https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
วิธีใช้ว่านหางจระเข้ - รู้ไว้ ว่านหางจระเข้หมักผม ได้ด้วย!! MUSLIMTHAIPOST

 

วิธีใช้ว่านหางจระเข้ - รู้ไว้ ว่านหางจระเข้หมักผม ได้ด้วย!!


5,768 ผู้ชม


ว่านหางจรเข้มีสรรพคุณดับพิษร้อน สมานแผล เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ตับอักเสบ ไข้หวัด หอบหืด ผมร่วงผมจะงอกขึ้นมาใหม่

วิธีใช้ว่านหางจระเข้ - รู้ไว้ ว่านหางจระเข้หมักผม ได้ด้วย!!

# ว่านหางจรเข้ จัดว่าเป็นสมุนไพรที่ใครๆ ทั่วโลกต่างก็รู้จักดี คนไทยสมัยก่อนอาจไม่ได้คุ้นเคยกับว่านหางจรเข้มากนัก เพราะว่านหางจรเข้ไม่ใช้พืชประจำถิ่นของเรา ว่านหางจรเข้เมีแหล่งกำเนิดอยู่ในแถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนี่ยนเช่นซาอุดิอา รเบีย บริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เกาะมาดากัสการ์ และหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ปัจจุบันว่านหางจรเข้แพร่กระจายไปทั่วโลก เพราะสมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณมากมาย จนมีการตั้งสถาบันวิจัยเพื่อศึกษาเกี่ยวกับว่านหางจรเข้โดยเฉพาะ
คุณค่าของว่านหางจรเข้ เป็นที่รู้กันดีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งชาวยุโรป ชาวจีน และชาวอินเดีย รวมทั้งชาวอินเดียแดง ซึ่งให้สมยาเจ้าว่านหางจรเข้ว่า "ไม้เท้ากายสิทธิ์จากสวรรค์" เพราะไม่ว่าจะเอาเจ้าว่านหางจรเข้ไปรักษาอวัยวะส่วนไหน ดูเหมือนจะใช้ได้หมด และที่สำคัญ เล่ากันว่าพระนางคลีโอพัตรา ใช้น้ำเมือกจากว่านหางจรเข้บำรุงผิวพรรณ ทำให้พระนางมีความงดงามเป็นอมตะ ผิวพรรณผุดผ่องดังดรุณีแรกรุ่น ดังนั้น ว่านหางจรเข้นอกจากจะเป็นยาแล้ว จึงยังถือว่าเป็นเครื่องสำอางชั้นยอด
สรรพคุณที่โด่งดังของวุ้นว่านหางจรเข้ เห็นจะไม่พ้นการรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก คงเป็นเพราะบ้านเกิดของว่านหางจรเข้ อยู่ในเขตทะเลทราย จึงสู้ความร้อนได้สบายมาก เมื่อถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวกคราวใด ให้นึกถึงว่านหางจรเข้เข้าไว้ แต่ต้องใช้ให้เป็น คือ ให้มากพอ คือมากพอที่จะดับพิษร้อนได้ เรื่องของการดับพิษร้อน เป็นเรื่องที่เราต้องพึ่งตนเอง เมื่อเราถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกแล้ววิ่งโร่ไปหาหมอ หรือไปโรงพยาบาล ก็อย่าหวังว่าเขาจะดับพิษร้อนให้ เขาก็เพียงแต่รอให้เนื้อหนังพองลอกออก และใส่ยาป้องกันการติดเชื้อให้ ซึ่งคนไข้จะทรมาน จากการปวดแสบปวดร้อน และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ว่านหางจรเข้มีสรรพคุณในการดับพิษร้อนได้ชะงัดนัก
วิธีใช้ก็คือ เลือกใบที่มีขนาดกว้างประมาณสองนิ้ว (ถ้าไม่มีขนาดที่ต้องการจริงๆ มีขนาดโตแค่ไหนก็ใช้ไปเถอะ) ปลอกเปลือกว่านหางจรเข้ออก แล้วล้างน้ำเอายางสีเหลืองๆ ออกให้หมด แล้วฝานเป็นแผ่นๆ นำไปวางบนบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก ถ้าดับพิษร้อนได้ คนไข้จะรู้สึกเย็นจนไม่รู้สึกปวดแสบปวดร้อน หรือรู้สึกปวดแสบปวดร้อนบ้างแต่น้อยมาก แล้วให้เปลี่ยนวุ้นว่านหางจรเข้เมื่อรู้สึกร้อน ถ้าจะให้ดับพิษร้อนได้ดีขึ้น ควรนำว่านหางจรเข้ที่ฝานเป็นแผ่นๆ ไปแช่ในตู้เย็น แล้วสับเปลี่ยนให้กับคนไข้บ่อยๆ ไปเรื่อยๆ จนคนไข้ไม่ปวดแสบปวดร้อนอีกต่อไป ซึ่งอาจใช้เวลาเป็นวันๆ หรือหลายวันแล้วแต่ความรุนแรง แต่ก็คุ้มที่เนื้อหนังจะไม่ถูกทำลาย แม้ผิวหนังอาจมีรอยดำๆ ย่นๆ แต่ลอกออกมาในไม่ช้า ไม่เชื่อลองดู
