https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ MUSLIMTHAIPOST

 

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ


9,334 ผู้ชม


ข้าวเกรียบกือโป๊ะของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

  ข้าวเกรียบกือโป๊ของดีปัตตานี หลังจากมาเลเซียตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมีคนจากประเทศมาเลเซียจำนวนหนึ่งได้อพยพมาตั้งรกรากในพื้นที่ประเทศไทยบริเวณบ้านดาโต๊ะ ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และได้มีคนนำต้นสาคูมาทำแป้งเป็นอาหารเช้ากินกับน้ำชา ในยุคนั้นเป็นยุคข้าวยากหมากแพงจึงนำแป้งสาคูมาผสมกับปลาและเกลือเท่าที่ชาวบ้านในหมู่บ้านประมงจะหามาได้โดยปั้นเป็นแท่งกลมยาว แล้วนำมาตัดเป็นชิ้น ๆ ย่างหรือทอดในน้ำมันใช้เป็นอาหารรับประทาน ครัวเรือนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็จะทำอาหารชนิดนี้บริโภคกันทุกครัวเรือนการทำอาหารชนิดนี้แปรผันเป็นภูมิปัญญาสืบทอดมาเป็นขุมทรัพย์ จากการที่บรรพบุรุษของชาวดาโต๊ะรู้จักวิธีทำข้าวเกรียบกือโป๊มาแต่อดีตและได้สืบทอดภูมิปัญญานี้ส่งผ่านมารุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงลูกหลานยุคปัจจุบันและจากการที่คนในชุมชนบ้านดาโต๊ะประกอบอาชีพทำการประมงขนาดเล็ก เป็นอาชีพหลักของครอบครัวจึงได้นำปลาที่เหลือจากการบริโภคและจำหน่าย ซึ่งเป็นปลาตัวเล็ก ๆมาประยุกต์ผสมกับแป้งมัน (แป้งสาคูบางส่วน) ทำข้าวเกรียบกือโป๊ไว้กินกันในครัวเรือนที่เหลือก็มีการขายกันบ้างภายในหมู่บ้านปรากฏว่าขายดี จึงขยายตลาดไปยังภายนอกหมู่บ้าน เพิ่มการผลิตมากขึ้นเรื่อย ๆไปสู่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอื่น ๆ จากการผลิตข้าวเกรียบกือโป๊ของชุมชนสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนที่เป็นผู้ผลิตข้าวเกรียบ ประมาณ 3,000– 5,000 บาท/คน/เดือนนับเป็นขุมทรัพย์ที่เกิดจากภูมิปัญญา

กือโป๊ะ ของดี จากปลายด้ามขวาน

 ใครๆ ที่มาเที่ยวปัตตานี หรือ นราธิวาส

หากถามว่า...ใครเคยกินข้าวเกรียบมั๊ย?

ข้าวเกรียบที่ทำจากสัตว์ทะเล ทั้งกุ้งและปลา นำมาทำเป็นข้าวเกรียบ

หั่นแล้วนำไปตากจนแห้ง

เมื่อนำไปทอด จะฟู พองตัวอีก 2-3 เท่าตัว

กินกับน้ำจิ้ม..สุดยอดของความอร่อย

หากเป็นเช่นนี้ หลายคนจะบอกว่า

“เคยกินดิ”

“ กินเล่นๆ ก็ได้ หรือ กินเป็นกับแกล้มก็อร่อยไม่เบา”

นั่นแหละ ถูกต้อง ใช่เลย...

ข้าวเกรียบ ของดีเมืองแถบชายทะเลอ่าวไทยแห่งปลายด้ามขวาน

โดยเฉพาะข้าวเกรียบที่นับว่าขึ้นชื่อของปัตตานี

คือ ข้าวเกรียบจากปลาหลังเขียว

แต่หากจะถาม....คนที่ไม่ใช่คนสามจังหวัดชายแดนใต้ ว่า....

แล้วใครเคยกิน “กือโป๊ะ” หรือ "กรือโป๊ะ" หรือเปล่า?

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

หลายคนอาจอาการ “ง.งู” วิ่งชนกัน

ก็ “งง” ไงล่ะค่ะ?

“งง” ว่า มันเป็นอะไร?

“งง” ว่ามันเป็นภาษาอะไรกัน?

