ขอบข่าย หน้าที่ของครูประจําชั้น หน้าที่ของครูภาษาอังกฤษ บทบาทหน้าที่ของครูในสถานศึกษา MUSLIMTHAIPOST

 

ขอบข่าย หน้าที่ของครูประจําชั้น หน้าที่ของครูภาษาอังกฤษ บทบาทหน้าที่ของครูในสถานศึกษา


647 ผู้ชม


ขอบข่าย หน้าที่ของครูประจําชั้น หน้าที่ของครูภาษาอังกฤษ บทบาทหน้าที่ของครูในสถานศึกษา

 


การเป็นครูที่ดีนั้นต้องทำอย่างไร

          ปัจจุบันนี้ โลกของเราถือเป็นยุคของโลกไร้พรมแดนที่ถูกครอบงำด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่ ทันสมัย ทำให้ประเทศเกิดความเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วในทุกด้าน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากความทันสมัยนั้น ก็คือคนในสังคมขาดคุณธรรมจริยธรรม มีแต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม และด้วยการเปิดรับการไหลบ่าของวัฒนธรรมต่างชาติที่เข้ามาทางข้อมูลข่าวสาร ทำให้เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เกิดการเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติโดยไม่มีการคัดกรองว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เนื่องจากไม่มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในเบื้องต้นให้แก่เด็ก

          จากสภาพการณ์ดังกล่าว ครู จึง ถือว่ามีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง ในฐานะเป็นผู้ที่สั่งสอนหรือถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ศิษย์ รวมทั้งเป็นผู้ที่สร้างสรรค์ ภูมิปัญญา เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถตระหนักได้ว่าควรจะเลือกรับวัฒนธรรมต่างชาติที่ ดี ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของตนเอง แต่ทั้งนี้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ครู จะต้องทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีและเหมาะสมให้แก่ลูกศิษย์ด้วยเช่นกัน ดังนั้น กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเสนอบทบาทหน้าที่ของครู จรรยามรรยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู ว่าการเป็นครูที่ดีนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง

หน้าที่ของครูอาจารย์ที่พึงมีต่อศิษย์
๑. แนะนำดี คือ การให้คำแนะนำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ และสิ่งที่ดีๆ ให้แก่ ลูกศิษย์ 
๒. ให้เรียนดี คือ การแนะนำส่งเสริม สนับสนุน ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ ลูกศิษย์ ให้มีผล 
การเรียนที่ดี 
๓. บอกศิลปะให้สิ้นเชิง ไม่ปิดบังอำพราง โดยการถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดที่ตนเองมีอยู่ให้แก่ลูกศิษย์ 
๔. ยกย่องให้ปรากฏในเพื่อนฝูง ให้การสนับสนุนและยกย่องลูกศิษย์ที่มีความประพฤติดีให้ปรากฏแก่เด็กคนอื่นๆ เพื่อนำไปเป็นแบบอย่าง 
๕. ทำความป้องกันในทิศทั้งหลาย ปกป้องและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ลูกศิษย์ จาก สิ่งแวดล้อมและสิ่งยั่วยุที่ไม่ดีทั้งหลาย
 

จรรยามรรยาทและวินัยตามระเบียบประเพณีของครู 
๑. เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ 
๒. ยึดมั่นในศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาอื่น 
๓. ตั้งใจสั่งสอนศิษย์และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เกิดผลดีด้วยความเอาใจใส่ พร้อมทั้งอุทิศเวลาของตนให้แก่ศิษย์ จะละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงานมิได้ 
๔. รักษาชื่อเสียงของตนมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ห้ามประพฤติการใดๆ อันอาจทำให้เสื่อมเสียเกียรติและชื่อเสียงของครู 
๕. ถือปฏิบัติตามระเบียบและแบบธรรมเนียมอันดีงามของสถานศึกษา และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่การงานโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบแบบแผนของสถานศึกษา 
๖. ถ่ายทอดวิชาความรู้โดยไม่บิดเบือนและปิดบังอำพราง ไม่นำหรือยอมให้นำผลงานทางวิชาการของตนไปใช้ในทางทุจริตหรือเป็นภัยต่อ มนุษยชาติ 
๗. ให้เกียรติแก่ผู้อื่นทางวิชาการโดยไม่นำผลงานของผู้ใดมาแอบอ้างเป็นผลงานของ ตนและไม่เบียดบังใช้แรงงานหรือนำผลงานของผู้อื่นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน 
๘. ประพฤติตนอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วยความเที่ยงธรรมไม่แสวงหาประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ 
๙. สุภาพเรียบร้อยประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ รักษาความลับของศิษย์ของผู้ร่วมงานและของสถานศึกษา 
๑๐. รักษาความสามัคคีระหว่างครูและช่วยเหลือกันในหน้าที่การงาน
 
          จากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น คงจะทำให้เห็นว่า ครู ถือเป็นบุคลากรที่สำคัญอย่างมาก ในการเป็นผู้ที่อบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชาความรู้ รวมทั้งให้ความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เพราะในชีวิตของคนเรานั้น ถือว่าบิดา มารดา เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด เพราะเป็นผู้ที่ให้กำเนิด ให้ความรัก ความเมตตา ความห่วงใยและเสียสละเพื่อลูก ครูก็ถือเป็นผู้ที่เสียสละเช่นกัน เพราะหากครูสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตน และมีจรรยามรรยาทอย่างเคร่งครัดแล้ว เด็กก็จะนำไปเป็นแบบอย่างยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ เด็กก็จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
          แม้ว่าในปัจจุบันนี้ จะมีครูที่กระทำตนเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้น จะเห็นได้จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนน้อย เพราะยังมีครูอีกเป็นจำนวนมากที่มีจิตสำนึกของความเป็นครูอย่างแท้จริง พร้อมที่จะเสียสละและอุทิศตน ดูแลเอาใจใส่สั่งสอนอบรมให้เด็กได้พบกับแสงสว่างแห่งปัญญา อันจะเป็นหนทางในการประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ต่อไปในอนาคต


แหล่งที่มา : m-culture.go.th

อัพเดทล่าสุด