รักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมใจกันดูแลธรรมชาติ (ผ่านเว็บ) MUSLIMTHAIPOST

 

รักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมใจกันดูแลธรรมชาติ (ผ่านเว็บ)


889 ผู้ชม


ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมวลมนุษย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ มนุษย์เราต่างอาศัยธรรมชาติเพื่อการดำรงชีวิตอยู่จวบจนปัจจุบันและเนิ่นนานไปจนถึงอนาคต คุณสมบัติของธรรมชาติ คือ ความบริสุทธิ์ พร้อมที่จะเสียสละตัวเองเพื่อสรรพสิ่งมีชีวิตบนผืนโลก เราหายใจ กินอาหาร อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า หาความสุขให้กับชีวิต เหล่านี้ล้วนแต่พึ่งพาธรรมชาติทั้งสิ้น

พื้นที่โฆษณา  
สนใจลงโฆษณา ติดต่อ โทร.0-2642-3400 ต่อ 4613

ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ หากเมื่อประมวลดูทั้งหมดแล้ว อาจต้องตกใจเพราะ ล้วนเกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่รุกล้ำทำลายจนทำให้เสียสมดุลทางธรรมชาติ แต่เราก็โทษธรรมชาติโดยมองข้ามความผิดพลาดของตัวเอง...
โอ๊ะ โอ๋ววว... ชักจะซีเรียสมากไปแล้ว อย่าเพิ่งคิดมากไปกว่านี้ เพราะฉบับนี้ดิฉันจะพาคุณๆ ไปท่องโลกของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกันค่ะ

1

www.tei.or.th/
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (สสท.) / Thailand Environment Institute (TEI)

