https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ฤดูหนาว ที่เชียงใหม่ หนาวนี้อีกครั้งที่ดอยอ่างขาง MUSLIMTHAIPOST

 

ฤดูหนาว ที่เชียงใหม่ หนาวนี้อีกครั้งที่ดอยอ่างขาง


795 ผู้ชม


หนาวนี้อีกครั้งที่ดอยอ่างขาง

หนาวนี้อีกครั้งที่ดอยอ่างขาง

โดย...เรณู

                    จะว่าไปแล้วสำหรับทริปนี้ ถือว่าเป็นทริปส่งท้าย ปี 2008 ก็ว่าได้ สมาชิกในทริปนี้ คือเพื่อนรัก ที่ตอบตกลงไปเที่ยวอย่างรวดเร็ว ประมาณว่าไม่ต้องลังเลกันเลย จุดหมายปลายทางเพื่อนต่าย เสนอความคิดว่าอยากไปดอยอ่างขาง ส่วนศิริ กะโต้ง 2 คนนี้ไม่เคยมีปัญหา ว่างัยว่าตามกัน แม้ว่าตัวข้านั้นจะเคยไปลอยยี่เป็งที่อ่างขาง มาเมื่อปีที่แล้ว ก็โอเช อยากกลับไปอีก ด้วยใจหวังลึก ๆ ว่าจะได้ขึ้นดอยสีชมพู (ดอกซากุระบานเต็มดอย) ปีที่แล้วเริ่มมีให้เห็น ด้วยใจอันมุ่งมั่นของพวกเราทั้ง 4 คน ช่วง   5-7 ธ.ค. จึงเป็นช่วงที่พวกเราทุกคนรอคอยด้วยใจอันจดจ่อ
                    เรื่องราวที่เหมือนจะดูว่าไปได้ด้วยดี ต้องเกือบกินแห้ว ด้วยการหาที่พักไม่ได้เลย อุตส่าห์ไป post ใน pantip หาข้อมูลได้มากมาย โทรศัพท์ไปถามเกือบทุกที่ เกือบจะทั่ว "บ้านคุ้ม" (ตำบลที่เป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง)  ปรากฎว่า ทุกที่ตอบเหมือนจะเป็นเสียงเดียวกัน คือ "เต็มหมดแล้วคับ" “เต็มหมดแล้วเจ้า”  แต่พวกเรายังไม่ถอดใจ "เอาวะ  ทางเลือกสุดท้ายนอนเต้นท์ก็ได้"  แต่ในใจลึก ๆ พ.ย. ปีที่แล้ว 8-9 องศา นอนที่ "อ่างขางวิลล่า"  ตรูและพวกเพื่อนนอนหนาวเหน็บภายใต้ผ้าห่มที่ ห่มแล้วไม่ได้รู้สึกอุ่นเท่าที่ควร  แต่ทำงัยได้ใจมันไปแล้ว เป็นงัยเป็นกัน บังเอิญ ๆ โชคดีเป็นของพวกเราทั้ง 4 โทรไปที่ "อ่างขางฮิลล์" มีคนจองแต่ไม่โอนเงินภายใน 30 พ.ย. ประกอบกับลูกตื้อ    (สุด ๆ) เลยมีที่ซุกหัวนอนกันไป ค่าที่พักคืนละ 2,500 บาท สรุปแล้วโอเค ดีกว่านอนหนาวในเต้นท์ ผ่านด่านแรกมาได้  เจอด่านที่สอง  ตั๋วรถทัวร์ที่เปิดจองล่วงหน้า 1 เดือนก่อนเดินทาง VIP ดันเต็มหมดเลยขาไป ต้องรอลุ้นวันที่ 15 พ.ย. แต่ว่าตั๋วกลับจากเชียงใหม่  งานนี้ได้พี่วิชัย ผจก.ศูนย์เชียงใหม่ (น่ารักมาก) เป็นธุระจัดการซื้อตั๋วให้สรุปว่างานนี้  ได้ที่พัก และตั๋วกลับ  แต่ตั๋วไปยังไม่ได้อ่ะ  พระเจ้าจอร์ช  มันยอดมากอ่ะ!!!!!  งานนี้สาวต่ายอดรนทนไม่ไหว ไปซื้อตั๋วที่เปิดขายวันแรกที่หมอชิตเองเลย  ด้วย she เกรงว่าถ้าคนอื่นไปอาจจะวืดก็เป็นได้  สุดท้ายโชคก็เข้าข้างพวกเรา (ที่มีความพยายามเป็นเลิศ)
