https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
เรื่องน่ารู้ไอโอดีน - ประโยชน์ไอโอดีน และ พิษของไอโอดีน !! MUSLIMTHAIPOST

 

เรื่องน่ารู้ไอโอดีน - ประโยชน์ไอโอดีน และ พิษของไอโอดีน !!


2,572 ผู้ชม


ประโยชน์และ พิษภัยไอโอดีน
หลังจากข่าวการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ทำให้ในหลาย ๆ ประเทศในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงประเทศไทย เกิดการตื่นตัว และสั่งซื้อไอโอดีนกันเป็นการใหญ่ เพราะว่ากันว่า จะช่วยป้องกันอันตรายจากสารพิษดังกล่าวได้
 ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก ได้ออกมาเตือนว่า ไม่ควรซื้อไอโอดีนมากินเอง เพราะมันมีข้อจำกัดในการใช้ รวมถึง การได้รับไอโอดีนเกินความจำเป็น จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ
: “อันตรายจากสารกัมมันตรังสี”
ไม่แปลก ที่คนทั่วโลกจะตื่นตัวกับเรื่องนี้ เพราะทราบกันดีว่าสารกัมมันตรังสีอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ แต่นั่นหมายถึงการได้รับสารกัมมันตรังสี ปริมาณมากๆ หรืออยู่ใกล้กับแหล่งระเบิด โดยหนึ่งในเซลล์ของร่างกาย ที่ไวต่อสารกัมมันตรังสีมากที่สุด คือ ไทรอยด์ ดังนั้น หากต่อมไทรอยด์ของร่างกายได้รับสารรังสีเกินขนาด อาจทำให้เกิดมะเร็งขึ้นในอนาคต อาจจะ 10-20 ปีต่อมา ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ
 “ไอโอดีนป้องกันสารกัมมันตรังสีอย่างไร ?”
แต่อันตรายเหล่านี้ อาจถูกป้องกันได้โดยการกินไอโอดีน โดยกลไกการป้องกัน เริ่มจากการที่ต่อมไทรอยด์ เป็นอวัยวะที่ดูดจับไอโอดีนที่เข้ามาในร่างกายได้เร็วและมากที่สุด เพราะฉะนั้นการที่ร่างกายได้รับไอโอดีนในปริมาณมากพอ จะทำให้ต่อมไทรอยด์ได้รับไอโอดีนจนอิ่ม จะไม่รับเพิ่มเข้าไปอีก หรือรับแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นั่นหมายถึง หากดื่มน้ำ หรือกินอาหาร ที่อยู่ในบริเวณที่มีการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่มีสารกัมมันตรังสีในปริมาณสูง แล้วก็กินไอโอดีนเม็ดเข้าไป จะทำให้ต่อมไทรอยด์อิ่ม และดูดจับไอโอดีนที่มีสารกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนกับอาหารและน้ำได้น้อยลง ทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ที่ได้รับไอโอดีนในปริมาณมากพอ จะทำให้มีเสี่ยงอันตรายลดลง
ทั้งนี้ ทาง รศ.นพ. อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ระบุว่า การกินไอโอดีนเม็ด จำเป็นสำหรับคนที่อยู่ในบริเวณที่มีการรั่วไหลของสารพิษเท่านั้น
และการที่คุณหมอไม่แนะนำให้คนปกติ หรือคนที่ไม่ได้อยู่พื้นที่เสี่ยง กินไอโอดีนแบบเม็ดนั้น เป็นเพราะการรับไอโอดีนที่มากเกินไป จะทำให้เกิดโทษต่อต่อมไทรอยด์
เพราะหากร่างกายรับไอโอดีนเข้าไปในปริมาณมากเกิน จะทำให้เกิดภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์เกิน หรือ ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ดังนั้น คนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่อยู่ใกล้บริเวณที่รับสารกัมมันตรังสี จึงห้ามกินไอโอดีนเม็ด
ไม่เพียงแต่ไอโอดีนแบบเม็ดเท่านั้น การกินไอโอดีนในแต่ละวัน ก็ไม่ควรมากเกินกว่า 150 มิลลิกรัมต่อวัน ยิ่งถ้ากินติดต่อกัน 2-3สัปดาห์ ก็ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติได้เช่นเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันดีกว่า ว่าจริงๆแล้ว เราควรได้รับไอโดดีนต่อวันในปริมาณเท่าไหร่
เรื่องนี้มีข้อมูลจาก เภสัชกรอุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล บอกว่าโดยปกติ ร่างกายต้องการไอโอดีนประมาณ 100-150 ไมโครกรัมต่อวัน ในช่วงตั้งครรภ์ต้องการเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 200 ไมโครกรัม
ส่วนการกำหนดความรุนแรงของภาวะขาดไอโอดีน จะถือว่าขาดเล็กน้อย ต่อเมื่อผู้นั้นไอโอดีนระหว่าง 50-100 ไมโครกรัมต่อวัน ถือว่าขาดปานกลางเมื่อผู้นั้นได้รับไอโอดีนระหว่าง 25-50 ไมโครกรัม และจะถือว่าขาดรุนแรงเมื่อได้รับไอโอดีนน้อยกว่า 25 ไมโครกรัมต่อวัน
ส่วนความต้องการไอโอดีนที่แนะนำต่อวันคือ 150 ไมโครกรัมต่อวันในผู้ใหญ่ และ 200 ไมโครกรัมต่อวัน ในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาเด็กไทยไอคิวต่ำ และช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโต ระบบประสาทและสมองไม่พัฒนา ซึ่งทำให้เด็กที่เกิดมาปัญญาอ่อน หูหนวก ขาแข็ง กระตุก หรือรู้จักกันว่า โรคเอ๋อ
เพราะฉะนั้น การป้องกันโรคขาดไอโอดีนที่ง่ายที่สุด คือ รับประทานอาหารพวกทะเลทุกชนิด ปลาทะเล ปู หอย สาหร่ายทะเล หรือพืชที่อยู่ริมทะเล รวมถึงพวกเครื่องปรุงรสต่างๆด้วย
เพราะฉะนั้น ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องหาซื้อไอโอดีนเม็ดมากิน เพราะเรากินไอโอดีนเป็นปกติอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้คือองค์การอนามัยโลก เค้าตรวจสอบแล้วว่า ยังไม่มีการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี มาถึงบ้านเราแต่อย่างใดB ส่วนคนไทยที่จำเป็นต้องกินไอโอดีนเม็ดจริงๆ น่าจะเป็นคนที่กำลังจะไปญี่ปุ่น หรือกลับมาจากญี่ปุ่นเท่านั้น
ที่มา  www.ch7.com

อัพเดทล่าสุด