https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
การปลูกแก้วมังกร ให้ได้ผลดี วิธีปลูกแก้วมังกร การขยายพันธ์แก้วมังกร MUSLIMTHAIPOST

 

การปลูกแก้วมังกร ให้ได้ผลดี วิธีปลูกแก้วมังกร การขยายพันธ์แก้วมังกร


4,452 ผู้ชม


การปลูกแก้วมังกร ให้ได้ผลดี

สภาพดินและภูมิอากาศที่เหมาะสมแก่การปลูกต้นแก้วมังกร

ต้นแก้วมังกรสามารถปลูกได้ในทุกสภาพดินเช่น ดินปนทราย,ดินเหนียว,ดินลูกรังเป็นต้น สำหรับดินเหนียวและ
ดินลูกรังจำเป็นจะต้องมีการปรับหน้าดินด้วยการใส่ปุ๋ยคอกและแกลบดำ อีกประการหนึ่งต้นแก้วมังกรเป็นต้นไม้
ที่ชอบอาศัยอยู่ในดินโปร่ง ร่วนซุย ไม่แน่นจนเกินไป และสามารถระบายน้ำได้ดี

ด้วยความที่แก้วมังกรเป็นพืชตระกูลตะบองเพชรจึงเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนและแดดจัดในการปลูกแก้วมังกรนั้น
จึงควรเตรียมพื้นที่ให้อยู่ที่โล่งแจ้งไม่มีร่มเงาของต้นไม้อื่นมาบังแก้วมังกรจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและออกดอก
ออกผลได้อย่างน่าพอใจ
การปลูกแก้วมังกร ให้ได้ผลดี วิธีปลูกแก้วมังกร การขยายพันธ์แก้วมังกร

การให้ผลผลิต

 
เมื่อปลูกแก้วมังกรได้ 8 เดือน – 1 ปี ก็จะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 30ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 3ประมาณ 100 ถึง 200 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่4- 15 ประมาณ 300 ผลต่อหนึ่งค้างขึ้นไป  ขนาดของผลโดยเฉลี่ย3-4 ผลต่อหนึ่งกิโลกรัม หากต้องการให้ผลผลิตออกทั้งปีก็สามารถทำได้โดยใช้หลอดไฟขนาด 200 วัตต์หนึ่งดวงต่อเสาสี่เสา เปิดไฟตั้งแต่เวลา 19.00 ถึง 5.00 น. ติดต่อกันทุกคืนเป็นเวลา 15 คืน ตาดอกก็จะเริ่มสร้างขึ้นมา คลำดูที่ตาใต้หนามจะรู้สึกได้หลังจากนั้นอีกประมาณ 5 วัน ดอกก็จะพัฒนาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนอายุ ได้ 15 วัน ก็จะบานและผสมติดอีก 30 วัน ก็จะเริ่มสุกและเก็บผลได้
การปลูกแก้วมังกร ให้ได้ผลดี วิธีปลูกแก้วมังกร การขยายพันธ์แก้วมังกร

โรคและแมลงที่พบ

โรคโคนเน่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคโคนเน่า เนื่องจากการให้น้ำมากจนเกินไปดังนั้นผู้ปลูกควรระวังการให้น้ำ และควรให้น้ำในอัตราที่เหมาะสม หากเกิดโรคแล้วให้ปาดเนื้อที่เน่าออกแล้วนำปูนแดง(ปูนทาหมาก)ทาที่แผลหรือใช้ยาป้องกันเชื้อราทาก็ได้

ศัตรูตัวฉกาจของแกว้มังกรก็คือ เจ้ามดคันไฟกัดยอดอ่อน หากมีมดมาก่อกวนให้ใช้ยาฆ่ามดกำจัด ตัวอย่างยี่ห้อยาเช่น ซันเจี่ย ,เซฟวิน85, คลุก40 ,หรือฟูราดาน

วิธีการปลูก สามารถปลูกได้สองรูปแบบได้แก่
1. ปลูกในกระถาง (ใช้ต้นมังกร 1-2 ต้นต่อหนึ่งหลัก)
2. ปลูกบนดินหรือพื้นที่บริเวณกว้าง(ใช้ต้นมังกร 4 ต้นต่อหนึ่งหลัก)
**การปลูกในกระถางเป็นการปลูกเพื่อไว้ประดับหรือเป็นไม้มงคลเท่านั้น


การปลูกในกระถาง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปลูก
1.ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวงหน้ากว้าง4 นิ้ว ยาว 1.3 เมตร(หรือเสาไม้ก็ได้)
2.กระถางหน้ากว้าง 50 ซ.ม.
3.ค้างด้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง x ยาว 30 ซ.ม
4.ขุยมะพร้าว
5.ดิน
6.เชือกฟาง

