https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
จำให้ดี! ขับรถลงเขาอย่าเน้น เบรก แต่ต้องเน้น เกียร์ MUSLIMTHAIPOST

 

จำให้ดี! ขับรถลงเขาอย่าเน้น เบรก แต่ต้องเน้น เกียร์


3,945 ผู้ชม

ช่วงเทศกาลในฤดูหนาวแบบนี้ หลายคนคงอยากขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็นบนเขาสูง ซึ่งวิธีเดินทางหนึ่งที่สะดวกและปลอดภัยก็คือการขับรถขึ้นไปเอง แต่รู้ไหมว่าการขับรถลงเขามันช่างอันตรายยิ่งนัก ไม่เว้นแม้กระทั่งรถใหม่!...


 จำให้ดี! ขับรถลงเขาอย่าเน้น เบรก แต่ต้องเน้น  เกียร์

ช่วงเทศกาลในฤดูหนาวแบบนี้ หลายคนคงอยากขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็นบนเขาสูง ซึ่งวิธีเดินทางหนึ่งที่สะดวกและปลอดภัยก็คือการขับรถขึ้นไปเอง แต่รู้ไหมว่าการขับรถลงเขามันช่างอันตรายยิ่งนัก ไม่เว้นแม้กระทั่งรถใหม่!
     
การขับรถลงเขาลาดชัน ต่างจากการขับรถขึ้นเขาโดยสิ้นเชิง เพราะรถจะไหลลงมาเร็วชนิดที่ไม่ต้องเหยียบคันเร่ง หลายคนจึงใช้วิธีเหยียบเบรกเพื่อประคองความเร็วให้ช้าสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นวิธีที่ 'ผิด' และ 'อันตราย' เป็นอย่างมาก เพราะระบบเบรกจะมีการเสียดสีจนเกินความร้อนสะสมมาก ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า 'เบรกเฟด' ซึ่งว่าง่ายๆ ก็คือ เบรกไม่อยู่ เหยียบหนักแค่ไหนรถก็ไม่ชะลอความเร็ว จนทำให้เกิดอุบัติเหตุมานักต่อนักแล้ว
     
ดังนั้น การขับรถลงเขาจะต้องมีตัวช่วยอีกอย่างเพื่อให้ไม่เบรกทำงานหนักจนเกินไป นั่นคือ 'เกียร์' ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา รวมถึงเกียร์แบบซีวีทีด้วย
เมื่อต้องขับรถลงเขาหรือทางชันเป็นระยะเวลานานๆ ให้เปลี่ยนจากตำแหน่งเกียร์ 'D' ไปเป็นเกียร์ '2' หรือหากรถยังไม่มีแรงหน่วงพอ ก็ให้เลื่อนมาเป็นตำแหน่ง '1' หรือ 'L' รอบเครื่องยนต์จะพุ่งขึ้นสูง พร้อมกับมีแรงหน่วงช่วยไม่ให้รถไหลด้วยความเร็วมากจนเกินไป ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์จะหมุนด้วยความเร็วสูง แต่ระหว่างนี้หัวฉีดจะไม่มีการจ่ายน้ำมัน จึงไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ
     
หากเป็นเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ตำแหน่ง '+' '-' ก็ให้ผลักคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง Manual แล้วจึงผลักเกียร์ไปยัง '-' เพื่อเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 หรือ 1 ได้เช่นกัน
     
ส่วนการเบรก ให้เหยียบเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรเหยียบแป้นเบรกตลอดเวลา เพราะจะทำให้เบรกร้อนจนเกิดอาการเฟด รวมถึงควรรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าพอประมาณ เพราะต้องใช้ระยะทางเบรกยาวกว่าทางราบปกติ
     
เทคนิคนี้ถือว่าสำคัญมาก สามารถเซฟชีวิตและทรัพย์สินให้ปลอดภัยได้เป็นอย่างดี ดังนั้น อย่าลืมนำไปปรับใช้กับตัวเองกันนะครับ

ที่มา     sanook.com 

อัพเดทล่าสุด