https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
ข้อสอบโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกพร้อมเฉลย ปี2550 mind map โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก สรุปเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก MUSLIMTHAIPOST

 

ข้อสอบโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกพร้อมเฉลย ปี2550 mind map โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก สรุปเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก


2,735 ผู้ชม


ข้อสอบโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอกพร้อมเฉลย ปี2550 mind map โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก สรุปเรื่อง โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก

ข้อสอบ บทที่ 12 โครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก

  • 1. พืชสีเขียวชั้นสูงที่เจริญบนบก แสดงการปรับตัวเองให้เหมาะสมเป็นพิเศษกับหน้าที่ของมันในแง่การผลิตอาหารให้แก่กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มันเจริญอยู่ คือ
    1. มีใบแบนบางสีเขียวดักรับแสง 
    2. มีผลและเมล็ดที่สะสมอาหาร
    3. มีระบบรากที่สามารถแผ่ไปได้ไกล 
    4. มีลำต้นที่แข็งแรงและอายุยืน
  • 2. โครงสร้างของพืชที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม ที่แห้งแล้งแบบทะเลทราย คือ
    1. ลำต้นอวบน้ำ 
    2. มีชั้น Cork เกิดขึ้น
    3. มีใบลดรูปเป็นหนาม 
    4. มีปากใบจมลึก
  • 3. ในรากของพืชส่วนใดที่ทำหน้าที่ในการดูดน้ำและแร่ธาตุต่าง ๆ
    1. ปลายสุดของราก 
    2. รากขน
    3. ทุกส่วนของรากที่อยู่ใต้ผิวดิน 
    4. 1 และ 2 เป็นำตอบที่ถูกต้อง
  • 4. วงปี (annula ring) ของพืชเกิดขึ้นได้
    1. ทั้งในลำต้นและรากพืชใบเลี้ยงคู่
    2. เฉพาะในลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่เท่านั้น
    3. ในลำต้น รากพืชใบเลี้ยงคู่ ทุกชนิดและในลำต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวบางชนิด
    4. ในลำต้นของพืชจำพวกสน
  • 5. ถ้าตัดลำต้นของพืชที่ขึ้นอยู่ในน้ำ เช่น ผักกะเฉด ตามขวาง เนื้อที่ที่พบในชั้นคอร์เทอกซ์ส่วนใหญ่ จะประกอบด้วย
    1. chlorenchyma , sclerenchyma , parenchyma
    2. collenchyma , chlorenchyma , parenchyma
    3. chlorenchyma , sclerenchyma , air space
    4. chlorenchyma , parenchyma , air space
  • 6. ต้นกระบองเพชรมีน้ำอยู่ภายในต้นมากเพราะ
    1. ต้นกระบองเพชรมีลำตนใหญ่และอ่อนนุ่มอุ้มน้ำไว้ได้มาก
    2. ต้นกระบองเพชรสามารถดูดน้ำได้มาก
    3. ต้นกระบองเพชรมีการคายน้ำน้อยและสะสมน้ำไว้มาก
    4. ต้นกระบองเพชรไม่มีการคายน้ำเลยเพราะไม่มีใบ
  • 7. เซลล์ที่ขูดออกหลังการควั่นและลอกเปลือกไม้เพื่อตอนกิ่งไม้ คือ
    1. parenchyma 
    2. phloem
    3. cambium 
    4. xylem
  • 8. อาหารที่พืชสร้างขึ้นมักจะนำไปสะสมไว้ที่เซลล์ชนิด
    1. sieve tube 
    2. sclerid
    3. parenchyma 
    4 spongy cell
  • 9. พืชที่มีปริมาตรทัดเทียมกันกับพวกใดน่าจะมีปริมาณน้ำเก็บเอาไว้น้อยที่สุด
    1. พืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ 
    2. พืชพวก xerophyte
    3. พืชพวก parasite 
    4. พืชพวก epiphyte
