https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
จะเก่งอังกฤษได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก Part of Speech(Pronoun) MUSLIMTHAIPOST

 

จะเก่งอังกฤษได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก Part of Speech(Pronoun)


630 ผู้ชม


Personal Pronoun ที่ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรม   

Pronoun

Note for teacher

Kinds of Pronoun

  คำสรรพนามในภาษาอังกฤษแบ่งออกได้เป็น 9 ชนิด ดังนี้

1. Personal Pronoun (บุรุษสรรพนาม)คือสรรพนามที่ใช้แทนบุคคล สัตว์ และสิ่งของมี I, We, thou, you, he, she, it และ they สรรพนามชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งประธาน (subjects) และกรรม (objects) ของประโยค รวมทั้งสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของด้วย

 

Personal Pronouns

Possessive Adjectives and Pronouns

subject form

object form

possessive adjective

possessive pronoun

I

me

my

mine

you

you

your

yours

he

him

his

his

she

her

her

hers

it

it

its

its

we

us

our

ours

you

you

your

yours

they

them

their

theirs

2. Reflexive Pronoun (สรรพนามสะท้อน) คือคำสรรพนามที่สะท้อนกลับให้เห็นถึงการกระทำของประธาน (subject) เพื่อเป็นการเน้นว่าประธานของกริยาได้ทำอะไรซึ่งเป็นการทำด้วยตัวเองและคำสรรพนามชนิดนี้สังเกตง่าย เพราะมีคำลงท้ายด้วย -self หรือ - selves เช่น myself, himself etc.

3. Emphatic Pronoun  (สรรพนามใช้เน้น) สรรพนามที่ใช้เพื่อเน้นข้อความนั้น ๆ โดยคำสรรพนามชนิดนี้ นิยมวางไว้หลังคำถามหรือสรรพนามที่ต้องการเน้น ส่วนรูปร่างของ Emphatic pronoun นั้นจะเหมือนกันกับ Reflexive pronoun ทุกอย่าง และสร้างมาจากกลุ่มคำศัพท์เดียวกัน เช่น

You yourself are to be blamed.
คุณนั่นแหละที่ต้องถูกว่า

4. Demonstrative Pronoun (สรรพนามแสดง) คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเพื่อเป็นการชี้เฉพาะ หรือระบุเฉพาะเจาะจง ที่สำคัญคือคำนามที่ Demonstrative pronoun ใช้ขยาย หรือชี้เฉพาะนั้นจะไม่มาตามหลังทันที นิยมวางอยู่ห่างออกไป และ Demonstrative pronoun ที่เจอบ่อยๆ มีดังนี้ 
แทนคำนามเอกพจน์ แทนคำนามพหูพจน์ 
This (นี้ นี่) That (นั้น นั่น) These (เหล่านี้) Those (เหล่านั้น)

5. Indefinite pronoun (สรรพนามทั่วไป) คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามโดยทั่วไป ไม่ระบุเฉพาะเจาะจงว่าอันไหน คนไหน หรือสิ่งไหน ซึ่งตรงกับคำว่า Indefinite 
ที่แปลว่า ไม่จำกัดเฉพาะเจาะจง และคำIndefinite Pronouns มีดังนี้
  

 
one (บุคคล) none (ไม่มีสักคน/อัน)
any (บางคน บางอย่าง) all (ทั้งหมด)
some (บางคน บางอย่าง) something (บางสิ่ง บางอย่าง)
few (น้อยคน น้อยอย่าง) many (มาก)
nobody (ไม่มีใคร) anybody (บางคน)
anyone (บางคน) everybody (ทุกคน)
others (อื่น ๆ) both (ทั้งสอง)

6. Interrogative pronoun (ปุจฉาสรรพนาม) คือคำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเพื่อสร้างคำถาม คำสรรพนามเหล่านี้จะเป็นปุจฉาสรรพนามได้ก็ต่อเมื่อนำมาใช้สร้างคำถามโดยไม่มีคำนามตามหลัง คำสรรพนามที่เป็นปุจฉาสรรพนามมีดังนี้
Who (ใคร) Whom (ใคร)
Whose (ของใคร) Which (อันไหน)
What (อะไร)  

