https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
นักวิทย์เผย'น้ำตาสาว'ทำชายหมดอารมณ์ MUSLIMTHAIPOST

 

นักวิทย์เผย'น้ำตาสาว'ทำชายหมดอารมณ์


565 ผู้ชม


นักวิทย์เผย'น้ำตาสาว'ทำชายหมดอารมณ์

นักวิทย์เผย

นัก วิทยาศาสตร์เผยผลงานวิจัยล่าสุด บ่งบอกว่าน้ำตาของผู้หญิงมีฤทธิ์ลดความต้องการทางเพศของผู้ชาย การค้นพบครั้งนี้เป็นผลงานของสถาบันวิทยาศาสตร์ไวซ์แมน ในอิสราเอล โดยมีสมมติฐานตั้งต้นว่าในน้ำตาของสตรีอาจมี "สัญญาณข้อมูล" ทางเคมี ที่ส่งผลต่อเพศตรงข้าม
ศ.โนม โซเบล ผู้วิจัย อธิบายถึงกลไกการทำงานของเงื่อนไขนี้ว่า สัญญาณทางเคมีในน้ำตาผู้หญิง จะส่งข้อมูลไปทำปฏิกิริยาต่อฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน และส่งผลต่อไปยังการทำงานของสมองส่วนควบคุมความรู้สึกทางเพศอีกต่อหนึ่ง
สำหรับ ขั้นตอนการวิจัยนั้น ทางสถาบันใช้วิธีเก็บตัวอย่างน้ำตาจากอาสาสมัครหญิง โดยใช้วิธีเปิดหนังเศร้าให้ดูเพื่อให้หลั่งน้ำตา จากนั้นจึงนำน้ำตาที่ได้มาทดลองกับกลุ่มตัวอย่างเพศชาย
ในขั้นตอนนี้ อาศัยวิธีการกำหนดตัวแปรเป็นน้ำเกลือ กับน้ำตา แล้วนำไปให้ฝ่ายชายดม โดยไม่บอกว่ากำลังดมอะไรอยู่ จากนั้นจึงให้ดูภาพใบหน้าของหญิงสาว แล้วจึงตอบคำถามเกี่ยวกับความดึงดูดทางเพศของภาพแต่ละภาพ
ผลที่ได้พบ ว่า กลุ่มที่ได้ดมน้ำตา จะตัดสินใบหน้าหญิงสาวในภาพว่ามีเสน่ห์ สวยงามน่าหลงใหลน้อยกว่าที่ได้ดมน้ำเกลือ และจากการค้นคว้าเพิ่มเติม จึงพบว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในฝ่ายชายกลุ่มที่ได้ดมน้ำตานั้น ลดลงจากระดับปกติถึง 13% ด้วยกัน
นอกจากนี้ ยังส่งผลทางกายภาพอีกด้วย เช่น อุณหภูมิของร่างกายลดลง อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ เมื่อสแกนดูสมองแล้วพบว่า ปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีของสมองส่วนความรู้สึกทางเพศนั้นทำงานน้อยลงอย่างเห็นได้ ชัด
สุดท้ายแล้ว การวิจัยชิ้นนี้เป็นสิ่งช่วยยืนยันทฤษฎีที่ว่า มนุษย์เรานั้นมีวิธีส่งผ่านข้อมูลให้แก่กันได้ทุกเวลา หลากหลายรูปแบบ และข้อมูลการสื่อสารเหล่านั้นยังส่งผลทางความรู้สึกต่อผู้อื่นได้อีกด้วย ก้าวต่อไปของการศึกษาในเรื่องนี้ก็คือ การค้นหาว่าในน้ำตาของผู้ชายจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ด้วยหรือไม่

อัพเดทล่าสุด