https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
สาว ๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนักรู้อะไรไหมเอ่ย MUSLIMTHAIPOST

 

สาว ๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนักรู้อะไรไหมเอ่ย


657 ผู้ชม


สาว ๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนักรู้อะไรไหมเอ่ย ว่าสารอาหารสำคัญอย่างแคลเซียม นอกจากจะดีต่อกระดูกและฟันแล้ว ยังช่วยให้คุณลดน้ำหนักอย่างเห็นผลได้ด้วยนะคะ มีผลการวิจัยและทดลองพบว่าแคลเซียมมีส่วนช่วยควบคุมระบบการเมตาบอลิซึมหรือกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย โดยจะไปขัดขวางการสร้างและสะสมไขมัน ทำให้ร่างกายสามารถดึงไขมันส่วนนี้มาเผาผลาญได้มากขึ้น ช่วยให้ลดพุงกะทิ รอบเอวหนา ต้นขาใหญ่ อย่างเห็นผลเลยล่ะ 
รู้อย่างนี้แล้วก็ชักจะอยากกินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมกันซะตอนนี้เลยใช่ไหมล่ะ ร่างกายของเราต้องการแคลเซียมอย่างน้อยวันละ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งอาหารอย่างแรกที่ใคร ๆ นึกถึงก็คงหนีไม่พ้น "นม" แหล่งแคลเซียมชั้นดีนั่นเอง แต่ถ้าจะดื่มนมเพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก ก็ต้องเลือกเป็นนมแบบพร่องมันเนย หรือแบบแคลเซียมสูงนะคะ และนอกจากนมแล้ว ก็ยังมีอาหารอีกหลายอย่างทีเดียวที่เป็นแหล่งของแคลเซียมชั้นเลิศให้กับคุณได้ ลองมาดู 10 อาหารอุดมแคลเซียมเหล่านี้ ซึ่งเราหยิบข้อมูลดี ๆ มาฝากกันจากเว็บไซต์ Reader Digest กันดีกว่าค่ะ โดยข้อมูลในที่นี้จะเป็นปริมาณแคลเซียมที่ได้จากอาหาร 100 กรัมนะคะ 
1. งา 
ให้แคลเซียม 227 มิลลิกรัม คิดเป็น 28% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ออนซ์ (ประมาณ 28 กรัม) ให้พลังงาน 160 แคลอรี่ 
2. กวางตุ้งฮ่องเต้ (Bok Choy) 
ให้แคลเซียม 158 มิลลิกรัม คิดเป็น 16% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ถ้วย ให้พลังงาน 20 แคลอรี่ 
3. ทาฮินี่ (Tahini คืองาบดจนข้นเป็นครีม เป็นอาหารพื้นเมืองจากแถบตะวันออกกลาง) 
ให้แคลเซียม 112 มิลลิกรัม คิดเป็น 12% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 160 แคลอรี่ 
4. ครีมชีส 
ให้แคลเซียม 98 มิลลิกรัม คิดเป็น 10% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ออนซ์ (ประมาณ 28 กรัม) ของครีมชีสชนิดพร่องมันเนย ให้พลังงาน 29 แคลอรี่ 
5. คะน้า 
ให้แคลเซียม 93 มิลลิกรัม คิดเป็น 9% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ถ้วย ให้พลังงาน 36 แคลอรี่ 
6. อัลมอนด์ 
ให้แคลเซียม 75 มิลลิกรัม คิดเป็น 8% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ออนซ์ (อัลมอนด์ประมาณ 22 เมล็ด) ให้พลังงาน 170 แคลอรี่ 
7. บร็อคโคลี่ 
ให้แคลเซียม 62 มิลลิกรัม คิดเป็น 6% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ถ้วย ให้พลังงาน 55 แคลอรี่ 
8. ปวยเล้ง (spinach หรือผักโขมอย่างที่เราเรียกกัน ความจริงคือปวยเล้งนะคะ) 
ให้แคลเซียม 60 มิลลิกรัม คิดเป็น 6% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 2 ถ้วย ให้พลังงาน 14 แคลอรี่ 
9. วอเตอร์เครส 
ให้แคลเซียม 40 มิลลิกรัม คิดเป็น 4% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ถ้วย ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ 
10. โรมาโนชีส 
ให้แคลเซียม 298 มิลลิกรัม คิดเป็น 30% ของปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน 
ปริมาณการบริโภค : 1 ออนซ์ (ประมาณ 28 กรัม) ให้พลังงาน 108 แคลอรี่ 
รู้จักวัตถุดิบอุดมแคลเซียมตั้ง 10 ชนิดแล้ว คราวนี้ไปนั่งนึกเมนูกันดีกว่า ว่าสิ่งเหล่านี้จะเอามาทำอะไรกินดี เอาแบบอร่อย ๆ ไม่มัน ไม่เลี่ยน และกินแล้วต้องออกแรงเผาผลาญพลังงานที่ได้ให้หมดด้วยนะคะ จึงจะได้ประโยชน์จากแคลเซียมไปช่วยควบคุมน้ำหนักกันเต็ม ๆ ไงล่ะ ^^ 

 ที่มา https://www.kroobannok.com/53716

อัพเดทล่าสุด