Who (ใคร) ใช้แทนคนและเป็นประธานของประโยค เช่น         

Who are you?
คุณเป็นใคร

7. Distributive pronoun (สรรพนามแจกแจง)คือคำสรรพนามที่ใช้แทนคำนาม เพื่อเป็นการแยกแยะหรือแจกแจงสิ่งที่กล่าวถึงนั้น ออกเป็นคนหนึ่ง ครั้งหนึ่ง หรือสิ่งหนึ่ง โดยคำสรรพนามเหล่านี้ ใช้กล่าวถึงคนสัตว์ 
หรือสิ่งของเพียงคนเดียว ตัวเดียว หรือ สิ่งเดียวในช่วงเวลาขณะนั้น ดังนั้นเมื่อใช้ คำสรรพนาม Distributive Pronouns เป็นประธานของกริยาแล้วกริยาจึงเป็น เอกพจน์เสมอ ดังนี้
Each (แต่ละ), Either (คนใดคนหนึ่ง, สิ่งใดสิ่งหนึ่ง), Neither (ไม่ทั้งสองคน, ไม่ทั้งสองสิ่ง)

8. Reciprocal pronoun (สัมพันธสรรพนาม)คือคำสรรพนามที่ใช้แสดงความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันซึ่งมี ดังนี้   Each other (ซึ่งกันและกัน), One another (ซึ่งกันและกัน)

The two rivals hated each other.
ศัตรูทั้งสองคนเกลียดซึ่งกันเเละกัน
We must all trust one another.
พวกเราต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน

9. Relative pronoun (ประพันธสรรพนาม)คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ด้านหน้าของตัวเอง และคำ Relative 
Pronoun นี้ยังทำหน้าที่เชื่อมประโยคที่อยู่ด้านหน้า เข้ากับประโยคที่อยู่ด้านหลัง หรือ เชื่อมประโยคหลังเข้ากับประโยครอง และคำสรรพนามเหล่านี้เป็นได้ทั้งประธาน (subject) และกรรม (object) ของประโยคหลังหรือประโยค 
รองได้อีกด้วย ซึ่งมีดังนี้
 

 
who (ผู้ซึ่ง) whom (ผู้ซึ่ง) whose (ของผู้ซึ่ง)
which (ที่, สิ่งซึ่ง) that (ที่, สิ่งซึ่ง) what (สิ่งที่)
where (ที่ซึ่ง) when (เมื่อ) why (เหตุที่)

เช่น I saw a beggar who was deaf and dumb.
ผมเห็นขอทานคนหนึ่งผู้ซึ่งหูหนวกและเป็นใบ้

คำสรรพนามที่จะนำมาสอนคือประเภทที่ 1 Personal Pronoun เท่านั้น

เนื้อหา เหมาะสำหรับนักเรียน ระดับชั้น ม.1 

สาระที่ ๒  ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต ๒.๒   เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม   

 ตัวชี้วัด ม. 1/1       บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ  การใช้เครื่องหมายวรรคตอน  และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

 คำถามนำสู่การอภิปรายชั้นเรียน

1. What is pronoun?

2. How many kinds of Personal pronoun? Give me an example.

 ขั้นตอนการสอน 

1. ถามคำถามนำเข้าสู่บทเรียน

2. ทำ Pre test   

Choose the correct pronouns.  

1. This is ………….. cat.               

    a.  I           b. my        c.  me       d. mine                                      

2. A monkey is in the tree.            

    ……….. tail is long.                       

   a. my         b. me        c. its          d. it                               

3.  Peter is a student.                     

     ………..is from London.                

    a. He         b. I           c. She       d. You                          

4. That is Dan D2B.                      

    I like ………. songs.             

    a. my           b.  his          c. his        d. our

5.   Jack and Jim are friends.       

     ……. … are happy.

    a. We         b. You       c. We          d. They

6.     That is ……… teacher.    

      a. you           b. they        c. him          d. our    

7.     You and I are  school.    That is ………. classroom.  

      a.   your       b. We          c.  our         d. Their

8.     ………..computer is from London, English.

       a.  I              b. My          c.  She         d. They

9.      Linda is my friend. This is ……….. schoolbag. 

       a. my         b. her         c. their         d. her

10.   You and I are at  school. …………. are in M. 1/9.                   

        a. I              b. You                  c. We      d.  They    

3.เปิดวีดีโอแนะนำคำสรรพนาม

4. ครูอธิบายและให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด   แบบฝึกหัดคลิกที่นี่

5. ทำ Post Test

กิจกรรมเสนอแนะ

ให้นักเรียนฝึกแต่งประโยคและเรียงความโดยใช้คำสรรพนามประกอบ 

การบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ที่มา : https://www.ungkrit.com/lessons/g_pronoun_10.php

         www.youtube.com

      https://tc.mengrai.ac.th/jareeya/pronouns.htm
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=3093

อัพเดทล่าสุด