https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
เรื่อง ประกันสังคม ย้ำหลักเกณฑ์การใช้สิทธิกรณีคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตร MUSLIMTHAIPOST

 

เรื่อง ประกันสังคม ย้ำหลักเกณฑ์การใช้สิทธิกรณีคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตร


564 ผู้ชม


เรื่อง ประกันสังคม ย้ำหลักเกณฑ์การใช้สิทธิกรณีคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตร




รายละเอียด 71 / 2548

สำนักงานประกันสังคม ย้ำหลักเกณฑ์การใช้สิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตร ย้ำหากผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิยื่นหลักฐานครบได้รับสิทธิทันที
นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่กฎหมายประกันสังคมได้ให้ประโยชน์ทดแทนแก่ผู้ประกันตนในกรณีคลอดบุตรและกรณีสงเคราะห์บุตร สำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตร ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิต่อเมื่อได้จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 7 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนวันคลอดบุตร โดยสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับคือ กรณีเป็นผู้ประกันตนหญิงจะได้รับค่าคลอดบุตรเหมาจ่ายครั้งละ 6,000 บาท และเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นเวลา 90 วัน ในกรณีเป็นผู้ประกันตนชายจะได้รับเฉพาะค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย ครั้งละ 6,000 บาท สำหรับภรรยาที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย หรือหญิงที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทั้งนี้ไม่ว่าผู้ประกันตนหญิงหรือชายมีสิทธิเบิกได้คนละ 2 ครั้ง ในกรณีที่สามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่สามารถใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรรวมกันได้ไม่เกิน 4 ครั้ง (สำหรับการคลอดบุตร 4 คน) สำหรับกรณีสงเคราะห์บุตร ผู้ประกันตนจะขอรับเงินสงเคราะห์บุตรได้เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน โดยจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 200 บาท ต่อบุตร 1 คน สำหรับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์เบิกได้คราวละไม่เกิน 2 คน
เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปถึงการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตรหรือกรณีสงเคราะห์บุตร ว่า ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิต้องยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิ พร้อมเอกสารประกอบ ได้แก่ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2-01) สูติบัตรของบุตรพร้อมสำเนาทะเบียนสมรสพร้อมสำเนา (กรณีภรรยาผู้ประกันตนคลอดบุตร) หากไม่มีทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ประกันตนและคู่สมรส สำเนาบัตรประกันสังคม และหนังสือรับรองของนายจ้าง หากขอรับเงินทางธนาคารต้องแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีด้วย โดยยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่หรือสำนักประกันสังคมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนประกันสังคม โทร. 1506 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

ศูนย์สารนิเทศ โทรศัพท์/โทรสาร 0 2956 2534 www.sso.go.th


ศูนย์สารนิเทศ โทรศัพท์/โทรสาร 0-2956-2534 www.sso.go.th

อัพเดทล่าสุด