งผลต่อการตั้งครรภ์พอสมควร หากเป็นปานกลางถึงรุนแรง การท้องก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเกิดของทารก เช่น เด็กอาจมีการเจริญเติบโตช้ากว่าอายุครรภ์ อาจเกิดการแท้งบุตรได้ อาจทำให้น้ำหนักแรกของทารกต่ำกว่าปกติ และอาจทำให้เด็กเสียชีวิตตอนคลอดได้

          รู้ถึงปัญหาโรคซีดในคนท้องแล้ว คนท้องควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร หาสาเหตุให้พบก่อน  แล้วให้ยาอย่างเหมาะสม หากพบว่าเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ควรจะรับประทานให้ครบถ้วนและจริงจังเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งกับตัวมารดา และทารกเอง

 การป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรมการป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรมการป้องกันโรคโลหิตจาง โรคโลหิตจางมีลูกได้ไหม โรคโลหิตจางจากพันธุ์กรรม

รศ.อ.นพ.วิเชียร มงคลศรีตระกูล

ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยา

 

แหล่งที่มา : islammore.com

อัพเดทล่าสุด