https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
บทความ มารู้จักวิธีเอาตัวรอดในวันสิ้นโลกที่กำลังจะเกิดในปี 2010-2012 กันดีกว่า MUSLIMTHAIPOST

 

บทความ มารู้จักวิธีเอาตัวรอดในวันสิ้นโลกที่กำลังจะเกิดในปี 2010-2012 กันดีกว่า


773 ผู้ชม


ภาพประกอบ
มารู้จักวิธีเอาตัวรอดในวันสิ้นโลกที่กำลังจะเกิดในปี 2010-2012 กันดีกว่า

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

เตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่
1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่เป็นคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดขึ้นแล้ว)
2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน
3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง) เป็นเวลา 7 วัน
** ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลก จะรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น 56 วัน**
** ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเซียในประเทศที่เป็นอริต่อกัน **
ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
2. พายุถล่ม
3. แผ่นดินแยก และแผ่นดินไหว
4. ภูเขาไฟระเบิด  (โดยเฉพาะที่ Yellow Stone ในอเมริกา ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง)
5. คลื่นยักษ์จากทะเล
6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา เช่น VIRUSTERIA , อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ , ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ฯลฯ
7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน (อันนี้ตรงกับแหล่งข้อมูลที่ผมค้นเจอในหลายๆแหล่งมาก น่าแปลกใจมาก)
8. อดอยากขาดแคลนอาหาร
การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว
1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 6 เดือน
2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย
ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย (ถ้าเป็นชั้นใต้ดิน หรือในถ้ำจะดีมาก)
5. ยารักษาโรค
6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก) และพยายามอย่ากินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี  ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
7. ยานพาหนะ เช่น จักรยาน เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (บางรายงานแจ้งว่าเวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ
1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง (อันนี้ผมวิเคราะห์แล้ว จริงแท้ที่สุด ในเวลานั้นฝนจะอันตรายมาก มันจะเป็นฝนกรดชนิดรุนแรง)
3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด (อันนี้ผมมีความเห็นว่า ควรพิจารณาเป็นกรณีไป อย่างเช่นถ้ามีคนต้องการความช่วยเหลือจริง และเค้าบาดเจ็บมา ก็ต้องช่วยเค้าตามหลักมนุษยธรรมนะครับ)
5. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
6. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย (ผมว่าข้อนี้สำคัญมากเหมือนกัน เพราะในระหว่างที่เกิดภัย ไม่มีใครหรอกครับที่จะกินอาหารที่ตัวเองมีอย่างจำกัดให้อิ่มตามความอยากของเรา ถ้ามันหมดขึ้นมากระทันหันล่ะเรื่องใหญ่ทีเดียว ฉะนั้นพวกเราจะหิวมาก ให้อดทนไว้ครับ)
7. ระวังอากาศที่หนาวเย็นจัด
8. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ ตะขาบ
9. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 2 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 2 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง (อันนี้จริงครับ)
การเตรียมทางจิตวิญญาณ
1. ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย
1.1 หยุดโลภ โกรธ หลง
1.2 ทำจิตให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะคลื่นเสียงที่ดังกึกก้องจะไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก (อันนี้ผมคิดว่า มีส่วนจริงมากทีเดียว เราควรจะหาที่อุดหูเตรียมไว้ด้วยนะครับ)
2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
3. ฝึกการละวาง (ผมว่าลองคิดว่า พวกเราทุกคน ทุกสิ่งล้วนมาจากความว่างเปล่า ทำใจให้ผ่อนคลาย ทำนองนี้)
4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา (ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5ไว้ครับ อาจจะทำให้สัมผัสที่ 6 ที่หลับใหลอยู่ในตัวของพวกเราทุกคนตื่นขึ้นมาก็ได้นะ)
การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย
1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป (ผมว่าข้อนี้พวกเราไม่ควรจะเพิกเฉยต่อการที่ได้เห็น ได้ยินคนอื่นกำลังจะตายนะครับ ช่วยเขาเถอะครับ โปรดเอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาก็คือเรา เราก็คือเขา พวกเราล้วนกำเนิดมาจากที่เดียวกัน นั่นคือพลังงานจากความว่างเปล่า ปล.นอกซะจากจะรู้้แน่ๆว่ายังไงเราก็ไม่มีทางช่วยเขาได้แน่ อันนั้นจงอย่าเผยตัวหรือออกไปช่วย เพราะอาจจะทำให้ไปตายหมู่ก็ได้ )
2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ (ผมว่าควรอยู่นิ่งๆจะดีกว่านะครับ เพราะการทำกิจกรรมต่างๆมันจะผลาญพลังงานเราไปเรื่อย ๆ จะทำให้เราหิวและอยากอาหารมากขึ้น)
4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่จะเกิดนั้นจะมีอยู่วันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่สุด
คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายังโลก
เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะ
อันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11  (ตรงกับข้อมูลที่ผมได้รับทราบจากหลายๆแหล่ง)
มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
บรรยากาศช่วงแรกๆ จะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล
หลังจากนั้นไม่นานนักลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้า เสียงลม
จะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด
ตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
มันเป็นเสียงของมัจจะราชที่จะพิพากษาโลก (ผมได้ทราบมาว่า จะมีคลื่นเสียงที่มีอำนาจมากๆโจมตีโลก ซึ่งตรงกับข้อความนี้มาก)

จงเตรียมตัวให้พร้อม..!!

อัพเดทล่าสุด