https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ท่าออกกำลังกายรักษาภูมิแพ้ ท่าออกกำลังกายให้เอวขอด วีดีโอ ท่าออกกำลังกายด้วยยางยืด MUSLIMTHAIPOST

 

ท่าออกกำลังกายรักษาภูมิแพ้ ท่าออกกำลังกายให้เอวขอด วีดีโอ ท่าออกกำลังกายด้วยยางยืด


1,608 ผู้ชม


ท่าออกกำลังกายรักษาภูมิแพ้ ท่าออกกำลังกายให้เอวขอด วีดีโอ ท่าออกกำลังกายด้วยยางยืด

ธรรมชาติบำบัด ภูมิแพ้...ออกกำลังกาย แก้ได้ชะงัด

         บอกเมนูจานด่วนอาหารที่ปรุงด้วยขิง กับการทำน้ำขิงเข้มข้นให้เป็นยาสู้โรคภูมิแพ้อากาศไปแล้ว ผู้ป่วยหลายรายส่งข่าวมา ต่างดีใจว่าพบทางสว่าง เริ่มพ้นจากความทุกข์ทรมาณกับอาการภูมิแพ้ที่เป็นมาไม่รู้กี่ปี มีทีท่าว่ารักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุดฉุดไม่อยู่...ดื่มน้ำขิงเข้มข้นสูตรหมอใบไม้แค่ 3 วัน อาการแสบคอหรือคันจมูกลดลงเลย

        ทุกคนยังไม่หายแต่อาการดีขึ้น ธรรมชาติบำบัดไม่เร็วเหมือนกินยา เปรียบไปเหมือนท่อตันเอาเหล็กไปแยงปลายท่อแค่พอแก้ปัญหาได้ การแก้ปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดต้องล้างท่อทั้งเส้น น้ำจึงไหลสะดวก บอกแล้วว่ากินยาฝรั่งเหมือนการแยงปลายท่อ ธรรมชาติบำบัดเหมือนการล้างท่อแต่ต้องใช้เวลา และท่อจะสะอาดใช้งานได้อีกนาน

        เมื่อได้สูตรน้ำขิงพิชิตภูมิแพ้ไป มันยังแค่เหมือนแหย่ปลํยท่อ หรือจะพูดวํ่มีกํรแยงท่อแล้วก็ได้ แต่ท่อยังสะอํดไม่พอ...เพื่อให้เบ็ดเสร็จเด็ดขํด พิฆํตภูมิแพ้ให้แน่นิ่ง "ผู้ป่วยต้องออกกำลังกํยด้วย" จึงจะช่วยให้พ้นเวรพ้นกรรมได้จริง

        หมอใบไม้คงพูดเรื่องที่ยากสำหรับหลายๆ คนอีกแล้วเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้...สาเหตุหนึ่ง ผู้ป่วยอาการภูมิแพ้ คือพวกที่ไม่รักการออกกำลังกาย หรือรักแต่มีเหตุผลส่วนตัวที่ฟังไม่ขึ้นว่าไม่มีเวลา เพราะเวลาทั้งวันมักถูกใช้ไปกับการทำงาน ตกเย็นฝ่ายหญิงต้องรีบกลับบ้านไปเลี้ยงลูก ไปช่วยลูกทำการบ้านเดี๋ยวเกรดลูกไม่ดี โตขึ้นจะสอบหมอสอบวิศวะไม่ติด...ฝ่ายชายก็ต้องไปสังสรร เหตุผลเรื่องงานอีก หากไม่มีเพื่อนเดี๋ยวไม่มีอนาคต เลือกอนาคตที่เกี่ยวพันผลประโยชน์มากกว่าสุขภาพ เหตุผลล้านเจ็ด อย่างนี้ก็เสร็จเชื้อโรค จะเอาภูมิชีวิตที่ไหนไปสู้ไวรัสหรือแบคทีเรีย

        ภูมิแพ้เป็นโรคที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัส ดูอาการสิว่าไม่ต่างจากหวัด ทั้งไอ จาม แต่เชื้อไวรัสยังไม่มาก ภูมิต้านทานในตัวยังสู้มันไหว เหมือนกำลังสู้กันไปสู้กันมา หากเมื่อใดร่างกายสู้ไม่ได้ ก็อาจลามไปเป็นหลอดลมอักเสบ พูดเสียงแหบเป็นเป็ด บางทีโพรงจมูกอักเสบ น้ำมูกก็จะมาก ไม่ข้นก็ไส ผู้ป่วยก็ไม่สนใจไปพบแพทย์ แพทย์ก็รักษาไปตามอาการ เมื่อเป็น 2 อาการนี้ แพทย์จะให้ยาแก้อักเสบ บางทีก็สีดำ-แดง บางทีก็สีขาว-เขียว มียาแก้ไข้ด้วยหากผู้ป่วยมีไข้ กินยํแล้วดีขึ้น แต่ไม่หํย เพรํผู้ป่วยเป็นภูมิแพ้อํกํศและฝุ่นละอองเรื้อรัง