เพราะ เจ้ากือโป๊ะ นับเป็นข้าวเกรียบอีกชนิดหนึ่ง

ที่นิยมกินกันในแถบจังหวัดปัตตานี

หรือ จังหวัดในแถบจังหวัดชายแดนใต้

จนกลายเป็น “ของดี” แห่งปลายด้ามขวานไปเลยล่ะค่ะ

กือโป๊ะ หรือ กรือโป๊ะ เป็นของกินเล่นอีกชนิด

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือ ปราชญ์ชาวบ้าน

ที่สร้างสรรค์เมนูอาหารออกมาได้อย่างน่ากินโดยแท้

“กือโป๊ะ” เป็นข้าวเกรียบชนิดหนึ่ง ที่ไม่ต้องนำไปตากแห้ง

ก่อนนำไปทอด เหมือนข้าวแห้งโดยทั่วไป

หากแต่ เป็นข้าวเกรียบสด หรือ ข้าวเกรียบที่ทำจากปลาทูสดๆ นั่นเอง

ซึ่งภาษาถิ่น จะนิยม เรียกว่า “กือโป๊ะ” หรือ “กะโป๊ะ”

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

หรือ ใครจะเรียกแบบโหดๆ หน่อย ว่า “หนังตีน”

(ก็ดูหน้าตามันแล้ว มันคล้ายๆเลยล่ะ..ม่ายเชื่อ ลองสังเกตดีๆ)

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

"กือโป๊ะ" หรือ ข้าวเกรียบปลาสด (กะโป๊ะ) ทำจากปลาทูสด

(แรกเริ่มเดิมที จะใช้ปลาทูที่ไม่ได้ขนาด ขายไม่ได้ราคามาทำ)

นำมาผสมกับแป้งมันสำปะหลัง เกลือน้ำตาลทราย แค่นี้เองค่ะ

ใครอยากลองทำดูก็ไม่ว่ากันน่ะค่ะ

ส่วนผสม(มีแค่นี้เองค่ะ...ม่ายยุ่งยากเลยใช่ม๊า?)

- ปลาทู 5 กิโลกรัม

- แป้งมันสำปะหลัง 1.5 กิโลกรัม

-เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

- น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ (ก็ม่ายยากๆ ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้ล้วนๆเลยล่ะค่ะ)

1. แกะเอาแต่เนื้อปลาทูแล้วนำมาผสมกับแป้งมันสำปะหลัง

เกลือ น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน

2. นำเข้าเครื่องบดจนละเอียด

3. นำมาแบ่งเป็นก้อนๆ แล้วกลึงให้เป็นเส้น

ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 ซม. ความยาว ประมาณ 25 ซม.

4. นำลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที ก็จะได้ตัวข้าวเกรียบปลาสด

5. เมื่อจะกินก็หั่นเป็นแว่นๆ นำไปทอด...

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

จิ้มกินกับน้ำจิ้มที่ทำได้โดยนำ

พริกสด น้ำตาลทราย กระเทียม และน้ำเปล่าเข้าเครื่องปั่นพอหยาบ

เติมซอสมะเขือเทศ และน้ำส้มสายชูลงไป ชิมรสตามต้องการ

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

(ขอบคุณข้อมูลจากhttps://www.l3nr.org/posts/488442)

ปัจจุบัน...

หากใครอยากจะกินกือโป๊ะ ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาทำให้มันเสียเวลา

เพราะตอนนี้ เขามีขายทั้งที่เป็นท่อนๆ

พร้อมที่จะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ก่อนนำไปทอด

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

หรือ หากใครขี้คร้าน

อยากกินแบบไม่ต้องลงมือทอดให้ใบหน้าอันแฉล่มแช่มช้อย

ต้องเยิ้มไปด้วยความมันให้มันเสียสวย

ก็สามารถหาซื้อกือโป๊ะที่เขาทอดขายตามร้านค้าโดยทั่วไป

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

เปิดสูตรข้าวเกรียบกือโป๊ะ ของดีปัตตานี - ปาลอกือโปะ

ตามจังหวัดชายแดนใต้

แถมน้ำจิ้มก็ไม่ต้องลงมือทำเองมีแถมให้พร้อม

แค่ซื้อมา แล้วเอาใส่ปาก เคี้ยวแล้วกลืน

แค่นี้ก็ไม่ยุ่งยากแล้วล่ะค่ะ

ปัจจุบัน กือโป๊ะ ที่เคยเป็นอาหารที่มีเพียงคนในท้องถิ่นกินกัน

ทำเอง ขายเอง ช่วยกันซื้อเอง

จน ณ บัดนาว กือโป๊ะ กลายเป็นอาหารว่างขึ้นห้างไปแล้วเรียบร้อยค่ะ

 เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อัพเดทล่าสุด