https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
บทความที่น่าสนใจ พังงา สิมิลัน ลั้นลา MUSLIMTHAIPOST

 

บทความที่น่าสนใจ พังงา สิมิลัน ลั้นลา


602 ผู้ชม


 บทความที่น่าสนใจ พังงา

สิมิลัน ลั้นลา

โดย  นันทวรรณ

 บทความที่น่าสนใจ  พังงา สิมิลัน ลั้นลา ธันวาคม เดือนแห่งความสุขของฉัน  8-10 ธค. ฉันจะไปสิมิลัน  วางแผนนานเป็นเดือน เพราะเป็นเทศกาลทุกอย่างต้องจอง ดังนั้นเริ่มดำเนินการ  โทรไปถามค่าเรือก่อน “โห แพงจัง ไป-กลับ 1900 บาท เป็นเรือสปีด เดินทาง ไป 2.30 ชั่วโมง กลับเวลาเท่ากัน  เหตุผลคือ น้ำมันแพง  ขอต่อราคาได้มั้ยค่ะ คำตอบคือ ไม่ได้ค่ะ “  เครียดเลย งบต้องบานปลายแน่ ๆ ต้องมี 5000 บาทขึ้น ไม่เป็นไร ประหยัดค่าที่พัก และค่ากินดีกว่า ยังไงซะปีนี้ต้องไปให้ได้ ฉันคิด

แผนการท่องเที่ยวของฉันและเพื่อนอาจจะแตกต่างกับคน ส่วนมาก  อากาศหนาว ๆ น่าจะไปเชียงใหม่กัน แต่เพื่อไม่ให้คนล้นหลาม ทะเลในเดือนธันวาคม ก็สวยไม่แพ้เชียงใหม่ เท่าที่ฉันเคยไปมา และคนก็ไม่มากด้วย  เอาเป็นว่า จองทุกอย่างเลยดีกว่า 

ศุกร์ที่ 8 เวลา 20.00 ตรงรถออก ที่สายใต้ใหม่กว่า ใช้บริการรถของ บขส ที่ซื้อตั๋วไว้กับ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เดี๋ยวนี้สะดวกขึ้นเยอะมาก ไม่ต้องไปจองตั๋วที่สายใต้แล้ว  นั่งรถไป 12 ชั่วโมง ถึงปากทางเข้าทับละมุ ซึ่งเป็นท่าเรือไปสิมิลัน มีรถของบริษัท ทัวร์ มารับ เพื่อไปซื้อตั๋วเรือ และตกลงวันกลับให้เรียบร้อย ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เราก็ถูกเรียกขึ้นสองแถวนั่งมา 5 นาที ก็ถึงท่าเรือ  เวลาช่างรวดเร็วเหลือเกิน ในที่สุดเราก็มาถึงเกาะสี่ ประมาณ 12.00 เพื่อแวะกินข้าวกลางวัน ด้วยความเร็วของเรือ และกระแสคลื่น ทำให้เพื่อนของชั้น มีอาการท้องไส้ปั่นป่วน  จึงขอแนะนำว่าคนท้องห้ามนั่งสปีดโบ๊ทเด็ดขาด  เราแวะพักกินข้าวที่เกาะสี่ ประมาณ 1 ชั่วโมง เกาะสี่หาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส  พร้อมบ้านพัก และจุดกางเต้นท์ ไว้อำนวยความสะดวกนั่งท่องเที่ยว เพราะเป็นที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ก็พักกันที่นี่ แต่เรานำเต้นท์ มากางเองจึงต้องไปพักที่ เกาะแปด หินเรือใบ  บทความที่น่าสนใจ  พังงา สิมิลัน ลั้นลา

หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็นั่งเรือต่อไปเพื่อไปดำน้ำตื้นที่เกาะ 5-6 กระแสน้ำค่อนข้างแรง บวกกับใต้ทะเลไม่มีอะไรให้ดูเลย นอกจากน้ำใส ๆ เราจึงใช้เวลาเพียงนิดหน่อย ก็ขึ้นเรือ และไปต่อกันที่เกาะ 9 ที่นี่เองที่คนเรือบอกว่าเมื่อวานมีเต่าทะเลมาว่ายให้คนเห็น ดังนั้น คนเรือจึงพาเรา 2 คน ดำหาเต่า แต่ก็ไม่เจอ เต่าคงอาย จึงไม่ออกมาให้เห็น ไม่เป็นไร ที่นี่ใต้น้ำมีปลาตัวใหญ่ และปะการังเขากวาง สมอง ด้วย สวยพอใช้ได้ ค่อยน่าดูหน่อย ดำอยู่สักชั่วโมง เราก็นั่งเรือต่อไปเกาะแปด เพื่อกางเต้นท์พักแรมคืนนี้ 

เช้าวันรุ่งขึ้น เราไปเดินป่าด้านหลังเพื่อขึ้นจุดชมวิวที่เห็นหมู่เกาะสิมิลันทั้ง 9 เกาะ เดินไปหลงไป ขึ้น ๆ ลง ๆ กระหายน้ำ และหิวข้าวมาก เพราะไม่ได้กินข้าวเช้าไป น้ำก็มีขวดเดียว ใช้เวลาสัก 1.30 ชั่วโมง เราก็มาถึงจุดชมวิว วิวที่เห็นก็เป็นท้องทะเลกว้างมาก กับเกาะ 9 เกาะ  ณ จุดนี้ เราสามารถใช้โทรศัพท์ได้ แต่เป็นคลื่นของ GSM เท่านั้น หากใครพักเกาะแปดและต้องการโทรติดต่อคนบนฝั่ง ก็ต้องเดินมาโทรที่จุดนี้ ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่า

 บทความที่น่าสนใจ  พังงา สิมิลัน ลั้นลา เรา ทั้ง 5 คน ฉันและเพื่อน 2 คน บวกกับน้องชาย อีก 3 ที่เจอกันระหว่างทาง เดินต่อไปอีกพักใหญ่ เป็นการเดินลงเขาอย่างหนัก ในที่สุดเราก็มาพบชายหาดเงียบสงบ ไร้ผู้คน เราเล่นน้ำ นอนพัก จนบ่าย  2 โมง ก็ตัดสินใจเดินทางกลับเพราะกลัวท้องฟ้าจะมืดและเดินลำบาก อีกทั้งเราทั้ง 5 หิวข้าวและน้ำมาก เราเดินกันด้วยความเงียบของเสียงคน แต่สอดแทรกด้วยเสียงของป่า คือ จักจั่น ร้องกันระงม อยู่กรุงเทพ ไม่มีสิทธิ์ได้ยินแน่นอน

ในที่สุด เราก็เดินมาถึงที่ทำการเกาะแปด ด้วยความเหนื่อยล้า เราสั่งข้าวกินกันอย่างรวดเร็ว อิ่ม และอร่อย เพราะหิว วันนี้ จบลงด้วยดี พบมิตรภาพใหม่ ระหว่างทาง คืนนี้ขอนอนหลับให้สบาย ให้หายเหนื่อย พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

เช้าแล้ว  เราตื่นมา นั่งเล่น นอนเล่น เพื่อรอเรือกลับตอนบ่าย 3 และแล้วเรือก็มารับ เรานั่งเรือมาถึงฝั่ง 5.30 เพื่อต่อรถ วีไอพี ทับละมุ-กรุงเทพ  เช้าตรู่ วันที่ 11 เราถึงกรุงเทพฯ เวลา ตี 5 กลับบ้านอาบน้ำแต่งตัว แล้ว มาทำงาน เหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แต่ใครจะรู้ว่าเราได้เติมพลังให้กับตัวเอง ให้หัวใจพองตัว สมองสูบฉีด พร้อมรับทุกสถานการณ์ ต่อไป.........นี่แหละความสุขของการเดินทาง

อัพเดทล่าสุด