        ผู้ป่วยกลุ่มนี้โทร.มาหาผมประจำ พอแนะนำให้ออกกำลังกาย ก็มีเหตุผลอย่างที่บอก ใช้เงื่อนไขของตัวเอง เหตุผลร้อยแปด ลงท้ายทำไม่ได้ จึงแก้ปัญหาไม่ได้ภูมิแพ้ก็ติดตัวต่อไป

        "...ขอยืนยันว่าอาการภูมิแพ้ แก้ไขไม่ได้จริงๆ หากไม่ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี" สูตรน้ำขิงหมอใบไม้ช่วยได้ครึ่ง อีกครึ่งต้องออกกำลังกาย ให้ร่างกายเคลื่อนไหว...ต่อให้ไปไปกินยาวิเศษที่ไหน สมุนไพรหมอเทวดา ก็รักษาภูมิแพ้ไม่ได้

        การกินยาไม่ว่าสมุนไพร หรือยาฝรั่ง แม้บางรายดูเหมือนหาย แต่ไม่ช้าก็เร็วมันจะกลับมาอีก หมอใบไม้มีประสบการณ์ตรงนี้ ผู้ป่วยที่ไม่เชื่อมีใครมาบอกว่าหมอที่นั่นดี ที่นี่มียาหม้อให้กิน ไปไม่รอดหรอกครับต้องกลับมาหาหมอใบไม้ ยอมกับภูมิแพ้ ยอมแพ้มันจริงๆ

        ต้องหันมาออกกำลังกายอย่างไม่มีเงื่อนไข...ถามว่าผู้ป่วยดิ้นรนไปทำไม การที่เที่ยวไปหาหมอยา กระเสือกกระสนไปเจอหมอเทวดาให้ได้...ต้องเสียเงิน แม้หมอเหล่านั้นไม่รับเงิน ค่าใช้จ่ายคือเรื่องของการเดินทาง ต้องเสียเวลาทำงาน

        ออกกำลังกายเสียเหงื่อแต่ไม่เสียเงิน กลับไม่ยอมทำ ก็ไม่เข้าใจมาออกกำลังกายดีกว่า ภูมิแพ้แก้ได้แน่นอน...แต่การออกกำลังกายให้พิชิตภูมิแพ้ได้สำเร็จ ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน...ก่อนอื่นต้องรู้เงื่อนไขของการออกกำลังกาย ไม่ใช่พอนึกถึงการออกกำลังกาย ก็หยิบรองเท้าใส่ เผ่นออกจากบ้านไม่เหลียวหลัง อย่างนี้อันตราย

ภูมิแพ้...ไม่ใช่แค่วิ่งแล้วก็หาย...

       การวิ่งยังไม่ใช่คำตอบของสุขภาพเสมอไป ผู้ป่วยภูมิแพ้ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ การวิ่งเป็นการออกกำลังกายต้องใช้พละกำลังมาก การออกกำลังหนัก ไม่เฉพาะวิ่ง กีฬาบางอย่างก็ห้าม เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล แบดมินตัน หรืออะไรที่หนักๆ ผมไม่อยากใช้คำว่าไม่แนะนำดูอ่อนไป ขอบอกว่าห้ามจะถูกต้องกว่า หากผู้ป่วยภูมิแพ้เริ่มต้นด้วยการเล่นกีฬาหนักๆ อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น เพราะผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศและฝุ่นละอองมีปัญหาที่ระบบทางเดินหายใจ

      อาจหายใจไม่ทัน...หรือหลอดลมอักเสบได้...ปอดยังไม่คุ้นกับการทำงานหนักเพราะไม่มีการปรับตัวก่อน เรื่องของการออกกำลังกายหนักจึงไม่ใช่ใครก็ทำได้ ยิ่งเป็นผู้ป่วยด้วยแล้ว ยิ่งต้องทำความเข้าใจก่อน

การออกกำลังกายดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้...ต้องเริ่มต้นเบาๆ ด้วยการอบอุ่นร่างกายตามลำดับขั้นตอนง่ายๆ

...ยืนตรง หรือกางขาออกเล็กน้อย ใช้มือเท้าเอว แล้วหมุนคอช้าๆ ไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง เมื่อครบแล้วให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง มีข้อควรระวังหากเกิดอาการงง ให้หยุดพักชั่วครู่หรือจนกว่าจะหาย แล้วจึงเปลี่ยนไปทำอีกด้าน หรือหากไม่แน่ใจควรเริ่มต้นจากน้อยๆ ก่อน หมุนคอเพียง 5 ครั้งก่อนก็ได้ แล้วค่อยเพิ่มในภายหลัง

...ยืนจับขอบโต๊ะ หรือมีที่ยึดการทรงตัว อยู่ในท่ายืน แล้วย่อตัวลงนั่ง สลับการยืน 10 ครั้ง ทำช้าๆ อย่างระมัดระวัง ท่านี้ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อที่หน้าขามาก ท่านที่ยังไม่คุ้นอาจเริ่มต้นเพียง 3-5 ครั้งก่อน อย่าฝืนหากรู้สึกตึง เพราะอาจเป็นตะคริวได้

...ยืนกางแขน แยกขาให้กว้างกว่าช่วงไหล่เล็กน้อย เรียกว่าท่าไม้กางเขน ไม่ใช่ท่ากางแขน มันเป็นชื่อของท่า ให้บิดตัวด้านซ้ายในขณะกางแขน แล้วสลับกลับมาทางขวา รวมหมด 3 ครั้ง โดยแขนต้องกางตลอดเวลา อย่าให้แขนหุบแขนเบี้ยว

...ยืนกางขาเล็กน้อย ใช้มือท้าวเอวสองข้าง หายใจเข้ายาวๆ ให้ท้องป่อง...ไม่ต้องกลั้นหายใจ...ให้หายใจออกยาวๆ ทันที ให้ท้องยุบ 10 ครั้ง ตอนหายใจเข้าให้เงยหน้าเล็กน้อย หายใจออกให้ก้มหน้าเล็กน้อย ท่านี้เป็นเรื่องของสมาธิ อาจหลับตาก็ได้ขณะกำหนดลมหายใจ

...เมื่ออบอุ่นรํ่งกํยตํมขั้นตอนจบให้ออกเดิน...เดินด้วยความเร็วปานกลางตามสบาย พร้อมทั้งแกว่งแขนสลับตามธรรมชาติ แต่ต้องแกว่งในลักษณะออกแรงนิดหน่อย

          ทั้งการอบอุ่นร่างกายและการเดิน ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีจึงได้ผล หากสามารถทำได้ถึง 1 ชั่วโมง อาการของภูมิแพ้จะดีวันดีคืนแบบก้าวกระโดดเลย โปรแกรมการออกกำลังที่หมอใบไม้ออกแบบมาใช้เวลาทดสอบอยู่นานพอควรจนได้คำตอบที่ชัดจนน่าพอใจ

         จบโปรแกรมการออกกำลังกายแล้วให้นั่งพัก 5-10 นาทีจึงค่อยดื่มน้ำ โดยต้องดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติ ห้ามดื่มน้ำเย็นเด็ดขาด โดยต้องดื่มน้ำ 500 ซีซี. ในเวลา 30 นาที อย่าดื่มเร็วเกินไป เรื่องนี้จะไปอธิบายในฉบับต่อไป

         ผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศและฝุ่นละออง ที่มาพบหมอใบไม้ ทุกรายที่มีวินัยในการดูแลตัวเองร้อยทั้งร้อยอาการดีขึ้นจนภาวะภูมิแพ้ถอยหนี และทุกคนมีภูมิชีวิตแข็งแรงกว่าเดิม ไม่เป็นคนอมโรคสามวันดีสี่วันร้าย ไม่แพ้กลิ่นควันง่ายเหมือนแต่ก่อน ร่างกายทนสภาพแวดล้อมที่มีปัญหาได้ดีขึ้น บางรายใช้รถประจำทางไม่ได้ ถึงที่ทำงานหัวหมุนต้องนั่งดมยาก่อนถึงจะทำงานได้ กลับบ้านก็เหมือนสลบไปพักหนึ่ง เมื่อลองหันมาใช้วิธีปราณบำบัดแล้ว ก็สู้ภูมิแพ้ได้

ที่มา : ryt9.com

อัพเดทล่าสุด