https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ตำรับอาหารจากธรรมชาติดูแลผิว MUSLIMTHAIPOST

 

ตำรับอาหารจากธรรมชาติดูแลผิว


742 ผู้ชม


ตำรับดูแลผิวด้วยอาหารจากธรรมชาติ จากหนังสือ The Clear Skin Cookbook ของคุณเดล พินน็อก ผู้เป็นนักโภชนาการมาฝากกัน แถมสูตรทั้งหลายเหล่านี้คุณเดลรับประกันว่า หากรับประทานสม่ำเสมอปัญหาผิวหน้าหนาวทั้งหลายแหล่จะถูกขจัดหมดไปได้ภายใน 3 สัปดาห์
กินอะไรไม่ให้ผิวแห้ง-ผิวอักเสบ 
ผิวที่แห้งง่ายอยู่แล้วจะยิ่งเสี่ยงกับปัญหาผิวแห้งจนอักเสบในหน้าหนาว เมนูที่คุณควรจะกินให้มากขึ้นในฤดูนี้ ก็คือเมนูจากปลาที่เนื้อมีความมัน ซึ่งจะทำให้คุณได้กรดไขมันไปช่วยลดการสูญเสียน้ำของผิวหนัง ทำให้ผิวฟูและรักษาความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ปลาอย่างแซลมอนและแมคเคอเรล ยังมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อปัญหาผิวเช่นนี้เป็นอันมาก กินพวกมันให้ได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับรองว่าปัญหาผิวจะลดลงเยอะเลยค่ะ 
กินอะไรไม่ให้ผิวดูด้านและโทรม 
วิตามิน E ถือว่าเป็นส่วนผสมที่สำคัญมากในครีมบำรุงผิวหน้า แต่วิธีที่คุณจะสามารถรับวิตามิน E เข้าสู่ร่างกายเพื่อส่งต่อไปยังผิวได้ดีที่สุด กลับมาจากการกินอาหาร อยากผิวสวยแถมไม่ดูด้านและโทรมด้วย ต้องเลือกกินผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือส้ม เช่น แครอท มันเทศ มะม่วง พริกหวานสีเหลือง ฯลฯ ซึ่งจะมีสาร "แคโรทีนอยด์" อยู่มาก อันเป็นสารที่ร่างกายสามารถแปรรูปมันไปเป็นวิตามิน E เพื่อลำเลียงไปสู่ผิวได้อีกที และจะให้ดี ต้องมีมันประกอบอยู่ในเมนูอาหารอย่างน้อยวันละ 2 มื้อ 
ส่วนการกินบลูเบอร์รี แบล็คเบอร์รี องุ่นดำ หรือแม้แต่ไวน์แดง ก็ทำให้ผิวสุขภาพดี เฟิร์มขึ้น เปล่งประกายมากขึ้น เพราะสาร "แอนโธไซยานิน" ที่มีอยู่ช่วยทำเส้นใยคอลลาเจนในผิวหนังแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม 
นอกจากนี้ วิตามิน D ก็ยังเป็นสิ่งที่ผิวจำเป็นไม่ว่าฤดูไหน ๆ แม้ว่าร่างกายจะรับวิตามิน D มาจากการกินอาหารแค่ 10% (วิตามิน D ส่วนใหญ่จะได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงอาทิตย์) แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องเลือกกินแต่อาหารดี ๆ เพื่อให้ 10% นั้นเป็นวิตามิน D ที่มีคุณภาพที่สุด โดยคุณจะได้วิตามิน D ชั้นยอดจากเนื้อปลาที่มีมัน รวมไปถึงจากไข่แดง ตับ และเห็ดบางชนิดด้วย 
กินอะไรไม่ให้ผิวซีด-แห้งตึง 
หน้าหนาวทำให้ผิวซีดเผือด ทั้งยังรู้สึกตึง จนการขยับแขนขาบางครั้งก็ทำให้รู้สึกราวผิวกำลังจะปริแยกออกจากกัน แก้ปัญหานี้ง่าย ๆ ด้วยการกิน "ถั่วบราซิล " มันอุดมไปด้วยเซเลเนียม แร่ธาตุต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย ผิวพรรณสดใส ยืดหยุ่นได้ดี แต่หากว่าคุณแพ้ถั่วแล้วล่ะก็ สามารถรับแร่ธาติเซเลเนียมได้จาก ไก่ย่างตุรกี เนื้อไม่ติดมัน เนื้อไก่ และไข่ ได้เช่นกัน 
กินอะไรไม่ให้ผิวแห้งจนแตก 

หากผิวแห้งมากจนเลยจุดของความตึง แต่ลามไปถึงขั้นผิวแตกแล้ว คราวนี้ก็ต้องเพิ่มการบำรุงเพื่อไปฟื้นฟูผิวที่แห้งแตกเป็นการด่วน โดยการเพิ่มอาหารที่ให้วิตามิน B หลากหลายชนิด เช่น ข้าวซ้อมมือ ผักใบเขียวต่าง ๆ อย่างคะน้า บรอกโคลี ฯลฯ เพิ่มมันลงไปในอาหารทั้งมื้อเช้า-กลางวัน-เย็น มื้อละนิดละหน่อยทุก ๆ วัน ผิวที่แห้งแตกจะค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวได้ในไม่ช้า 

 ที่มา https://www.kroobannok.com/54709

อัพเดทล่าสุด