https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ขี้ไคล ก็มีประโยชน์นะ MUSLIMTHAIPOST

 

ขี้ไคล ก็มีประโยชน์นะ


1,333 ผู้ชม

ต้องทำความเข้าใจกันใหม่แล้วล่ะค่ะ เพราะความเป็นจริงแล้วชั้น ขี้ไคล ก็คือ ชั้นหนังกำพร้า ที่เกาะติดอยู่บนผิวหนังชั้นบนควบคู่ไปกับชั้นน้ำมันเคลือบผิว ซึ่งทำหน้าที่เป็น เกราะที่คอยคุ้มครองปกป้องผิวหน้าจากฝุ่นละออง


ต้องทำความเข้าใจกันใหม่แล้วล่ะค่ะ เพราะความเป็นจริงแล้วชั้น ขี้ไคล ก็คือ ชั้นหนังกำพร้า ที่เกาะติดอยู่บนผิวหนังชั้นบนควบคู่ไปกับชั้นน้ำมันเคลือบผิว ซึ่งทำหน้าที่เป็น เกราะที่คอยคุ้มครองปกป้องผิวหน้าจากฝุ่นละออง เชื้อโรคและสารเคมีต่างๆ ไม่ให้ซึมผ่านลงไปทำร้ายผิวได้ง่ายๆ และยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นด้วย นอกจากนี้ยังช่วยกันรังสียูวีได้ส่วนหนึ่ง

โดยปกติแล้ว เราจะมี ขี้ไคล ที่ผิวหนังทุกส่วนในร่างกาย แต่จะมีมากที่สุด ที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า เพราะเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา

โดยทั่วไป ขี้ไคล จะหลุดลอกออกไปตามธรรมชาติ ซึ่งระยะเวลาที่หนังกำพร้าจะดันตัวเองออกมาเป็น ขี้ไคล จะใช้เวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์

ดังนั้นหากคุณทั้งเช็ด ทั้งถู มากเกินไป บางคนอาจชอบขัดผิวด้วยสครับทุกวัน เพราะรู้สึกว่าผิวจะสะอาดหมดจด แต่นั่นอาจเป็นการทำลายส่วนที่ปกป้องผิวหนังตามธรรมชาติ หากต้องการขัดผิวก็ไม่ควรเกินอาทิตย์ละครั้ง ก็เพียงพอแล้ว หากเราขัดผิวทุกวันจะทำให้สูญเสียชั้นน้ำมัน และชั้น ขี้ไคล สิ่งที่เกิดตามาก็คือผิวของคุณจะ เปราะบาง ขาดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ เราจะพบว่าคนที่ล้างหน้าบ่อย ๆ ใช้น้ำยา ใช้โทนเนอร์เช็ดหน้า มักจะมีปัญหา ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย กลายเป็นผิวบอบบาง แพ้เป็นผื่นหรือคันได้ง่าย

 

อัพเดทล่าสุด