https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ข่าวกฎหมาย ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ "ค้าปลีกยักษ์" MUSLIMTHAIPOST

 

ข่าวกฎหมาย ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ "ค้าปลีกยักษ์"


704 ผู้ชม


ข่าวกฎหมาย
ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ "ค้าปลีกยักษ์"

อังคาร ที่ 27 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2551
 
ข่าวกฎหมาย ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ \"ค้าปลีกยักษ์\"
ข่าวกฎหมาย ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ \"ค้าปลีกยักษ์\"
ซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศส
ข่าวกฎหมาย ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ \"ค้าปลีกยักษ์\"
ข่าวกฎหมาย ร้านค้าย่อยฝรั่งเศสรวมพลังต้าน รบ.ขยับแก้ กม.เอื้อ \"ค้าปลีกยักษ์\"
       เอเอฟพี - ร้านค้าเล็กๆ ของฝรั่งเศสซึ่งขายสินค้าขึ้นชื่ออย่างขนมปังบาแกตต์,ไก่อบ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมรองเท้าแปลกๆ กำลังรวมตัวรบกับกฎหมายใหม่ของรัฐบาลที่จะอนุญาตให้เปิดร้านซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นได้
       
       กฎหมายที่ว่าด้วย "การทำให้เศรษฐกิจทันสมัย" ซึ่งกำหนดเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาภายในสัปดาห์นี้ ได้รับการอธิบายจากรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โคซีส์ว่า เป็นหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงตลาดค้าปลีกที่ถูกกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวดมากเกินไป รวมทั้งทำให้มีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเพื่อดึงราคาสินค้าให้ถูกลง
       
       ผู้ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ส่วนหนึ่งก็คือสมาชิกพรรคของซาร์โกซีส์เอง ท่ามกลางการล็อบบี้อย่างหนักของกลุ่มเจ้าของร้านที่เตือนว่าจะเป็นการทำลายธุรกิจรายย่อย ซึ่งได้รับการมองว่ามีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตของฝรั่งเศสตามเมืองเล็กๆ รวมทั้งย่านต่างๆ ในเขตเมืองใหญ่ด้วย
       
       "หากว่ากฎหมายบังคับใช้ได้ เราวิตกว่าจะมีผลต่อการอยู่รอดของร้านขนาดเล็กในฝรั่งเศส เพราะต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรงจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ และพวกเราจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้หากว่ามีซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ทั่วทุกหัวระแหง" เป็นคำแถลงของ ฌอง-อูเดส ดู เมสนิล เลขาธิการของกลุ่มซีจีพีเอ็มดีของธุรกิจขนาดกลางและเล็ก
       
       สาระสำคัญของกฎหมายใหม่ก็คือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขนาดเล็กกว่า 1,000 ตารางเมตรสามารถเปิดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตสำนักงานผังเมือง ซึ่งเปลี่ยนจากในปัจจุบันที่กำหนดว่า ต้องเล็กกว่า 300 ตารางเมตร จึงจะไม่ต้องขออนุญาต
       
       รัฐบาลแย้งว่ามาตรการใหม่นี้จะทำให้ร้านขายของลดราคา เข้ามามีส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกในฝรั่งเศสเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูก
       
       เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีกิจการผู้บริโภค ลุค ชาเตลได้ทำการเปรียบเทียบราคาสินค้าในร้านค้าของฝรั่งเศสและเยอรมนี และพบว่าสินค้าที่มีขายเหมือนๆ กันอย่างเช่น โซปิเกต์ ทูน่า,ช็อคโกแลตคินเดอร์ และครีมทามือนีเวีย ราคาในเยอรมนีถูกว่าถึง 14 เปอร์เซ็นต์
       
       ในระหว่างการเยี่ยมชมโรงงานโยเกิร์ตตอนกลางของฝรั่งเศส ซาร์โกซีก็ได้กล่าวปกป้องกฎหมายใหม่นี้ว่ามันไปด้วยกันได้กับลัทธิบริโภคนิยมสมัยใหม่ของฝรั่งเศส
       
       "ในปี 2008 เราไม่ได้ซื้อสินค้าเหมือนปี 1950 อีกต่อไปแล้ว" ซาร์โกซีกล่าว ก่อนหน้านี้เขาให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะทำให้ราคาสินค้าลดลง 3 เปอร์เซ็นต์จากการประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่นี้
       
       นอกจากนี้กฎหมายใหม่ก็จะทำให้ระบบการต่อรองราคาระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้ค้าส่งนั้นซับซ้อนน้อยลง และจะส่งผลถึงกลุ่มธุรกิจรายย่อยรวมทั้งสหภาพชาวนาหรือ เอเอนซีอีเอ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่เรียกว่า อาเนีย โดยตรง
       
       ผู้นำของกลุ่มธุรกิจเครือข่ายค้าปลีกขนาดยักษ์ห้าแห่งของฝรั่งเศสพยายามมานานที่จะบอกว่าระเบียบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น ต้องอยู่บนฐานของราคาค้าส่งซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคในฝรั่งเศสแพงกว่าที่เยอรมนี
       
       แต่ ฌาค แกร์โบลต์ รองประธานของสมาคมอาร์เอสไอ ของธุรกิจอิสระ กล่าวว่า "สิ่งที่รัฐบาลทำตอนนี้ก็คือเอากุญแจเข้าบ้านไปให้ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ถือไว้"
       
       แกร์โบลต์ กล่าวอีกว่า ร้านค้าที่ครั้งหนึ่งเคยขายสินค้าในราคาที่ประชาชนซื้อหาได้กำลังถูกขจัดออกไป เพราะไม่สามารถจะแข่งขันกับพวกค้าปลีกขนาดยักษ์ที่เรียกกันว่า ไฮเปอร์มาร์เก็ตได้นับตั้งแต่ธุรกิจเหล่านี้เริ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 และตอนนี้ก็เหลือแก่ร้านค้าขายอาหารพิเศษที่มีราคาแพงเท่านั้น
       
       ข้อมูลของซีจีพีเอ็มอีกล่าวว่าตอนนี้ครึ่งหนึ่งของเมืองหรือชุมชนขนาดเล็กๆ ที่มีอยู่ 36,000 แห่งทั่วฝรั่งเศส ไม่มีร้านค้าอิสระบนถนนสายหลักของเมืองอีกต่อไปแล้ว ร้านค้าเล็กๆ ที่มีทั้งขายเนื้อสัตว์,อบขนมปังและทำชีสซึ่งเคยอยู่บนถนนเหล่านั้นต้องปิดตัวไปตามๆ กัน และมีสำนักงานธนาคาร บริษัทประกันภัย รวมทั้งนายหน้าจัดหางานก็เข้ามาแทนที่
       
       ส่วนข้อมูลของอาร์เอสไอก็บอกว่า 1 ใน 3 ของร้านขายอาหารขนาดเล็กต้องปิดตัวลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
       
       ดู เมสนิล บอกว่า "เมื่อร้านขนาดเล็กหายไปหมด ทุกอย่างก็จบ เพราะเราไม่สามารถทำให้ร้านเหล่าฟื้นจากความตายได้เลย"
โดย ผู้จัดการออนไลน์

อัพเดทล่าสุด