https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
แวะเขาค้อ ไปภูทับเบิก กับกะเหรี่ยง 4 หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย MUSLIMTHAIPOST

 

แวะเขาค้อ ไปภูทับเบิก กับกะเหรี่ยง 4 หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย


925 ผู้ชม


New  Year  Trip
“แวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4”  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย

โดย :  ทา-เหล๋    ทา-ไหล

ผู้ ร่วมทริปเดินทางในครั้งนี้  เราให้ชื่อว่า  “กะเหรี่ยง 4”  เพื่อเพิ่มความสมจริง  (แต่ความจริง  ก็หน้าละม้ายคล้ายเด็กดอยกันทุกคนล่ะคับท่าน)   เริ่มจาก  
             -  ทั่นประธานของประโยค   ผู้ที่พาเราไปทุกที่  “พี่สิงห์”
             -  เลขาทั่นประธาน   ผู้ที่ควบคุมทั่นประธานอีกที  “พี่ตา”
             - ไก่  เอ๊ย!!! ไกด์  แอนด์ เหรัญญิก  หรื่อที่รู้จักในนาม  manager  “โชเอง”
             -  ส่วนคนเนี๊ยะ   ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม  ไปได้ทุกที่   “นู๋กุ๊ก”
ไปล่ะนะ...
                    สัมภาระน่ะเตรียมตั้งแต่เมื่อคืน   พร้อมเดินทางสู่เพชรบรูณ์  ดินแดนมะขามหวานเจี๊ยบ...จับใจ  (เพ่!!!...มะขามน่ะ ไม่ใช่น้ำตาลปึก หวานซ้า) หลังจากเลิกงานวันที่ 30 ธ.ค.  51   พวกเรานัดรวมพล  โดยเก็บตกจาก โช  ไปจบที่ กุ๊ก   (อยู่ใกล้ๆกันหมด) เวลาประมาณ   2 ทุ่ม  จึงออกเดินทาง   พร้อมผู้ร่วมเดินทางที่ไม่รู้จัก  (เต็มถนน)  เพื่อไปสัมผัสอากาศหนาวเหมือนกัลล์   รถจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆไปเรื่อยๆ   ทันใดนั้นเอง !  โชปวดปัสสาวะอย่างรุนแรง   แต่พี่สิงห์ไม่จอด...  ปั๊มแล้วปั๊มเล่า   รถเยอะมั่ก กกกก กกก ก   กว่าจะได้ปัสสาวะก็จุกไปจนถึงลิ้นปี่  (ทรมานสุดๆ)
ดีนะ...มีเพื่อนร่วมทางเยอะ  แต่ !...   
                    ช่วงเทศกาลไม่ต้องกลัวเหงา   เพื่อนเพียบ !!!  แต่วิทยุในรถน่ะสิ  ดันไม่อ่านแผ่นขึ้นมาซะงั้น    ฟังได้แค่วิทยุชุมชน   ห่วงก็แต่คนขับจะหลับไปขับไป  (ไม่ได้ชิมไปบ่นไปนะ...คริ-คริ)  ทางไปเพชรบรูณ์เยี่ยมไม่มีที่ติ   แล้วทำม่าย...ถึงมีแต่วิทยุชุมชนให้ซึ้งในรสพระธรรมเช่นนี้   เปิดไปคลื่นไหน  ได้ยินแต่เสียงน้ำทะเล  (ทำท่างงเล็กน้อย)  เฉลย...ก็ซ่าๆๆๆๆๆไง  (ถึงบางอ้อ  แต่ฆ่ามันเลยดีมะω)  มีเพียงคลื่นเดียวที่รับได้  “คลื่นธรรมะยามดึก”  (เห็นใจโยม  อาตมาเห็นใจ)  แต่เจอสกัดดาวรุ่งด้วย  แท่น...แทน  “มะม่วงแรด เปรี้ยวจี๊ดส์”  สะดุ้งถึงม้ามข้างซ้าย  ทำเอาคนขับเรา  เหาะเอ๊ย !!!ขับรถตาสว่าง ไปจนถึงที่พักใน อ.เมืองรวดเดียว   เย้ ! ตบมือให้สองแปะ   ขณะนี้เป็นเวลาตีสอง   นอนเอาแรง...พรุ่งนี้ลุยต่อ
อรุณสวัสดิ์   เพชรบรูณ์

แวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยยแวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย

                   ถึง เมื่อคืนจะนอนดึก   แต่เราก็ตื่นมารับอรุณกันแต่เช้าตรู่  สูดอากาศบริสุทธิ์หนาวนิดเย็นหน่อยพอกรุ่มกริ่ม  พร้อมเดินทางไปที่ที่หนาวจัดจนไม่แตะน้ำกันดีก่า แวะเขาค้อ  (เด็กดอยโผล่ !)

แวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยยแวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย

                   กะเหรี่ยง 4  เลือกเดินทาง  ตามทางหลวงหมายเลข  2258  ผ่านเนินมหัศจรรย์   แต่พอถึงจริงๆมีรถตามหลังมา  เลยไม่ได้พิสูจน์   สองข้างทางป่ากำลังผลัดใบ  ส้มๆเขียวๆแดงๆ  ได้บรรยากาศเหมือนอยู่สวิตเซอร์แลนด์   พอขึ้นไปถึงบริเวณเขาค้อ   ลมเย็นสบาย  อากาศดี  เลยแชะรูปตรงจุดชมวิวซะหน่อย   หลังจากนั้นไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์   เพื่อเป็นสิริมงคล    ด้านนอกพระธาตุ  มีระฆังเรียงรายให้นักท่องเที่ยวอย่างกะเหรี่ยง 4  ได้เดินตีระฆังไปเรื่อยๆ   แต่...แล้วก็แต่  (ทำท่าตื่นเต้นสุดฤทธิ์)  ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม  ไปได้ทุกที่   “นู๋กุ๊ก” องค์ลงอีกแล้วค่า   ตรงสุดทางของทางเดินตีระฆัง เขามีให้แต่งชุดชาวเขา   แล้วหน้าให้ใจรักอย่าง กุ๊ก กับ โช จะเหลือเหรอ   แต่กุ๊กคึกมากเป็นพิเศษ   กุ๊กบอกก่อนมาว่า  “ขอแค่นี้แหละ...ขอให้ได้ใส่ชุดเด็กดอยก็พอใจแหละ   ทีนี้จะพาไปไหนก็ไป    ไม่มีปัญหา” หัวเราะอย่างไร้เหตุผล   ปาดน้ำลายเล็กน้อย ซุกซนเหมือนลิง   คึกคักกระชุ่มกระชวยมากเกินความจำเป็น น่ะแหละคำจำกัดความของกุ๊ก   พอแต่งองค์ทรงเครื่องออกมาเรียบร้อย   ทุกคนลงความเห็นว่า กุ๊กเหมือนเด็กดอยมั่ก...มั่ก   ส่วนโชน่ะเหรอ หัวแดงใส่ชุดสีม่วงเหมือนเด็กภูฏาณมากกว่า (โกอินเตอร์น่ะเรา)   สนุกสนานกันปาย   แต่สายตาคนรอบข้างประมาณว่า “ลูกอย่าไปแต่งแบบพี่เขานะ   แม่เป็นห่วง” ไปภูทับเบิก  (กางเต็นท์บ่าย 2  ทำกับข้าวบ่าย 3)

แวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยยแวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย

