https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
อ่านเถอะนะ ถ้ายังรักตัวเองอยู่ โดยอาจารย์ ไกร มาศพิมล (นักโภชนาการบำบัด) MUSLIMTHAIPOST

 

อ่านเถอะนะ ถ้ายังรักตัวเองอยู่ โดยอาจารย์ ไกร มาศพิมล (นักโภชนาการบำบัด)


41,920 ผู้ชม


อ่านเถอะนะ ถ้ายังรักตัวเองอยู่ โดยอาจารย์ ไกร มาศพิมล (นักโภชนาการบำบัด)

อ่านเถอะนะ “ถ้ายังรักตัวเองอยู่” โดยอาจารย์ ไกร มาศพิมล (นักโภชนาการบำบัด)
วันนี้เรามีสาระดีๆ มาฝากทุกท่านอีกเช่นเคย เป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพของตัวเองให้เหมาะสมกับช่วงวัยและอายุของเรา เป็นเคล็ดลับจากอาจารย์ไกร มาศพิมล นักโภชนาการบำบัด มีอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า
จิบน้ำร้อน บ่อยๆ = ช่วยปรับสมดุลย์ ความดันเลือด, ลดเส้นเลือดสมองตีบ, เบาหวาน, ต้อที่ตา, ไต
จิบน้ำร้อน = 1 ถ้วยกาแฟ หรือ 250 CC ก่อนอาหาร ลดความอ้วน
การดื่มน้ำเย็นครั้งละมาก ๆ = จะมีผลให้น้ำซึมเข้าสู่สมอง ซึ่งเป็นเหตุของการเกิดภาวะสมองบวมน้ำ
เบาหวาน = กิน น้ำตาลธรรมชาติได้ น้ำตาลฟรุตโตส, น้ำตาลปี๊ป (น้ำตาลปึก), โอวทึ้ง, น้ำผึ้ง หยุด น้ำตาลกรวด, น้ำตาลทรายแดง, น้ำตาลทราย, ซูโครส
น้ำตาลทราย/น้ำตาลกรวด = จะสะสมที่ตับเป็นไขมัน ก่อให้เกิดไตรกลีเซอร์ไรด์ สำหรับน้ำตาลที่ฟอกขาวจะใช้สารคลอลีน ซึ่งมีสารก่อมะเร็ง
แกนสับปะรด = มีสารบอบิเรน ลดมะเร็งปากมดลูก โดยให้ดูดแต่น้ำ แล้วคายกากทิ้ง
ทุเรียน = มี Anti – Oxidant, กำมะถัน (งด ข้าว) ช่วยลดมะเร็ง, ลดคลอเรสเตอรอล, ลดอ้วน, ลดไขมัน, ต้านแก่
น้ำแตงโม = ไวอาก้า ธรรมชาติ บำรุงเลือด, ละลายลิ่มเลือด ช่วยมือเท้าชา
กล้วยไข่ = ช่วยหยุดผมร่วง, ป้องกันอัลไซเมอร์, บำรุงสมอง, บำรุงตับ ไต, ป้องกันมะเร็ง, บำรุงกระดูก, บำรุงสายตา, รักษา Office Syndrome
กล้วยน้ำว้า = วันละ 2 ลูก เหมือนๆ กล้วยหักมุก ปิ้งไฟทั้งเปลือก ลดไข้, ลดเจ็บคอ, บำรุงตับอ่อน, รักษาเบาหวาน, แก้ทอนซิลอักเสบ
กล้วยหอม = (กล้วยเล็บมือนาง) 3 ผล / สัปดาห์ เป็น ฮอร์โมนหญิง มีโปแทสเซียม ป้องกันโรคพากินสัน และ อัลไซเมอร์, บำรุงสมอง, ป้องกันสมาธิสั้น
น้ำมะพร้าวอ่อน = ปรับสมดุลย์ ฮอร์โมน ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนวันละ 1 ลูก ช่วยฟอกเลือด และบำรุงไต ส่วนเนื้อมะพร้าวช่วยบำรุงตับ

