https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
เรื่อง การรักษาต้อหิน ด้วย การ นวด ตา รักษา ต้อหิน จากประสบการณ์จริง!! MUSLIMTHAIPOST

 

เรื่อง การรักษาต้อหิน ด้วย การ นวด ตา รักษา ต้อหิน จากประสบการณ์จริง!!


2,751 ผู้ชม


ประสบการณ์การรักษาต้อหิน ชนิด GCC โดยวิธีการนวดตาตารักษาต้อหิน

เมื่อ ต้นปีที่แล้ว ผมมีอาการตาซ้ายมัวสังเกตเห็นเหมือนมีหมอกบังอยู่ จึงได้ไปพบจักษุแพทย์ที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่ง คุณหมอได้ตรวจวัดความดันตาให้พบว่าความดันตาซ้ายสูงถึงเกือบ 60 ส่วนตาขวาปกติ (ไม่เกิน 21) จึงได้ให้หยอดยา รออีกชั่วโมงวัดความดันลดลงเป็นประมาณ 40 จึงให้รับประทานกลีเซอรีน (ยาทานตัวนี้เหมือนน้ำหวานเป็นตัวดูดน้ำออกจากร่างกาย มีอยู่ 2 ครั้งที่ผมทานแล้วอาเจียนออกมาเพราะรสชาติที่สุดบรรยายของมัน หวานเลี่ยน) จนสุดท้ายความดันตาเหลือประมาณ 10 จึงให้กลับบ้านได้ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคอะไร เข้าใจว่าเป็นโรคความดันตาสูง

คุณหมอได้ให้ยาหยอดมา 3 ตัว คือ Predforte , Glauco-oph,Voltaren และยาทาน Diamox ผมหยอดยาและทานยาอย่างเคร่งครัด พอผลออกมาดี(ไม่อักเสบ) หมอก็จะให้ off  Predforte ซึ่งหลังจากเลิกหยอด 2-3 วันก็จะกลับมาอักเสบอีก ทำให้ต้องเริ่มหยอด Predforte ใหม่เป็น 4 ครั้ง และค่อยๆลดจนเป็น 1 ครั้ง ผมเลิกหยอดอย่างนี้ 3-4 ครั้งและก็กลับมาเป็นใหม่อีกจนรู้สึกเบื่อ เครียด และท้อใจมาก (ผมเชื่อว่าความเครียดทำให้โรคเลวร้ายลง สังเกตจากการตอบสนองต่อ Predforte ที่เลวลง)

ตอนหลังผมเริ่มศึกษาเกี่ยวกับโรคของตัวเอง ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า GCC (Glaucomatocyclitic crisis) หรือ Posner Schlossman Syndrome เป็น โรคที่มีอาการของม่านตาอักเสบและต้อหิน เมื่อได้รับคำแนะนำให้ไปรักษาอีกรพ.หนึ่งซึ่งมีคุณหมอเฉพาะทางโรคนี้อยู่ ประกอบกับที่รพ.เดิมได้แต่ให้ยาประคับประคองอาการ ผมจึงตัดสินใจย้ายไปรักษาแห่งที่สอง ตอนกลางปี

 ผมขอเล่า Background เกี่ยวกับตัวเองนิดหน่อย คือ จากที่ได้ถามคุณหมอว่าโรคนี้มันมีสาเหตุไหม ก็ ได้รับคำตอบว่ามันมักจะเกิดกับคนที่เคยเป็นไวรัสตระกูลเริม อีสุกอีใส งูสวัด ซึ่งตัวผมเองเคยเป็นทั้งอีสุกอีใส งูสวัด และหัดเยอรมัน มันจะมีลักษณะคล้ายๆเริมคือจะแสดงตัวออกมาเมื่อเราอ่อนแอ ช่วงปีก่อนที่จะเป็นนั้นผมใช้ร่างกายค่อนข้างหนักโดยมีการทำล่วงเวลาบ่อย ครั้ง และมีการใช้สายตาอย่างหักโหมและไม่เหมาะสม คือ ชอบดูหนังซีรีย์ แต่งภาพโดยใช้คอม และติด Internet มาก ขนาดที่เมื่อกลับจากทำล่วงเวลามาถึงที่ทำงานตี4 ตี5 ก็ยังมานั่งเล่น Internet ต่อ จนเช้า นอนพักสัก 2 ชม.ก็ตื่นมาทำงานต่อ ซึ่งก็เป็นงานใช้คอมพิวเตอร์แทบจะตลอดเวลา 8-12 ชม.ต่อวัน (ตอนนั้นใช้ทีวีและจอคอมแบบหนาหรือ CRT และ ชอบปิดไฟดูหนัง/ทำงาน ซึ่งเพิ่งมารู้ทีหลังว่าจะทำให้สายตาเสีย) คุณหมอบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับการใช้คอม/ดูหนัง แต่ถ้าเป็นพวกงานเชื่อมโลหะอาจมีผล แต่ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าพฤติกรรมของตนมีส่วนทำให้เป็นโรคดังกล่าว

 หลังจากไปรักษาที่ใหม่ ก็ได้รับการตรวจไวรัส ปรากฏว่าเป็น negative ซึ่งหมายความว่าไม่พบไวรัส แต่ก็เป็นไปได้ว่ามี(แต่ตรวจไม่พบ) หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นจนเหมือนโรคจะสงบ จึงลด Predforte ลง ลดได้วันเดียวก็มีการอักเสบขึ้นมาอีกกลับไปนับหนึ่งใหม่ ช่วงแรกความดันตาก็ไม่ได้สูงมาก