  • 10. น้ำยางจากต้นยางพาราที่เรากรีดได้ ส่วนใหญ่จะได้จากเซลล์ที่พบในเนื้อเยื่อพวก
    1. cortex 
    2. phloem
    3. xylem 
    4. epidermis
  • 11. พืชที่มี root hair หรือไม่มีก็ได คือ 
    1. พืชที่ลอยอยู่ในน้ำ 
    2. พืชที่ขึ้นในที่มีน้ำน้อย
    3. พืชที่ขึ้นในดินที่การถ่ายเทอากาศไม่สะดวก 
    4. พืชที่ขึ้นในดินที่มีสภาพเป็นกรดหรือด่างมาก
  • 12. การที่ต้นทุเรียนมีขนาดความกว้างของลำต้นใหญ่กว่าต้นหมากที่มีอายุเท่ากันและปลูกอยู่บริเวณใกล้ ๆ กันเป็นเพราะ
    1. ต้นทุเรียนมีแคมเบียม ต้นหมากไม่มี
    2. จำนวนกลุ่มท่อลำเลียงของต้นทุเรียนมีมากกว่าต้นหมาก
    3. ต้นทุเรียนมีการเรียงตัวของกลุ่มท่อลำเลียงเป็นระเบียบมากกว่าต้นหมาก
    4. เซลล์ของต้นทุเรียนแบ่งตัวได้รวดเร็วกว่าเซลล์ของต้นหมาก
  • 13. ส่วนของรากที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดต่อการลำเลียงน้ำ คือ
    1. เอพิเดอร์มิส 
    2. คอร์เทกซ์
    3. เอนโดเดอร์มิส 
    4. เพริไซเคิล
  • 14. พืชลำเลียงเกลือแร่จากรากไปใบได้เร็วที่สุดโดยอาศัย
    1.แรงดันราก 
    2.คอร์เทกซ์
    3. แรงดึงจากการคายน้ำ 
    4.แอกทิฟทรานสปอตร์ต
  • 15. ใน cotex ของพืชใบเลี้ยงคู่ มักจะประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลายชนิด เช่น collenchyma, sclerenchyma และ parenchyma เพราะเหตุใด parenchyma จึงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปเป็น cambium ได้ดีกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆ
    1.เพราะมี parenchyma ใน cortex มากกว่าเนื้อเยื่อชนิดอืน
    2. เพราะเซลล์มีผนังบางแบะเป็นเซลล์มีชีวิตอยู่
    3.เพราะเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงชนิดเดียวใน cortex
    4.เพราะมีความสามารถในการแบ่งเซลล์ได้ดีกว่าและเจริญได้เร็วกว่า
  • 16. ใบไม้จะแห้งตอนกลางวัน เนื่องจาก
    1. ดินมีน้ำน้อย 
    2. พืชคายน้ำเร็วกว่าดูดน้ำ
    3. พืชคายน้ำมากกว่าขึ้น 
    4. พืชคายน้ำได้น้อยลง
  • 17. ผลจากการเจริญขั้นที่ 2 (secondary growth) ของพืชใบเลลี้งคู่ ทำให้อวัยวะของพืชเช่น ราก และลำต้น...
    1. มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น 
    2. มีความยาวและส่วนสูงเพิ่มขึ้นตามลำดับ
    3. เพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาว 
    4. ทำให้รากและลำต้นมีอายุยืนยาว
  • 18. ถ้าเปรียบเทียบเซลล์เป็นห้องต่างๆ ภายในบ้านเดียวกัน ท่านคิดว่าห้องไหนคับแคบมากที่สุด
    1. cork 
    2. fiber
    3. tracheids 
    4. collenchyma
  • 19. รากของพืชชนอดหนึ่งที่เจริญเต็มที่แล้วมีขนราก (root hair) มากมายทำหน้าที่ในการดูดซึมสารจากสิ่งแวดล้อม อยากทราบว่าอีก 3 เดือน ต่อมาโครงสร้างของขนรากที่กล่าวถึงจะเป็นอย่างไร
    1. ยาวขึ้น 
    2. ตายและหลุดไป
    3.เหมือนเดิมแต่ไม่ทำงาน 
    4. มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามอายุของราก
  • 20. เมื่อมะม่วงอายุ 20 ปี ท่านคิดว่าควรจะมัส่วนประกอบของเนื้อเยื่อชนิดใดน้อยที่สุด
    1. ไซเลมระยะแรก 
    2. ไซเลมระยะที่สอง
    3. วาสคิวลาร์แคมเบียม 
    4. มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามอายุของขนราก


แหล่งที่มา : lks.ac.th

อัพเดทล่าสุด