EXECUTIVE VOICE : "สำหรับผมแล้วทุกวันคือที่สุด" MUSLIMTHAIPOST

 

EXECUTIVE VOICE : "สำหรับผมแล้วทุกวันคือที่สุด"


533 ผู้ชม


EXECUTIVE VOICE : "สำหรับผมแล้วทุกวันคือที่สุด"




 โชค บูลกุล
       กรรมการผู้จัดการ
       กลุ่มบริษัทฟาร์ม โชคชัย

       
        ผมทำงาน 8-9 วันต่ออาทิตย์ แบ่งเวลานอนมาเป็นเวลาทำงานด้วย ในฐานะตำแหน่งผู้บริหารอย่างเรา ความเป็นธุรกิจอย่างที่เราเป็นอยู่ พูดง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะต้องแบกความรับผิดชอบเอาไว้
       
        ซึ่งความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ใช่ว่าเราจะมีเวลาที่ชัดเจนว่าจะต้องทำงานถึงเมื่อไหร่? อย่างไร? ความรับผิดชอบของเรามีความกังวลอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบเฉยๆ แต่ในฐานะที่เป็นคนที่ได้รับการมอบหมายให้ดูแลธุรกิจในกลุ่ม
       
        อีกหน้าที่หนึ่งคือ การรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้เป็นเจ้าของ ก็จะมีแรงกดดันมาทั้งสองฝั่ง เป็นเรื่องธรรมดาว่าเรามีความเคยชินแล้วที่จะต้องแบกรับภาระตรงนี้ เพราะทำงานมาตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เราเข้าใจว่าถ้าเราจะมุ่งไปข้างหน้าและทำให้สำเร็จได้ จะต้องผจญกับความยากลำบากก่อน
       
        ผมเป็นคนที่ชอบแสดงให้เห็นคนอื่นเห็นเป็นตัวอย่าง ถ้าเราเป็นคนฟุ้งเฟ้อ เราก็จะไม่มีมาตรฐาน แต่ถ้าเรามีมาตรฐานสูง ทุกคนก็ต้องเป็นไปตามนั้น เพราะถ้าเราตั้งค่ามาตรฐานต่ำ โอกาสที่คนอื่นๆ จะมีข้ออ้างสูงก็จะมีเยอะ เพราะฉะนั้นผมจะต้องวางมาตรฐานให้องค์กรด้วย
       
        ถ้าผมบอกว่า 10 ปีผมไม่ขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง ก็จะทำให้พนักงานเกิดความเกรงใจเหมือนกัน สิ่งที่เราพยายามสื่อสารให้พนักงานเห็นก็คือว่า เรามาทำงานไม่ใช่เพียงแค่ทำงานแล้วหวังผลทางด้านวัตถุอย่างเดียว
       
        สิ่งที่เราจะต้องให้คืนกับบริษัทคือ ความภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำ ความรักในธุรกิจแบบนี้ ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าธุรกิจฟาร์มโชคชัยเป็นธุรกิจที่ให้ผลกำไรน้อย แต่ต้องเหนื่อยมากกว่าธุรกิจประเภทอื่น
       
        ธุรกิจเกษตรต้องเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ สายงานที่เกี่ยวกับกับการพัฒนาวิจัยมีมโหฬาร ยังไม่ได้พูดถึงการแปลงวิทยาศาสตร์ให้เป็นการพาณิชย์ เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากและยากในการควบคุม
       
        เราไม่ได้มีเงินมหึมาพอที่จะสร้างทุกอย่างเป็นทีม หรือจ้างทีมที่ปรึกษา ของเราคือต้องคิดเองทำเองบริหารความเสี่ยงเอง บริหารลูกน้องเอง
       
        สมัยก่อนเราทำธุรกิจค้าปลีกขายนมสดโชคชัย สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นธุรกิจที่เหนื่อย ผมไม่อยากลงไปอีกแล้ว ธุรกิจฟาร์มโชคชัยเป็น niche market ทุกอย่างมีตลาดเฉพาะกลุ่ม มีความแตกต่าง และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ
       
        เพราะฉะนั้นการกลับไปทำค้าปลีก มันเหนื่อยมาก ยกเว้นถ้าเราเกาะกระแสได้พอดีอย่างชาเขียว ซึ่งเราไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมที่โชคดีแบบนี้
       
        เพราะศักยภาพคนที่มีอยู่ ถ้าทุ่มอะไรกับสิ่งที่ไม่มีคู่แข่งขัน จะได้อะไรกลับมามากกว่าสิ่งที่ต้องไปแข่งขันกันในตลาด อย่างธุรกิจนมแข่งขั้นดุเดือด คนที่อยู่มาก่อนค่อนข้างได้เปรียบมากกว่าในเรื่องของความเจนจัดในสังเวียน เราจะหวนกลับไปใหญ่อีกทีไม่ใช่เรื่อง
       ง่าย
       
        ความพอใจในกิจการฟาร์มโชคชัย สำหรับผมแล้วทุกวันคือที่สุด ถ้ามีอะไรใหม่เข้ามาในชีวิตก็ไปอีกหนึ่งที่สุด ทุกวันของชีวิตไม่มีอะไรที่ผมไม่พอใจ ผมมีความรู้สึกว่าเราใช้ชีวิตเต็มที่จริงๆ แต่ในเชิงเสถียรภาพขององค์กร ต้องเหนื่อยกับมันอีกเยอะ อย่างที่บอกว่าธุรกิจของเราเป็นธุรกิจต้นน้ำ
       
        ความท้าทาย ทำอย่างไรให้ฟาร์มโชคชัยและธุรกิจในกลุ่มยืนยาวต่อไปได้นานที่สุด ฟังเหมือนการตอบโจทย์ง่ายๆ แต่ไม่ใช่โจทย์ที่ง่าย ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็ว เพราะความยั่งยืนของธุรกิจจะสิ้นสุดตรงไหนคงไม่มีใครรู้
       
        สำหรับผมแล้ว การทำอะไรที่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผมสบายใจกว่า เพราะเป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ผมได้แข่งกับตัวเองตรงที่ว่า สร้างอะไรบางอย่างที่คนอื่นเลียนแบบไม่ได้
       

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

อัพเดทล่าสุด