วิธีการปลูก
1.ใช้เสาตั้งเป็นหลักในกระถาง
2. ใส่ขุยมะพร้าวรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีในอัตราส่วน1ใน3ของปริมาตรกระถาง จากนั้น
นำดินสำเร็จรูปผสมกับขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ ใส่ลงไปในกระถางจนถึงขอบกระถาง
3.นำต้นแก้วมังกรมาปลูกให้ชิดกับเสาแล้วใช้เชือกฟางมัดต้นแก้วมังกรให้ติดกับเสาไม่ต้อง(มัดให้แน่นมาก
ควรผูกไว้จนกว่าต้นแก้วมังกรจะเจริญเติบโตจนพ้นหัวเสา
4.จากนั้นนำดินมากลบด้านบนของกระถางเป็นอันเสร็จ

**ต้นแก้วมังกร เป็นสามเหลี่ยมแต่จะมีอยู่ด้านหนึ่งที่เป็นด้านแบน ดังนั้นเวลาผูกต้นแก้วมังกร ให้จับด้านแบนของต้นเข้ากับหลักเพราะว่าด้านแบนเป็นด้านที่จะออกราก


การปลูกในพื้นที่บริเวณกว้าง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปลูก
1.ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวงหน้ากว้าง 6 นิ้ว ยาว 2 เมตร(หรือเสาไม้เนื้อแข็งก็ได้)
2.ไม้สนหรือไม้ไผ่ลำปล้องใหญ่(ใช้เป็นเสาเข็ม)
3.ค้างด้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง x ยาว 30 ซ.ม
4.ปูน
5.ดิน
6.เชือกฟาง

วิธีการปลูก
1.ใช้เสาท่อน้ำทิ้งข้างในกลวง ตั้งเป็นหลัก
2.ขุดดินลึกลงไป 30 ซ.ม.ใช้ไม้สนหรือไม้ไผ่ลำปล้องใหญ่ เป็นเสาเข็มยาว 60 ซ.ม. ตอกลึก ลงไปในดิน 30 ซ.ม.
โผล่จากดิน 30 ซ.ม. จากนั้นนำหลักมาตั้งบนเสาเข็มที่โผล่แล้วเทปูนลงในเสาประมาณ 1 กระป๋องปูน เพื่อให้ปูนยึดหลักและเสาเข็มเข้าด้วยกัน
3.ฟันให้เป็นโขดรอบหลักลักษณะคล้ายฝาชี จากนั้นก็นำต้นแก้วมังกร  4ต้น มาปลูกลง 4 ด้านของหลัก โดยใช้เชือกฟางมัดแบบหลวมๆต้องมัดจนกว่าจะพ้นหัวหลัก
4.จากนั้นนำดินข้างๆโขดมากลบบนต้นที่ปลูก แต่ลักษณะยังคงคล้ายฝาชี การทำโขดแบบฝาชี เผื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านโดยไม่ขังอยู่ที่โคนต้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดโรคโคนเน่า
5.ใช้ฟางปิดรอบโขดเป็นอันเสร็จ

**ต้นแก้วมังกร เป็นสามเหลี่ยมแต่จะมีอยู่ด้านหนึ่งที่เป็นด้านแบน ดังนั้นเวลาผูกต้นแก้วมังกร ให้จับด้านแบนของต้นเข้ากับหลักเพราะว่าด้านแบนเป็นด้านที่จะออกราก
 

การให้ปุ๋ย

1.ใส่ปุ๋ยทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2 – 4 ช้อนโต๊ะ สูตรที่ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำติดต่อกันเป็นเวลา 3วัน (วันละครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้) ถ้ามีปุ๋ยคอกเช่นมูลไก่ หรือ มูลวัวก็ใช้ได้ และให้ใส่เดือนละ 1 ครั้ง
2. เมื่อปลูกได้เป็นระยะเวลา 6  เดือน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24  ผสมกับ 15-15-15 ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง
3. บางครั้งให้ใช้สาหร่ายสกัดผสมน้ำรดเพื่อช่วยเร่งในการเจริญเติบโต และอาหารเสริมต่างๆด้วย
4.ต้องฉีดยาเชื้อราคลุมเวลาฝนตกหลายวันติดกัน หรือช่วงที่ต้นมังกรติดลูก แล้วฝนตกชุก เพราะถ้าไม่ฉีดอาจจะทำให้ดอกร่วง ติดผลน้อย หรืออาจเป็นโรคแอนเทคโนได้
5.ควรใช้ปุ๋ยทางใบ(ปุ๋ยเกล็ด)เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของต้นแก้วมังกร ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น สูตรที่ใช้คือ (18-18-18),(21-21-21)
6.ควรใช้ยาสารเร่งประสิทธิภาพ (ยาจับใบ ) ทุกครั้งที่ฉีดพ่นปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง เพราะผิวของต้นแก้วมังกร มีลักษณะมันและลื่นทำให้ยาและปุ๋ยไม่สามารถจับติดกับต้นได้ดี

การรดน้ำ

ให้รดน้ำเพียง 1 ครั้ง ภายใน 2 - 3 วัน และไม่ควรรดมากเกินไปเพราะอาจทำให้เป็นโรคโคนเน่าได้

ที่มา https://www.kennydragonfruit.com

อัพเดทล่าสุด