 แต่มาตอนหลังผมทำงานหนักและใช้สายตามาก (ตอนนั้นขายของทาง net-ยุ่งมาก พักผ่อนน้อย) ความดันตาก็สูงขึ้นจนเหมือนจะคุมไม่ได้ (IOP 25-32) ทั้งๆที่ใช้ยาหยอดและยากินเต็มที่แล้ว ( ยาหยอด Predforte x 3 , AlfaganP x 3 , Travatan x 1 , Cosopt x 2 ยาทาน Diamox 4 เม็ด / วัน ซึ่งยา Diamox นี้ทานนานๆจะมีผลทำให้เป็นโรคนิ่วในไต/กระเพาะปัสสาวะได้ ส่วนตัวผมมีอาการปัสสาวะบ่อย มือเท้าชาและร่างกายอ่อนเพลียไม่มีแรง  ส่วน Travatan จะทำให้ตาแดง เพราะเป็นยากลุ่มที่จำลองการอักเสบตา ดูผลข้างเคียงของยาที่ Link นี้ https://forums.212cafe.com/glaucoma/board-3/topic-12.html )

 คุณ หมอบอกว่าถ้าความดันยังไม่ลดลงก็อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อระบายน้ำในลูก ตา ซึ่งผมกลัวและไม่อยากผ่าตัดมาก เพราะทราบว่าทั้งเจ็บและทำให้การมองเห็นแย่ลง ชีวิตช่วงนั้นเครียดมากทั้งภาระในการหยอดยา ทั้งผลจากยาหยอดยาทาน และอาการที่แย่ลง เรียกว่ากายป่วย ใจก็ป่วยไปด้วยภายหลังคุณหมอเสนอให้รับประทานยาต้านไวรัส ช่วงแรกๆที่ทานยาต้านไวรัสแม้ Cell อักเสบจะสงบดี แต่ความดันตาก็ยังสูงอประมาณ ปลายเดือนตุลาคม แฟนจึงชวนไปหาคุณหมอสมเกียรติ อธิคมกุลชัย ที่ รพ.บางปะกอก (ปัจจุบันท่านย้ายไป รพ.บางมด) โดยแฟนค้นข้อมูลจากทาง Internet และผมได้โทร.ไปคุยกับผู้ป่วยที่รักษากับคุณหมอราวๆ10 คน (ตาม Link นี้ https://www.geocities.com/glaucomathai/thglo4.htm)  ได้ ความว่าอาการดีขึ้นทุกคนจึงตัดสินใจไปรักษาแนวใหม่ ก่อนไปพบเข้าใจว่าคุณหมอเป็นผู้นวดให้ แต่พอไปถึงคุณหมอสอนวิธีนวดตา โดยให้นั่งตัวตรงแล้วเอาสันมือของตัวเองกดที่เบ้าตา ช่วงแรกที่นวดตา พอไปตรวจซ้ำปรากฏว่าความดันตาไม่ได้ลดลงเลย ผมจึงยังไม่เชื่อกับวิธีการนวดตาอย่างสนิทใจ หลังจากนวดไป 2 สัปดาห์ก็ไปตรวจตามนัด(ครั้งนี้กะว่าถ้าไม่ดีขึ้นก็จะไม่ไปแล้ว) คุณหมอสอนนวดท่าใหม่โดยให้เอาศอกวางกับโต๊ะแล้วนวด นวดแล้ววัดติดกัน 3 ครั้ง ความดันตาลดลงทุกครั้ง เรียกความมั่นใจขึ้นมา สรุปว่าที่นวดก่อนหน้านี้ทำผิดทั้งท่าทางและแรงกด (การนวดตานี้เมื่อนวดเสร็จใหม่ความดันตาจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกสบายตา และ ก็จะทำให้ความดันในช่วงอื่นของทั้งวันลดลงด้วย ไม่ใช่จะลดลงเฉพาะตอนหลังนวดใหม่ๆเท่านั้น ปกติที่ไปวันความดันตาผมก็ไม่ได้นวดก่อนวัด เพราะอยากพิสูจน์เหมือนกันว่าถ้าไม่นวดก่อนวัด ความดันจะขึ้นไหม)หลัง จากนวดตาเป็น ความดันตาก็ดีขึ้นจนเหลือประมาณ 20 แต่ก็ไม่ได้ลดลงอีก (คุณหมอบอกว่ามันน่าจะดีกว่านี้) คุณหมอจึงให้นวดให้ดูอีกครั้ง ปรากฏว่านวดผิดอีกแล้วคือไปเน้นตรงกลางตามากเกินไป แรงไม่ได้กระจายไปทั่วทั้งเบ้าตา จึงต้องปรับท่าทางกันใหม่ ความดันตาก็ค่อยๆลดลงพร้อมกับยาหยอดที่ลดลงด้วย (บางครั้งก็ลดลงมาเหลือ10สรุปว่าหลังจากนวดตาประกอบกับการรักษาที่ รพ.แห่งที่สองไปได้ 5 เดือน- เดิมใช้ยาหยอด Predforte x 3 , AlfaganP x 3 , Travatan x 1 , Cosopt x 2 ยาทาน Diamox 4 เม็ด / วัน ความดันตาประมาณ 26-a ปัจจุบันเหลือ Predforte x 1 , AlfaganP x 2 และ Isoptopine x 1 และนวดตาวันละ 6 ครั้ง วัดความดันตาได้ประมาณไม่เกิน 18 (ทั้งนี้เครื่องวัดความดันตาแต่ละเครื่องวัดได้ค่าไม่เท่ากัน ค่าที่บอกวัดจาก รพ.แห่งที่สองซึ่งสูงกว่าวัดจากที่ รพ.อื่น 2 แห่ง)

ที่มา  forums.212cafe.com

อัพเดทล่าสุด