                    เรื่องตื่นเต้นสุดท้ายล่วงหน้า ก่อนวันเดินทาง 1 วัน (สุดท้ายจริง ๆ) สำหรับอุปสรรค คือว่าพวกเราเป็นสาวบัญชี รับจ้างเค้าทำงานในบริษัท แห่งนึง ที่ดูผิวเผิน เหมือน ๆ บริษัทฯ ทั่ว ๆ ไป ที่พวกเพื่อน ๆ ของพวกเราเค้าทำบัญชีกันแหละ  แต่ค่อนข้างแนวอนุรักษ์ ความคิดเก่า ๆ ที่เห็นการทำงานล่วงเวลา  การทำงานเยอะ ๆ  ดู load ๆ เป็นสิ่งที่ดี ดันมีนโยบายจาก "บุคคลที่คุณก็รู้ว่าคือใคร" ให้สาว ๆ บัญชีต้องทำงานวันเสาร์เริ่ม 6 ธ.ค. เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี
                    ให้ตายเหอะ!!!!! ทุกอย่างพวกเราพร้อมกันหมดแระ เงินก็จ่ายไปหมดแล้วทุกอย่าง ขาดก็แต่ ค่าอาหาร กะ เติมน้ำมันสำหรับรถเช่า  งานนี้ พวกเราเลยมีอาการ "งานเข้า  ตรูละเบื่อ!!!!" กานเป็นแถว ๆ  แต่ทำงัยได้ The show must go on++  พวกเราเลยต้องเบี้ยว  หนีงาน  (ทำงัยได้ชอบสอนให้ต้องวางแผนในการทำงาน  เลยวางแผนมันซะทุกเรื่องเลย) 
ทริ ปนี้พวกเราเช่ารถของ Europe Car รับรถที่เชียงใหม่ จองในงานท่องเที่ยว ราคาไม่แพง พร้อมที่พักบนถนนช้างเผือก ราคาแสนจะย่อมเยาว์  ที่พักก็โอเคดี (จองในงานเหมือนกาน) งานนี้พอไปรับรถที่ Europe Car  ปรากฎว่าได้รถ Ford Focus เครื่อง 2000  ใหม่มาก ๆ  ขอบอก บริการที่นั่นโอเคเลย ขับรถออกจากเชียงใหม่ เวลาประมาณ 9.00 น. มุ่งหน้าแม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-บ้านอรุโณทัย-จุดมุ่งหมายปลายทางคือดอยอ่าง ขาง
                    ลืมบอกไปว่าทริปนี้ได้จัดทำโครงการ "บริจาคหนังสือ อุปกรณ์เครื่องเขียน และอุปกรณ์กีฬา ให้กับเด็ก ๆ บนดอย ที่หมู่บ้านขอบด้ง" กันด้วย  ได้หนังสือมือสองประมาณ 170 เล่ม เครื่องเขียน  1  1/2กล่อง (ใส่อะไหล่ MMC) ลูกฟุตบอล วอลเล่ย์บอล รวม 6 ลูก  ไม้แบดมินตันพร้อมลูก , ตะกร้อ 4 ลูก แผ่นภาพการศึกษา ซึ่งอุปกรณ์กีฬานี้ซื้อที่ร้าน ๆ อ.แม่แตง ประมาณว่าเทเงินจนหมดกะเป๋าสำหรับเงินที่ได้จากการร่วมทำบุญ ซึ่งยอดเงินร่วมทำบุญได้ประมาณ 3200 บาท  งานนี้นอกจากไทยเที่ยวไทยแล้ว ยังได้รู้จักการแบ่งปันให้กับเด็ก ๆ ที่ห่างไกลชนบทอีกด้วย อนุโมทนาบุญกะเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ร่วมโครงการนะคะ
                    สำหรับการขับรถขึ้นดอยของพวกเราที่ไม่เคยมีใครไป ยกเว้นตัวเองแล้ว เลยต้องทำหน้าที่เป็นไกด์นำทาง  ต้องยกความดีความชอบให้กะการไปเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว ขอบคุณพี่คนนั้น และเพื่อนรัก ที่ยอมไปเที่ยวด้วย เลยทำให้คุ้นเคยกะเส้นทาง เลยบอกทางถูก  งานนี้เพื่อนศิริของเรานั่งหน้า แต่เมารถอ่ะ  ดีที่ไม่มีอาการพุ่งออกมา ขาขึ้น ขึ้นทางบ้านอรุโณทัย ขากลับลงทางฝาง   งานนี้โต้งของพวกเราสอบผ่านฉลุย  สาวต่ายเลยบอกว่า "ทริปหน้าต้องดอยแม่สลองซะแร้ว..ววว"  งานนี้โต้งได้แต่ส่ายหัว ไปมา "อ้ายพวกนี้ มันเอากันอีกแล้ว"  อาจจะคิดในใจ "ตรูล่ะเบื่อมันจริง ๆ "  แต่ทำงัยได้ ดันมาเป็นเพื่อนเขยในกลุ่มเราซะแล้ว