กะทิ = ลดคอเลสเตอรอล(Cholesterol), ไม่อ้วน, ไม่เบาหวาน
น้ำมันมะพร้าว = ช่วยลดความอ้วน โดยกินก่อนอาหารเช้า 4 ช้อนกาแฟ ใช้เป็น Hair Serum ลงหนังหัว, ลดหงอก, เพิ่มผม ใช้ล้างเครื่องสำอาง ใช้เป็นเดย์ครีม ไนท์ครีมได้ มี SPF 90 (Sun block)
น้ำมันมะพร้าว = นำกะทิใส่ถุงแช่ตู้เย็น 3 ช.ม. เพื่อให้เนื้อกับน้ำแยกตัวกัน นำเนื้อมะพร้าวส่วนบนไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมัน เก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน
Oil Pulling คือการนำน้ำมันพืชชนิดสกัดเย็น มาบำบัดโรค = ใช้น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว น้ำมันทานตะวัน ที่ผ่านกรรมวิธีแบบหีบเย็น ปริมาณ 2 ช้อน อมไว้ประมาณ 15 นาที แล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยนำเชื้อโรคออกจากช่องปาก
หยุดใช้น้ำมันพืช = เนื่องจากมีส่วนผสมของสารเคมี เมื่อน้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิ 60 องศา จะเปลี่ยนสภาพเป็นไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้น ควรบริโภคมะพร้าว น้ำมันหมู น้ำมันไก่ ตับจะทำหน้าที่ผลิต Cholesterol โดยที่ Cholesterol LDL จะช่วยป้องกันผิวหนัง และผลิต Cholesterol HDL เพื่อดักจับ LDL ไปทิ้ง
การทำน้ำมันหมู = นำน้ำมันหมูเปลว 1 ก.ก. กับเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ เจียวบนกระทะ จะทำให้ไม่ติดกระทะ ไม่กระเด็น ได้น้ำมันเกือบ 2 ลิตร กากหมูจะกรอบมาก เนื่องจากเกลือจะเป็นตัวช่วยดึงน้ำมันออกมาจนหมด
การสระผม = ควรสระผมด้วยสบู่เด็ก ควรสระผมช่วงเช้า ไม่ควรสระผมตอนเย็น เพราะผมจะไม่สามารถแห้งได้ทัน เวลานอนจะเกิดเชื้อรากลางคืน เป็นเหตุของอาการคันศีรษะ และ ลงน้ำมันมะพร้าวที่หนังหัว
เกลือ = การบริโภคเกลือ (เกลือทะเล เกลือเม็ด) ไม่ได้ทำให้ไตวาย แต่เนื่องจากในอุตสาหกรรมการผลิตเกลือที่ขาวละเอียดมีการเติมโพลิเมอร์ โดยหยดลงบนเกลือ ทำให้โครงสร้างจากเดิมโซเดียมคลอไรด์เปลี่ยนเป็นโซเดียมซัลเฟต ซึ่งมีผลต่อไต เพราะไม่สามารถขับออกได้ ซึ่งเกลือชนิดนี้จะโรยบนอาหารแล้วยังคงทำให้อาหารกรอบ แต่ถ้าเป็นเกลือที่เป็นโซเดียมคลอไรด์นั้น จะมีคุณสมบัติดูดความชื้นทำให้อาหารไม่คงความกรอบ
ไมโครเวฟ = การใช้ไมโครเวฟ ระวังมะเร็ง เนื่องจากมีการกระจายคลื่นเข้าสู่เซลมีผลทำให้ตายได้
ตะไคร้แกง = นำมาหั่นแล้วต้มเป็นน้ำตะไคร้ ดื่มเพื่อช่วยลดเบาหวาน
กาแฟ มีคาเฟอีน มีไว้ดม ไม่ควรกิน เพราะจะมีผลยับยั้งไม่ให้แคลเซียมไปเกาะกระดูก จึงมีโอกาสเป็นโรค กระดูกผุ กระตุ้นเซลมะเร็ง
ไข่ = ไข่ต้ม ไข่เค็ม ไข่พะโล้ โดยเฉพาะไข่แดง หากกินวันละ 2 ฟอง จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด (ลดเบาหวาน) เนื่องจากไข่แดงมีซิลิเนียม งานวิจัยของฮาวาร์ด พบว่าหากบริโภคไข่วันละ 3 ฟอง (อายุต่ำกว่า 45 ปี) ; บริโภควันละ 2 ฟอง (อายุ 45 ปี – 50 ปี) และบริโภควันละ 1 ฟอง (อายุเกิน 50 ปี) ไข่ต้ม 1 ฟอง มีสรรพคุณสูงกว่านม 5 กล่อง
การออกกำลังกาย = ควรออกกำลังกายทุกวัน ออกกำลังกายอย่างง่าย ๆ เช่น
1. การขยับนิ้วมือ เป็นการช่วยเรื่องน้ำในข้อ ผลที่ได้กระดูกจะไม่ผุ
2. งอนิ้วมือ ช่วยในเรื่องของอาการนิ้วล็อค
3. กำมือและแบมือสลับข้างกันไปมา ช่วยในเรื่องของโรคหัวใจ และลด Cholesterol
4. นั่งบนเก้าอี้ กำมือ และขยับเท้ายกขึ้นทำท่าวิ่งบนอากาศ
5. นั่งบนเก้าอี้ กำมือ ทุบขาด้านนอก และด้านใน ทุบแขน สลับกันไป
6. การนั่งตรง ๆ นั่งแค่ครึ่งเก้าอี้ ประมาณ 10 นาที ช่วยป้องกันในเรื่องของริดสีดวงทวาร
7. กำมือขวาหมุนเป็นวงกลมออกนอกตัว และกำมือซ้ายหมุนเป็นวงกลมเข้าหาตัว เป็นการบริหารสมองทั้ง 2 ซีก
8. มือประสานกันสองข้าง ยืดตรงไปข้างหน้า เท้าห่างกันประมาณช่วงไหล มองตรง แล้วหมุนเอวไปรอบ ๆ ทั้งด้านซ้าย และขวา ครั้งละ 5 รอบ ทำตอนเช้า จะช่วยลดส่วนเกินตรงหน้าท้อง (Moon attracted) ความดัน
– อายุ น้อยกว่า 30 บน 110 ล่าง 70
– อายุ 50 บน 130 ล่าง 85
– อายุ 60 บน 140 ล่าง 90
ของฝากจาก ดร.วิชัย เกียรติสามิภักดิ์
กรุณาส่งต่อเพื่อนๆที่เรารักด้วย-ขอบคุณ
#เรื่องสุขภาพสำคัญ
#ชีวิตต้องมีวันพรุ่งนี้
#เรื่องดีๆ เลยต้องบอกต่อ
ขอขอบคุณ : อาจารย์ ไกร มาศพิมล (นักโภชนาการบำบัด)
แหล่งที่มา: postsod.com

อัพเดทล่าสุด