เขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย สวยงามมาก

อรุณฤกษ์  เบิกฟ้า..เขื่อนรัชชประภา...กุ้ยหลินเมืองไทย
                                                                      โดย..เทพสิน ผ่องแก้ว ททท.สุราษฎร์ธานี

              
 อรุณรุ่ง มุ่งหน้า ฝ่าสายหมอก    นำเรือออก “ภูตะวัน” ครั้นรุ่งสาง
ท่องเที่ยวทั่ว ทิวทัศน์ ทุกทิศทาง    นกลิงค่าง บ่างชะนี มีให้ชม...

      เสียงสิงสาราสัตว์ร้องปลุก ให้ตื่นในตอนเช้าตรู่ ซึ่งวันนี้ก็ตั้งใจจะตื่นเช้าอยู่แล้ว เพื่อจะไปชมทะเลหมอกในเขื่อนรัชชประภา พื้นที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย คิดว่าคนอื่นยังไม่ตื่น แต่ผิดคาดครับ เพราะมีเพื่อนเดินทางร่วมคณะ ได้แก่ นักเขียนจากประเทศมาเลเซียคือคุณ Edwin yapp Glanlye คุณ Koh Chunseng และนักท่องเที่ยวจากประเทศสวีเดน พร้อมจะลงไปชมทะเลหมอกอันสวยงามของเขื่อนรัชชประภา
      น้องป๊อบวัย 12 ขวบลูกชายคุณแป๊ะเจ้าของ“แพภูตะวัน”  นำเรือหางยาวออกจาก “แพภูตะวัน” ห้องนอนลอยน้ำที่อยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติอันงดงามเกินบรรยาย สักครู่เราเดินสู่เวิ้งน้ำอันกวางใหญ่ แล้วค่อยเลียบเลาะขุนเขาที่มีหน้าผาสูงชัน ตั้งฉากกับผืนน้ำจืดสนิทสีเขียวมรกต บริเวณนี้เขาเรียกว่าถ้ำจันทร์ ในอดีตเป็นหมู่บ้าน แต่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองบาดาลเสียแล้ว มองจากจุดนี้ออกไปจะเห็นสายหมอกทอดเป็นแนวยาว ผ่านยอดเขาประดุจแดนสวรรค์
 ตื่นใจอีกครั้ง เมื่อล่องเรือมาถึงอ่าวสมเด็จ  มีภูเขาคล้ายกับเจดีย์ 3 องค์เหนือพื้นน้ำ ห้อมล้อมด้วย ภูเขาหินปูน บริเวณหน้าผา จะมีหมากพระราหู พืชตระกูลปาล์มที่หาชมและเพาะพันธุ์ได้ยากมาก ซึ่งเป็นนามพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ถัดมาอีกด้าน เห็นฝูงค่าง กำลังอร่อยกับอาหารจานเด็ด (ไม่เด็ดไม่ได้กิน) เป็นยอดไม้ป่าสุดโปรดของฝูงค่าง พวกเราเองก็เริ่มหิว จึงชวนกันมารับประทานอาหารเช้า แสนจะอร่อยที่ “แพภูตะวัน” 
      “แพภูตะวัน” บรรยากาศเรียบง่ายแสนสบาย ด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์  ผืนน้ำสีเขียวมรกต ทำให้อดใจไม่ไหวที่จะกระโดดเล่นน้ำจนฉ่ำอุรา แล้วอำลาแพภูตะวัน เพื่อไปชมจุดอื่นๆที่น่าสนใจ เรือลัดเลาะสู่แพประมง ซึ่งมีการจับปลาจากเขื่อนมาขังรวมไว้ เป็นจำนวนมากก่อนส่งขายยังตลาด อันได้แก่ ปลากดเหลือง ปลาแรด ปลากราย ฯลฯ จากนั้นออกเดินทางสู่แพนางไพร ซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก รับประทานอาหารบนแพนางไพร ที่รสชาติอร่อยเกินบรรยาย สดจากเขื่อน อิ่มหนำสำราญแล้วมาให้อาหารปลานับแสนตัว มีทั้งปลาตะเพียนทอง ปลาแรด ปลาพลวงตัวโตมาก ๆ แหวกว่ายอย่างสบายอุรา ในที่สุดก็ถึงเวลา อำลาเขื่อนรัชชประภา กุ้ยหลินเมืองไทย โดยมีเหยี่ยวกินปลาบินมาส่ง น่าเสียดายที่มีจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายที่ยังไม่ได้ไป ไม่ว่าจะเป็นถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำปะการัง น้ำตก จุดชมวิว หรือจะเป็นกิจกรรมส่องสัตว์ ไว้โอกาสหน้าไปเที่ยวแล้วจะสาธยายให้ทราบต่อไป 

 
การเดินทาง
      เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 84 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 เมื่อถึงหลักกิโลเมตร 58 เลี้ยวขวาเข้าไป 12 กม. เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวเอนกประสงค์สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำจะร่มรื่นด้วยแมกไม้ นานาพันธุ์ ท่ามกลางขุนเขาหินปูนที่สูงตระหง่าน ตั้งฉากกับผืนน้ำสีเขียวมรกต ดูอบอุ่น เย็นสบาย เหมาะสำหรับการพักผ่อน มีบริการล่องเรือชมทัศนียภาพ ที่พักของการไฟฟ้า แพพักของอุทยานแห่งชาติเขาสก หรือของเอกชนอีกมากมาย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร.0-7728-8817-9 โทรสาร. 0-7728 28 28   E-mail: tatsurat@tat.or.th