https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
เช็คด่วน! นอนเท่าไหร่ก็ง่วงอยู่ คุณอาจกำลังเป็น 7 โรคนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว MUSLIMTHAIPOST

 

เช็คด่วน! นอนเท่าไหร่ก็ง่วงอยู่ คุณอาจกำลังเป็น 7 โรคนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว


15,474 ผู้ชม

บางคนอาจจะมีความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน นอนยังไงก็ยังไม่เพียงพอสักที บางครั้งช่วงบ่ายๆหลังทานอาหารกลางวันอิ่มๆ


เช็คด่วน! นอนเท่าไหร่ก็ง่วงอยู่ คุณอาจกำลังเป็น 7 โรคนี้อยู่โดยไม่รู้ตัว

บางคนอาจจะมีความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน นอนยังไงก็ยังไม่เพียงพอสักที บางครั้งช่วงบ่ายๆหลังทานอาหารกลางวันอิ่มๆ

โดยเฉพาะวันไหนที่กินอิ่มมากๆ ยิ่งทำให้อาการนี้กำเริบหนักมากไปกว่าเดิม อาการที่เป็นอยู่นี้สื่อถึงอะไรได้บ้าง วันนี้จะมาหาคำตอบกันว่าโรคใดบ้างที่คุณอาจจะเป็นได้...
1. โรคนอนไม่หลับ
อาจเป็นเพราะคุณนอนดึกมากๆ ทำงานหนักมากๆ งานเยอะมากๆ หรือเครียดมากๆ จนนอนไม่หลับ ซึ่งการนอนไม่หลับแบบสะสม ทำให้วันต่อๆ มาเกิดอาการง่วงนอนตอนกลางวันได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ควรคลายเครียดสักหน่อย ลดการทำงานในตอนกลางคืนลงเสียบ้าง หรือปรึกษาแพทย์สักหน่อยก็ได้ อะไรๆจะได้ดีขึ้น

2. โรคอ่อนเพลีย 
เมื่อนอนไม่หลับติดต่อกันนานๆก็จะเกิดเป็นโรคอ่อนเพลียขึ้นได้ เพราะโรคนี้เป็นขั้นกว่าของโรคนอนไม่หลับ เมื่อร่างกายสะสมความอ่อนเพลียหนักขึ้นเรื่อยๆ โรคนี้ก็จะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
โรคนี้ยังอาจมีสาเหตุมาจากการบริโภคอาหารบางประเภท เช่น อาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไปด้วย การที่ร่างกายได้รับอาหารเหล่านี้มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความเพลีย อ่อนล้า ง่วงนอน ความจำไม่ค่อยดี ปวดหัว ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว และนอนหลับไม่สนิทได้
3. โรคเบาหวาน
การบริโภคแป้งและน้ำตาลสูงๆ ทำให้เกิดเป็นโรคล้าเรื้อรังได้ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น นอกจากนี้ ยังเป็นบ่อเกิดของโรคเบาหวานได้อีกด้วย เพราะการที่เลือดมีปริมาณน้ำตาลสูงๆ ก็จะทำให้เกิดเป็นอาการง่วงนอนขึ้นโดยทันที เพื่อเตือนให้ร่างกายทราบว่า ขณะนี้ร่างกายกำลังอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแล้ว หากยังฝืนทานต่อไปเรื่อยๆจะนำไปสู่โรคเบาหวานได้ในอนาคตอันใกล้
4. โรคลมหลับ
โรคนี้หมายถึง อาการง่วงนอนอย่างมากในตอนกลางวัน แต่กลับตาสว่างในตอนกลางคืน จะข่มตาหลับก็หลับไม่สนิท หรือพอได้นอนปุ๊บก็จะฝันทันที ทำให้คุณภาพการนอนแย่ลง และส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการสมองช้า ขาดสมาธิ สุขภาพจิตเสีย หรือแม้กระทั่งการเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิต
5. โรคโลหิตจาง
ผู้หญิงเป็นเพศที่มีโอกาสเป็นโรคโลหิตจางได้ง่าย เพราะส่วนหนึ่งเลือกทานอาหารและต้องสูญเสียโลหิตจากการมีประจำเดือน ซึ่งอาจนำมาสู่การอ่อนเพลีย หน้ามืด เหนื่อยง่าย เชื่องช้า เซื่องซึม และไม่สดใสในที่สุด
6. เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรืออวัยวะส่วนอื่นๆ ในร่างกาย
การสูญเสียเลือดในปริมาณมากๆ บ่อยๆ เช่น มีเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร หรืออาจจะสูญเสียเลือดจากการเป็นโรคริดสีดวงทวารบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุของอาการอ่อนเพลีย หรืออยู่ในภาวะโลหิตจางเรื้อรัง เลยแสดงอาการเหนื่อยง่าย หน้ามืด เป็นลมง่าย อ่อนแรง และง่วงหงาวหาวนอนได้เช่นกัน
7. โรคนอนเกิน (Hypersomnia) หรือ การหลับเกินพอดี
เป็นโรคที่เกิดในคนขี้เซาเป็นหลัก โดยคนพวกนี้มักจะรักการนอนเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งพักผ่อนด้วยการนอนมากเท่าไรก็ยังรู้สึกไม่พอ เมื่อนอนติดต่อกันมากๆ จะทำให้ผู้ป่วยดูเฉื่อยฉา ซึมเซา ไร้ชีวิตชีวา หรือไม่ค่อยทานอาหาร เพราะเอาเวลาไปนอนซะหมด แต่กลับพบอาการอ้วนได้ง่าย เนื่องจากการนอนเยอะเกินไปอาจมีธาตุเครียดเข้ามาผสม
อย่างไรก็ตามผู้ที่มีชั่วโมงการนอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า นั่นแปลว่าหากคุณนอนเยอะเกินไป แม้ว่าอายุยังน้อยอยู่ แต่อายุสมองของคุณอาจจะแก่มากกว่าที่ควรจะเป็นก็ได้

ที่มา : thaijobsgov.com,khanpaklive.com,thaidentoz.com

อัพเดทล่าสุด