                   ใช้ เวลาเดินทางประมาณ  3  ชั่วโมง  กว่าจะขึ้นมาถึงยอดดอย  ทางขึ้นเป็นที่ประทับใจกะเหรี่ยง 4  อย่างแรง   ทั้งชันทั้งเสียวแต่วิวสวย   และสวยเอามากๆ  เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกนึง  ที่มองไปทางไหนมีแต่ภูเขากะหล่ำปลี  (ปลอดสารพิษ)  เป็นลูกๆ  สลับกับต้นนางพญาเสือโคร่งออกดอกแซมตามป่า  ความหนาวเย็นเริ่มมาเยือน   ซึ้งเลยที่ว่า  “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้”   แดดร่มลมตก  บรรยากาศเย็นสบาย   กางเต็นท์โลด  เอ๋ะ !!!  เดี๋ยวๆๆ  เหลือบมองนาฬิกา  บ่าย 2 เองเหรอเนี่ย...   กางมันบ่าย 2 น่ะแหละ   เพราะต้องกางถึงสองเต็นท์   แต่ละคน...(ไม่สิเจาะจงไปเลยว่า  มีโชกับพี่สิงห์  เท่านั้น)   จบเกลียดนิยมกิติมศักดิ์กางเต็นท์ถาวร  (ไม่ใช่เขียนคิ้วถาวร  ควรแยกแยะ)  ต้องใช้เวลานิดส์นึง   ด้วยความเป็นกะเหรี่ยง 4 ไม่เคยเข้าเมือง   กางเต็นท์เลยไม่เหมือนชาวบ้าน  เขาเกลี่ยพื้นที่ให้กางในแนวเหนือ-ใต้   แต่ม่ายค่ากะเหรี่ยง 4 กางมันแนวทิศตะวันออกมาตะวันตก   หลังจากลงมติกันแล้ว  แบบว่าอยากหันหน้าชนกันอ่ะ  ผลคือนอนเอียงกะเท่เหล่  คนนอนด้านซ้ายจะอยู่เหนือคนนอนด้านขวา   แต่พอตื่นทุกอย่างจะไปรวมได้ขวามือที่เดียว  มันคือประสบการณ์  อย่าคิดมาก  นอนเอียงอย่างนี้จะหาได้ที่ไหนอีก  ถ้าไม่มาภูทับเบิกคงไม่ได้นอนอย่างงี้หรอกนะ  (เหรอ อออออ อ...ลากเสียงเล็กน้อย)
                    หลังจากกางเต็นท์   ถึงเวลาทำกับข้าว ขอเน้นว่าเป็นกับข้าวเย็นนะ  แต่ทำตอนบ่าย  3   เริ่มหนาวแล้ว  ไม่ได้โม้   ใช้คำว่าหนาวได้เลย จมูกเริ่มเย็นมีน้ำมูก   โชเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นแม่ครัวหญ่าย  (สมกับฉายา manager จริงๆ)  ก่อนอื่นต้องหุงข้าว  ผู้ที่จบเอก  “หุงข้าวศาสตร์”  ไม่ใช่ใครที่ไหน  พี่ตาคือคำตอบสุดท้าย   หุงมันตั้งแต่บ่าย 3 ผลัดกันคนเพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ  กว่าจะสุก  นู้น...2 ชั่วโมงให้หลัง   ส่วนเมนูอาหารมื้อนี้  ได้แก่  ผัก  ผัก  แล้วก็ผัก  (ซื้อเรื่อยๆระหว่างทางขึ้นดอย)  มีทั้งยอดมะระแม้วผัดน้ำมันหอย , คะน้าฮ่องกงผัดไก่ ,  ต้มจืดเต้าหู้ลูกชิ้น , ไข่เจียวแหนม   แล้วมีเห็ด(ซื้อมาทำไมไม่รุ)เสริมทัพ  เริ่มกินก็ตะวันตกดินแล้ว   อาหย่อย...ผักสดๆกับข้าวแฉะๆ
ทับเบิก...หนาวมั่ก

แวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยยแวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย

                   เนื่อง จากจุดกางเต็นท์อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,768 เมตร ตกดึกยิ่งไม่ต้องพูดถึง หนาวมั่กถึงหนาวที่สุด แต่อาบน้ำนะ! (มีเสียงนึงแทรกขึ้น “วิ่งผ่านน้ำมากกว่า”) เหมือนมีใครเอาน้ำในช่องเฟรสในตู้เย็นมาเทให้อาบ โดนน้ำแค่เพียงนิ้วยังต้องชักนิ้วกลับอย่างทันควัน ไม่งั้นมือจะชา (ชาจริงๆ) ต้องมาปรับสภาพสักครู่ใหญ่ กว่ามันจะอุ่นขึ้น พี่สิงห์กับพี่ตาลงทุนก่อกองไฟคลายหนาว พี่ตายังมีโปรโมทชั่นพิเศษ ก่อกองไฟแถมเผามันให้กินอีกด้วย กิจกรรมยามค่ำคืนของคืนนี้คือ เล่นบิงโกคลายหนาว (มันช่วยตรงไหนเนี๊ยะ) เอามันเผาพี่ตามากินซิช่วยได้ พี่ตาบอกเลือกเอาเลยสุกทุกอัน ค่ะ...สุกค่ะ สุกจนไหม้ทุกอันเลย แง้ ๆๆๆๆ อดกิน เรื่องจึงจบลงด้วยประการล่ะฉะนี้...เอวัง รับปีใหม่  ณ  ภูเขากะหล่ำปลี

แวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยยแวะเขาค้อ  ไปภูทับเบิก  กับกะเหรี่ยง 4  หนาวกันให้รู้แล้วรู้รอดปายยยยยย

                   สวัสดี ปีใหม่  2552   ณ  ภูเขากะหล่ำปลี  ยังหนาวสม่ำเสมอ    ฟันในปากกระทบกันดังก้องดอย (เว่อร์)  สองสามีภรรยา (ตาสิงห์กะยายตา) ตื่นมาก็เจออยู่หน้ากองไฟอีกแหละ   (มีอะไรฝังใจรึเปล่าเพ่ !)   ระหว่างรอเต็นท์แห้งจากน้ำค้างยามค่ำคืน  กะเหรี่ยง 4  ฆ่าเวลาโดยการลงไปถ่ายรูปกับแปลงกะหล่ำปลีที่อยู่ด้านล่างอย่างสนุกสนาน  กะตู้หู้  (กริยาช่องสองของความมันส์)  แดดออกเริ่มสาย  เต็นท์แห้งแล้ว  เก็บสัมภาระขึ้นรถเรียบร้อย   ร้านค้าด้านหน้าลานกางเต็นท์มีผักสดวางขายหลายอย่าง  โชกับกุ๊กเลือกซื้อแครอทเบบี้พร้อมต้นยาวเฟือยไปฝากพวกพี่ที่บริษัท   มีโอกาสได้คุยกับน้าขายผักแผงนั้น  “เป็นไงค่ะ  ขายดีไหมω”    “เมื่อคืนเนี๊ยะ  หนาวมากเลยนะค่ะ  คงเป็นคืนที่หนาวที่สุดตั้งเข้าหน้าหนาวมาเลยใช่ไหมค่ะω”   คุณน้าเขาตอบมาว่า  (โปรดอ่านแบบชาวเขา)  “ไม่หนาวเลย....คืนก่อนๆหน้านี้  หนาวกว่านี้อีก”   โชกับกุ๊กมองหน้ากัน  พร้อมอุทานออกมาว่า  “ไม่หนาวเลย !!!”   เป็นไปได้ยังไง  โอ้!พระเจ้าจอร์จ  มันยอดมาก... ซื้อของฝากยังกะไปขาย   แวะกินไก่ย่างวิเชียรกะสัมตำทอดแสนอร่อย                    กะเหรี่ยง 4  แวะตลอดทาง  ตั้งแต่จุดชมวิวที่มีแผงขายผักสดให้เลือกซื้อมากมาย   ก็ซื้อ  แล้วซื้อเยอะมาก  คิดดูเต็มกะบะหลังรถ  ประหนึ่งว่าซื้อไปขายเกร็งกำไร     หารู้ไม่...ซื้อไปฝากเขาทั้งนั้นแหละ      พอถึง อ.เมือง    ก็ซื้ออีก   ซื้อผลิตภัณฑ์มะขามแปรรูปและปลาส้มชื่อดัง   ระหว่างทางแวะอีก   ซื้อมะขามหวาน  เป็นอันจบ  (จบความอยากช้อป)   ขณะนี้เป็นเวลาบ่าย   ยังไม่มีข้าวตกถึงท้องซักเม็ด      กะเหรี่ยง 4  ตกลงว่าจะไปกินไก่ย่างวิเชียรกะสัมตำทอดแสนอร่อย   ตามคำบอกเล่าของโช  ที่เวลาอยากกินส้มตำทีไรก็จะพูดถึงทุกทีสิน่า  ยังงี้ต้องลอง   ไปถึงบ่าย 3  แต่ความอร่อยไม่ทำให้ผิดหวัง  ซัดเต็มคราบประมาณว่ามากัน10 กว่าคน   เช็คบิล  ยิงยาวถึงกรุงเทพแบบม้วนเดียวจบ  (คุ้นๆเนอะ)  ถึงบ้านใครบ้านมันด้วยความปลอดภัย   พร้อมเก็บความประทับใจมาเต็มกระบุ๋ง (ใจ) 

เก็บมาแต่ภาพถ่าย (กะของฝาก)   ทิ้งไว้เพียงความทรงจำดีๆ (กะขยะให้ลงถังนะ)
BYE….BYE     HAPPY   IN  NEXT   TRIP

อัพเดทล่าสุด