สรรพคุณของจากว่านหางจรเข้ นอกจากจะดับพิษร้อนได้ชะงัดนักแล้ว ยังมีสรรพคุณในการรักษาแผลเรื้อรัง เพราะมีสรรพคุณในการเรียกเนื้อ ช่วยสมานแผล แต่ต้องเตรียมวุ้นว่านหางจรเข้ให้สะอาด โดยการล้างว่านหางจรเข้แล้วเช็ดเปลือกว่านหางจรเข้และมีดปลอกด้วยแอลกอฮอล์ ใส่แผล ล้างยางสีเหลืองออกให้หมด จากนั้นขูดเอาวุ้นว่านหางจรเข้ ใส่ในแผลที่ล้างสะอาด แล้วจึงปิดแผลไว้ด้วยผ้าก๊อซ สารอัลอคติน(aloctin) จะช่วยให้แผลตื้นและหายเร็วขึ้น เพราะไปกระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อ
ในการรับประทานวุ้นจากว่านหางจรเข้ (ในที่นี้หมายถึง ส่วนที่เป็นวุ้นโดยปลอกเอาเปลือกและยางออกให้หมด) เป็นยาภายใน ท่านที่ปลูกว่านหางจรเข้ไว้มากๆ จะประหยัดเงินค่ายาได้ในหลายๆ โรคทีเดียวซึ่งมีวิธีใช้ในโรคต่างๆ ดังนี้ โรคเบาหวาน ให้รับประทานวุ้นจากใบสดยาวประมาณ สาม ถึงสี่เซนติเมตรทุกวัน จะสามารถลดการใช้ยาเบาหวานได้ โรคความดันโลหิตสูง ตับอักเสบ ไข้หวัด หอบหืด วุ้นจากว่านหางจรเข้ก็ช่วยได้ โดยมีวิธีใช้เช่นเดียวกับโรคเบาหวาน วุ้นจากว่านหางจรเข้ยังแก้เมารถเมาเรือ โดยให้กินวุ้นจากว่านหางจรเข้ ยาวประมาณสองถึงสามเซ็นติเมตร ก่อนออกเดินทาง ส่วนโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ อาหารไม่ย่อย ให้รับประทานวุ้นจากใบสด วันละสี่เซ็นติเมตร แบ่งรับประทานเป็นสองครั้ง นอกจากที่กล่าวมา วุ้นจากว่านหางจรเข้ยังมีสรรพคุณ เป็นยาบำรุงสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรงสดชื่น มีภูมิต้านทานได้ดีเยี่ยม
หลายท่านอาจจะสงสัยว่า จะรับประทานวุ้นสด หรือวุ้นที่ผ่านการปรุงแต่ง เช่น ว่านหางจรเข้กระป๋อง น้ำว่านหางจรเข้ดี แน่นอนว่าวุ้นว่านหางจรเข้สดต้องดีกว่า แต่ท่านที่ไม่สะดวกในการรับประทานสด ก็รับประทานวุ้นว่าหางจรเข้เหล่านั้นก็ได้ ตำราทำอาหารดั้งเดิมของไทย ก็มีที่ทำวุ้นว่านหางจรเข้เชื่อม หรือแม้แต่ในตำรับยาพื้นบ้านในหลายประเทศ ก็ต้มวุ้นว่านหางจรเข้รับประทาน หรือแม้แต่ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ การสะกัดด้วยน้ำร้อนของวุ้นว่านหางจรเข้ ก็มีฤทธิ์ทางเภสัชในห้องทดลอง เช่น ลดคอเลสเตอรอล เป็นต้น ดังนั้น การที่รับประทานวุ้นว่านหางจรเข้ ที่ผ่านต้มด้วยความร้อนนั้น ก็คงยังมีประโยชน์อยู่บางส่วน แต่สู้รับประทานวุ้นสดๆ ไม่ได้
ในด้านของการเป็นเครื่องสำอาง วุ้นจากว่านหางจรเข้มีสรรพคุณ ในการบำรุงผิว ป้องกันสิวฝ้า รักษาสิวจนเครื่องสำอางมากมายหลายยี่ห้อ จะใส่สารสะกัดจากว่านหางจรเข้ลงไป แต่การใช้วุ้นว่านหางจรเข้ในกับผิวหนังต้องระวังให้ดี ต้องล้างเอาส่วนที่เป็นยางสีเหลืองออกให้หมด หลังการปลอกเปลือกจริงๆ เราเพราะยางสีเหลือง มีฤทธิ์ระคายต่อเนื้อเยื่อ และบางคนอาจแพ้เป็นผื่นได้ วิธีใช้วุ้นจากว่านหางจรเข้ในการบำรุงผิวหน้า รักษาสิว ป้องกันสิวฝ้า ถ้าเป็นวัยรุ่นหน้าค่อนข้างมันก็ใช้วุ้นจากว่านหางจรเข้เป็นรองพื้นก่อนแต่ง หน้าไปได้เลย แต่ถ้าสูงอายุขึ้นมาหน่อย ถ้าใช้วุ้นจากว่านหางจรเข้อย่างเดียวหน้าจะตึงไปนิด ให้ผสมครีมทาหน้าสักเล็กน้อย
ว่านหางจรเข้ยังเป็นสมุนไพรที่ดีมากสำหรับเส้นผม สามารถใช้วุ้นว่านหางจรเข้ทาผม แทนเจลใส่ผมทั่วไปได้เลย เพื่อรักษาอาการผมเสีย ผมแตกปลาย ส่วนคนที่ผมเสียมากๆ ไม่มีน้ำหนักแห้งกรอบ ให้ใช้ ไข่แดง น้ำมันมะกอก วุ้นว่านหางจรเข้อย่างละหนึ่งส่วน ใส่น้ำเล็กน้อยปั่นให้เข้ากัน นำไปหมักผมที่เปียกชุ่มด้วยน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออก สัปดาห์ละครั้ง สักสองครั้งก็เห็นผล วุ้นหางจรเข้ยังใช้ทาบริเวณที่ผมน้อย หรือผมร่วงผมจะงอกขึ้นมาใหม่


ที่มา  www.board.fortunestars.com

อัพเดทล่าสุด