2

www.dekrakpha.com
สำหรับเว็บไซต์ถัดมานี้เราก็ยังคงอยู่กับเรื่องราวของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคราวนี้ดิฉันจะพาคุณไปเที่ยวไกลถึงค่ายเด็กรักป่าที่สุรินทร์ เว็บไซต์ที่ได้รับการการันตีด้วยรางวัลเว็บไซต์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2547 จัดสร้างขึ้นโดยกลุ่มค่ายเด็กรักป่า ที่อยู่คือเลขที่ 63 ม.3 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 มีสโลแกนกิ๊บเก๋ว่า "เด็กรักป่า ศิลปะ บทกวี ดนตรี มีธรรมชาติเป็นครู" ซึ่งกลุ่มเด็กรักป่านี้มีกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและป่าเขาลำเนาไพรมากมาย โรงเรียนเด็กรักป่าจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อรณรงค์และกระตุ้นจิตสำนึกในความรักธรรมชาติ ด้วยกิจกรรมศิลปะ เช่น ละคร ภาพวาด บทกวี ตลอดจนการนำความรู้ที่ได้ไปใช้กับชุมชน และ เป็นที่ศึกษาดูงานกระบวนการเรียนรู้ธรรมชาติของสถาบันการศึกษา เด็กรักป่า เป็นกลุ่มที่ริเริ่มและจัดตั้งโรงเรียนธรรมชาติศึกษาขึ้นในปี 2535 เป็นโรงเรียนธรรมชาติศึกษาแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีการทำงานที่ทำอย่างเป็นระบบมีความต่อเนื่อง สามารถเผยแพร่แนวคิดออกไปในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความมุ่งมั่นตั้งใจของบุคคลผู้ก่อตั้งโรงเรียนเด็กรักป่าระบุไว้ในเอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการดำเนินงาน เด็กรักป่า ครั้งที่ 1/2541 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2541 ว่า เด็กรักป่าจัดการศึกษาให้กับเด็กอย่างจริงจัง จนกระทั่งสามารถตั้งคำถาม ในวงการศึกษาไทยได้ระดับหนึ่งว่า "การเรียนรู้จะสามารถผสาน การศึกษาในระบบและนอกระบบโดยมีธรรมชาติเป็นฐานได้อย่างไร" ในปี 2541 กลุ่มเด็กรักป่า ได้รับรางวัล "การสร้างฐานชุมชน" จากองค์การอโชก้าสากล สำหรับองค์กรประชาสังคมที่เสนอความคิดสร้างสรรค์ในการระดมทุนและบริหารอาสาสมัคร ซึ่งเป็นลักษณะงานภาคีความร่วมมือเพื่อการพัฒนา
ไม่ธรรมดาใช่ไหมคะสำหรับกลุ่มเด็กรักป่า เอาละค่ะ ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าหน้าตาของเว็บไซต์เด็กรักป่าจะน่าสนใจแค่ไหน คลิ้กตามมาเลย แต้นแต๊น คุณรู้จักลูกยางไหมคะ ? (ถามเด็กในเมืองกรุง อิอิ) ลูกยางนั้นเป็นผลของต้น "ยาง" เป็นต้นไม้สูงที่มีมากในภาคอีสาน ผลของลูกยางมีลักษณะกลมๆ เล็กกว่าลูกปิงปอง มีปีกสองข้าง ปลิวตามแรงลมเมื่อปลิดขั้วหล่นจากต้นเป็นภาพที่หาดูได้ตามป่าเขาลำเนาไพร และที่เว็บไซต์เด็กรักป่าแห่งนี้ ซึ่งใช้เป็นโลโก้ของเว็บ... หน้าแรกดูจะรกนิดหน่อย เพราะตัวหนังสือเยอะแยะ และเน้นไปที่ข่าวสารทันสมัย และบทความใหม่ๆ ที่ค่ายเด็กรักป่าจัดขึ้น มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้เลือกด้วยนะคะ หัวข้อหลักๆ ก็เช่น ห้องรับแขก ค่ายเด็กรักป่า บันทึกธรรมชาติ แกลเลอรี่ภาพวาด ปฏิทินกิจกรรม สมุดเยี่ยม เป็นต้น พอคลิ้กเข้ามาดูเพจอื่นๆ ก็จะพบว่าสีของเว็บค่อนข้างละมุนตาเพราะใช้สีขาวและเขียวอ่อน (มาก) และสังเกตได้ว่าแต่ละเพจนั้นแบ่งเป็นฟอรั่มแต่ละเซกชั่นไว้ให้เขียนและตอบเหมือนกระดานข่าว เรื่องราวที่ถูกโพสต์ลงมาจึงค่อนข้างเรียบง่าย โพสต์รูปและเนื้อหาเป็นแถวเรียงหนึ่งลงมา บางอารมณ์จึงทำให้ขาดความรู้สึกดึงดูดใจให้อยากอ่านเสียอย่างนั้น แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงข้อด้อยเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับสาระความรู้ต่างๆ มากมายในเว็บไซต์
กลุ่มเด็กรักป่านอกจากจะเน้นเรื่องของการอนุรักษ์ป่าไม้ของเยาวชนแล้วยังมีเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ เช่น ศิลปะ บทกวี และดนตรี เพราะมีเพจแกลเลอรี่ศิลปะของเด็กรักป่ามาให้ชม แฮะๆ เปิดเพจเด็กรักป่าดูเนื้อหาสาระแล้วก็ฟังเพลงเพลินๆ กับเอี้ยว ณ ปานนั้น จากเพจ "เด็กรักป่ากับดนตรี" อ๊ะ เพลินจริงๆ นะขอบอก....