ถึงดอยอ่างขาง พอดีเวลาเที่ยงตรงเป๊ะ เข้าที่พัก เข้าไปเที่ยวในโครงการหลวง ถ่ายรูปซะมากมาย ได้เวลาหม่ำของอร่อย ขาหมูยูนาน หมั่นโถ, เมนูส่วนใหญ่จะเป็นพวกผักจากโครงการ ตื่นแต่ตีห้า ขับรถขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว ไปบริจาคของที่ รร.บ้านขอบด้ง ละอ่อนน้อย ๆ 4-5 คนกับคุณครู มารับมอบสิ่งของ ขาลงแวะไปไหว้พระธาตุดอยอ่างขาง (ครั้งที่แล้วไม่ได้แวะไปไหว้) ก่อนจะกลับที่พักเพื่อเช็คเอ้าท์ เพื่อลงไปฝาง
                    จากนั้นพวกเรามาต่อกันที่น้ำพุร้อนฝาง หรือชื่อเดิม คือ "อุทยานแห่งชาติแม่ฝาง"  ปัจจุบันคุ้นเคยกันดีในนาม "อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก" แต่ไปคราวนี้ เปลี่ยนชื่อเป็น "อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก" ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ ที่ได้พระราชทานโครงการ "บ้านเล็กในป่าใหญ่" ความรู้อันนี้ได้มาจากเจ้าของร้านกาแฟ ภายในอุทยาน เค้าบอกมาค่ะ ที่น้ำพุร้อน พวกเราต้มไข่กัน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หม่ำกันคนละฟอง และไม่ลืมเขียน post card ถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ร่วมงาน คนละใบ อยากให้ได้มาเที่ยวเหมือนกัน ออกจากฝาง ขับรถกลับเชียงใหม่ เพื่อ check-in เข้าที่พักที่ถนนช้างเผือก งานนี้ในตัวเมือง เป็นไกด์ได้เฉพาะที่เคยไป ที่ไม่เคยไป เราพึ่ง GPS ซะเป็นส่วนใหญ่ งานนี้ Hi-Tech กันจริง ๆ เรื่องยาก ๆ ของเส้นทางในตัวเมืองกลายเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ ของพวกเรา  ถึงตัวเมืองประมาณ 16.30 น. นอนเล่นพักผ่อนเพื่อรอเวลาไปทำกิจกรรมสำคัญ นั่นคือการ shopping @ ถนนคนเดินวันเสาร์ ที่ ถ.วัวลาย  งานนี้เพื่อนศิริของเราซื้อของเห็นว่าหมดตังค์ไป 3 พันกว่าบาท (รวมของที่พี่ ๆ ฝากซื้อ และซื้อฝากพี่ ๆ)   นับว่าเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจจริง ๆ เลยเพื่อนตรู!!!  นับถือ ๆ ๆ  วิญญาณสาวนักช๊อป กลับถึงที่พัก อาบน้ำ พากันหลับไหล กะการเหนื่อยมา 2 วัน 1 คืน แต่คนที่ดูน่าเป็นห่วงที่สุด คือ เพื่อนโต้ง ที่ทำหน้าที่พลขับเพียงคนเดียว เตรียมตัวสำหรับการตะลุย ตัวเมืองเชียงใหม่ วันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ ที่เหลืออีก 1 วัน


อัพเดทล่าสุด