https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ธุรกิจ เศรษกิจ ภัยการรุกราน ทางเศรษฐกิจ รูปแบบใหม่ MUSLIMTHAIPOST

 

ธุรกิจ เศรษกิจ ภัยการรุกราน ทางเศรษฐกิจ รูปแบบใหม่


784 ผู้ชม


    ถือเป็นการตอกย้ำความจริง “ภัยการรุกรานทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่” ซึ่งรัฐบาลและคนไทยไม่ควรนิ่งนอนใจหรือเพิกเฉยเป็นอันขาด ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ที่ว่า ขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนชาวตะวันออกกลาง ได้จ้างวานนายหน้าให้มากว้านซื้อที่ดิน เพื่อลงทุนปลูกข้าว เนื่องจากเกรงว่า ในอนาคตอาจเกิดวิกฤติการณ์การขาดแคลนอาหาร เพราะประชากรนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ส่วนพื้นที่เพาะปลูกกลับลดน้อยลง โลกอาหรับแม้มีรายได้หลักจากการขาย น้ำมันกลายเป็นประเทศร่ำรวย แต่ก็มีปัญหาเรื่องอาหารการกิน จึงมีกลุ่มนายหน้าเข้ามาติดต่อขอซื้อที่ดินหรือไม่ก็ขอเช่าที่ดิน โดยมีเงื่อนไขว่า ห้าม เจ้าของที่ดินเข้าไปยุ่งที่ดิน ซึ่งไม่เพียงประเทศไทยเท่านั้น สาธารณรัฐประชา ธิปไตยประชาชนลาวและกัมพูชา ก็มีนายหน้ากลุ่มนี้เช่นกัน
 
          ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เคยชี้แจงกรณีดังกล่าวนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คนต่างด้าวไม่สามารถประกอบธุรกิจหรือกิจการดังกล่าว เนื่องจากการทำนา ทำไร่หรือทำสวน เป็นการกระทำต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และหากผู้ใดให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจด้วย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคนต่างด้าวก็จะได้รับโทษเช่นเดียวกันด้วย
 
          จากวันนั้นถึงวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ ยังไม่มีแนวความคิดหรือวิธีการใดที่จะช่วยส่งเสริม สนับสนุน เพิ่มศักยภาพ  “กระดูกสันหลัง” ของประเทศ ให้เขามีความเข้มแข็ง สามารถยืนด้วยลำ แข้งของตนเองได้ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา นอกจาก “อวดภูมิ” แสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ให้คนต่างด้าวมาร่วมลงทุนทำนา โดยมีการจัดการอย่างเป็นระบบตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งออก ว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวนาไทย
 
          เราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอของ นพ.เกษม ที่ว่า รัฐบาลควรจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอภาคเกษตร เพื่อให้สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมการเกษตร และยังเอื้อประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชาวนาโดยส่วนรวม แม้การจัดตั้ง “สภา การเกษตรแห่งชาติ” ที่มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ 7 แนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ มาตรา 84 (8) จะเป็นความฝันที่ยากเป็นจริง ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลก็พยายามผลักดันให้เกิด แต่สุดท้ายถูก “ดอง” หรือ “แท้ง” เนื่องเพราะคุณภาพ “คน” เห็นได้จากโครงการใดที่เกี่ยวข้องกับชาวไร่ชาวนา คนยากคนจน ก็มักเกิดการทุจริตประพฤติมิชอบแทบทุกโครงการ.
ที่มา https://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=248

อัพเดทล่าสุด