3

www.environnet.in.th
ทีแรก เว็บสุดท้ายนี้ว่าจะพาคุณๆ ไปชมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของต่างประเทศเขาบ้าง แต่พอเปิดเว็บไซต์นี้ดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขออนุญาตเลือกเว็บนี้มาให้ชมกัน (ฉบับนี้ขอพาท่องเว็บบ้านเราก็แล้วกันค่ะ) เว็บไซต์ราชการบ้านเรา... ไม่มากนักที่จะทำหน้าตาให้ออกมาได้นอกกรอบได้ขนาดนี้ แต่สำหรับ environnet นี้ดำเนินงานและจัดทำภายใต้การดูแลโดย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน้าแรกของโฮมเพจแบ่งเป็นสองระดับ คือ ระดับชาติ กับระดับเยาวชน ซึ่งเนื้อหาของทั้งสองระดับดังกล่าวก็จะแตกต่างกันพอสมควรค่ะ แต่เดี๋ยวเราเดินเล่นหน้าโฮมเพจกันก่อนนะคะ แล้วค่อยเข้าไปดูเนื้อหาด้านในกัน
สำหรับหน้าแรกของเว็บไซต์นั้นค่อนข้างเรียบง่าย มีบทความเด่นๆ ประจำสัปดาห์ มีข่าวที่น่าสนใจทั้งข่าวในเมืองไทยและข่าวต่างประเทศ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือก เมนูบาร์ด้านข้างมีไว้ให้เลือกคลิ้กเข้าไปดูเนื้อหาส่วนหนึ่ง เช่น พื้นที่ชุ่มน้ำ ธนาคารขยะ ห้องสมุดข้อมูล กฎหมายสิ่งแวดล้อม GIS และเพื่อลดความยุ่งยากในการค้นหาข้อมูลภายในเว็บ ทางเว็บเลยจัดทำ ทางด่วนข้อมูลเสียเลย จะได้ไม่ต้องเปิดทีละหน้าให้ตายลาย เมื่อลองคลิ้กเข้าไปสำรวจ (แบบไม่พึ่งพาทางด่วน) ก็พบแทบหงายหลังด้วยเนื้อหาทางวิชาการเพียวๆ ยกตัวอย่างเนื้อหาภายในเว็บ เช่น ทรัพยากรดิน ป่าไม้ สัตว์ป่า น้ำ อากาศ ชายฝั่งและทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ แร่ธาตุและพลังงาน ขยะและของเสีย อันตรายภัยธรรมชาติ, แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและแหล่งศิลปกรรม, สิ่งแวดล้อมเมืองและชุมชน ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาประเทศ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม คนไทยกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น (ดีแล้วล่ะที่ทำทางด่วนเอาไว้ให้ด้วย) นี่แค่ประตูบ้านนะคะ เรายังไม่ได้เข้าชมรายละเอียดทั้งหมดของเว็บกันเลย ภายใน นอกจากเนื้อหาเหล่านี้แล้ว เราจะได้พบกับ คอลัมน์ต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ครบเครื่องเรื่องสิ่งแวดล้อม ข่าวและเหตุการณ์ปัจจุบัน ชุมชนสีเขียว (คอลัมน์นี้เป็นเว็บบอร์ดค่ะ) มุมสนุก เพจนี้ดิฉันชอบมาก (อีกแล้ว) เพราะมีอีการ์ด เกม วอลเปเปอร์ สกรีนเซอร์เวอร์ ให้เลือกโหลดอย่างเอ็นจอย ถัดมาก็จะเป็น เกร็ดความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เครือข่ายสีเขียว และกิจกรรมต่างๆ เยอะแยะมากมายสาธยายไม่หมด ไม่เสียชื่อกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลยสักนิดเดียวจริงๆ
เพลิดเพลินกับการท่องเว็บสิ่งแวดล้อมกันถ้วนหน้าแล้วอย่าลืมหันมาร่วมมือร่วมใจกันสำหรับคนที่อาศัยธรรมชาติในการดำรงชีพที่จะให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่กับเรา โดยเกื้อกูลกันระหว่างคนกับธรรมชาติ
ง่ายนิดเดียวในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาดตาและน่าอยู่ แค่เราทุกคนหลีกเลี่ยงการทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ เท่านี้บ้านเมืองเราก็จะสะอาดสะอ้านน่าอยู่ แม่น้ำลำคลองก็จะใสสะอาดน่ามองน่าว่ายเล่น... เท่านี้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ก็จะอยู่กับเราตลอดไป


Computer Today

ฉบับที่ 264 ปักษ์หลัง มิถุนายน 2548
อ่านบทความอื่นๆ >>

อัพเดทล่าสุด