https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
แมนพาวเวอร์ ปรับแผนธุรกิจ รับผลิตสินค้าสร้างความต่าง MUSLIMTHAIPOST

 

แมนพาวเวอร์ ปรับแผนธุรกิจ รับผลิตสินค้าสร้างความต่าง


614 ผู้ชม


แมนพาวเวอร์ ปรับแผนธุรกิจ รับผลิตสินค้าสร้างความต่าง




ไซมอน แมทธิวส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) ผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานเล่าถึงแนวทางการทำธุรกิจในวาระครอบรอบ 10 ปีว่า จากการแข่งขันที่สูงของบริษัทเฮดฮันเตอร์ในประเทศทำให้ตนต้องพยายามหาการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยจะเริ่มรุกการทำงานเป็นแบบเอาซอร์สที่รับจ้างผลิตสินค้าให้กับลูกค้าอย่างครอบวงจร ซึ่งต่างจากเดิมที่บริษัทเพียงจัดหาคนงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
       
        ตนถือว่าเป็นบริษัทแรกๆ ในประเทศที่จะรุกแนวทางการทำธุรกิจโดยการรับจ้างผลิตสินค้า เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้องค์กรไม่กล้าจ้างพนักงานใหม่มาทำงานในแผนกที่ไม่สำคัญต่อองค์กรมากนัก ซึ่งการจ้างบริษัทเอาตซอส์รับจ้างผลิตก็เป็นอีกทางออกเพื่อช่วยลดต้นทุนในการจ้างพนักงานหากบริษัทต้องการปิดตัวแผนกดังกล่าว
       
        ปัจจุบันมีกว่า 30 บริษัทที่ให้บริษัทเข้าไปรับจ้างผลิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจข้ามชาติที่มีความเข้าใจการให้บริการในลักษณะนี้ ขณะที่ผู้ประกอบการไทยยังไม่มีความเข้าใจเท่าที่ควรเพราะกลัวสินค้าที่ออกมาจะไม่ได้คุณภาพ
       
        สำหรับคนที่จะเข้ามาทำงานในระบบดังกล่าวต้องมีทีมงานที่มีความรู้เฉพาะด้านเช่น ธุรกิจไอทีจะมีผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทที่มีความรู้ด้านไอทีคัดเลือกบุคคลากรเข้าทำงาน เพราะบริษัทต้องมีความเข้มงวดอย่างมากเนื่องจากหากผลิตสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพลูกค้าอาจเลิกจ้างบริษัทได้
       
        ไซมอน ยังเล่าถึงผลประกอบการครึ่งปีแรกว่า มีอัตราการเติบโตกว่า 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยครึ่งปีหลังตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทให้ทะลุ 20% ธุรกิจที่ยังต้องการแรงงานสูงได้แก่ 36.33% อุตสาหกรรมการผลิตยางและพลาสติก อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์การผลิตอุปกรณ์วิทยุ โทรทัศน์และอุปกรณ์สื่อสาร การผลิตเคมีภัณฑ์ รองลงมาคือ ภาคการขนส่ง การขายปลีก มีความต้องการแรงงานประมาณ 25.54% และภาคอสังหาริมทรัพย์มีความต้องการแรงงานประมาณ 11.92%
       
       โดยครึ่งปีหลังจะมีตำแหน่งงานว่างรับพนักงานใหม่ในตลาดมากกว่า 10% โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานขายของ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ผู้จัดการ ฝ่ายต่างๆ
ที่มา ; โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์

อัพเดทล่าสุด