https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
เศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน พลังงานทดแทน ทิศทาง พืชพลังงาน ของไทย MUSLIMTHAIPOST

 

เศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน พลังงานทดแทน ทิศทาง พืชพลังงาน ของไทย


672 ผู้ชม


 ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง น้ำมัน ดิบมีราคาต่ำกว่า  50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศไทยปรับตัวลดลงตามไปด้วย
 
          ย้อนไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเฉียด 150  เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในระยะสั้นรัฐบาลได้ใช้มาตรการในด้านภาษี ส่วนระยะยาวก็คือ การหาพลังงานทดแทน และที่มีความเป็นไปได้สูงก็คือ พลังงานทดแทนจากพืช ดังนั้นรัฐบาลจึงคลอดยุทธศาสตร์พืชพลังงานทดแทนออกมา
 
เมื่อราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง

          อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์พืชพลังงานทดแทนหรือไม่อย่างไร
   
           นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ  จะดำเนินการตามแผนส่งเสริมการปลูกพืชพลังงาน ตามยุทธศาสตร์พืชพลังงานทดแทนต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติชัดเจน ให้กระทรวงการคลังสนับสนุนงบประมาณเพื่อผลักดันพืชพลังงาน ในส่วนของอ้อยประมาณ 13,000 ล้านบาท มันสำปะหลังประมาณ 9,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงบประมาณเพื่อการสนับสนุนงานวิจัย ซึ่งพืชพลังงานถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯที่จะขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม 
 
          สำหรับพืชพลังงานทดแทนที่เหมาะกับประเทศไทยมากที่สุดนั้น จากการศึกษาวิจัยมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีพบว่า มันสำปะหลังและอ้อยจัดเป็นพืชที่มีแนวโน้มในการนำมาผลิตเอทานอลได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นพืชที่มีการปลูกภายในประเทศ เกษตรกรมีความชำนาญในการปลูก หากมีการนำเทคโนโลยีเข้าไปส่งเสริมแล้วการเพิ่มผลผลิตจะทำได้ไม่ยาก
 
          การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์พืชพลังงานของรัฐบาลนั้น กรมวิชาการเกษตรถือเป็นหน่วยงานหลักหน่วยงานหนึ่งที่ได้ดำเนินงานในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง 
 
          ซึ่งนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดี กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้ปรับกระบวนการวิจัยด้านการเกษตรของประเทศใหม่ เพื่อรองรับอนาคต โดยหวังผลงานวิจัยว่า จะต้องมีผู้นำไปใช้ให้ได้มากที่สุด  โดยได้ตั้งเป้างานวิจัยทางการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของชาติ โดยเน้นเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต หากเป็นพืชเศรษฐกิจจะต้องเน้นการปรับปรุงคุณภาพ เพื่อการส่งออก ทั้งนี้กลุ่มที่เน้นหนักคือ พืชพลังงาน
 
          นอกจากนี้กรมวิชาการเกษตรยังนำผลงานวิจัยต่าง ๆ เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตพืชพลังงาน โดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก  เพื่อไม่ให้กระทบต่อ สัดส่วนที่จะนำมาใช้ในการผลิตอาหาร 
 
          เมื่อนำนโยบายของรัฐบาล และหน่วยงานภาคปฏิบัติที่ยังให้ความสำคัญของพืชพลังงาน ประกอบกับสถานการณ์ ราคาน้ำมันที่มีช่องห่าง ของราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์ซึ่งเป็นน้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอทานอลที่พืชพลังงานแล้ว พืชพลังงานทดแทนไม่น่าจะได้รับผลกระทบ
 
          ราคาน้ำมันเบนซินในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 ณ สถานีบริการน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ยังคงมีราคาสูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์   โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 91 มีราคาเฉลี่ย 22.99 บาทต่อลิตร และน้ำมันเบนซินออกเทน 95 มีราคาเฉลี่ยระหว่าง 26.99-27.99 บาทต่อลิตร  
 
          ถึงกระนั้นก็ตามน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ก็ยังมีราคาถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับน้ำมันที่มีค่าออกเทนเท่ากัน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 17.49 บาทต่อลิตร ถูกกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 91 กว่า 5.50 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 18.25 บาทต่อลิตร ถูกกว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เกือบ 10.00 บาทต่อลิตร  และยิ่งนำไปเปรียบเทียบกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E-20 ซึ่งราคาลิตรละ 16.99 แล้ว น้ำมัน E-20 จะมีราคาถูกกว่าถึง 11  บาทต่อลิตร
 
         จากราคาน้ำมันดังกล่าวจะเห็นได้ว่า แม้ราคาน้ำมันเบนซินจะมีราคาลดลงกว่าเดิมมาก ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ก็ลดลงมากเช่นเดียวกัน และยังถูกกว่าราคาน้ำมันเบนซินประมาณ 5-10 บาทต่อลิตร หากช่วงห่างราคาน้ำมันทั้ง 2 ประเภท เป็นเช่นนี้ เชื่อว่า ประชาชนก็ยังใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เช่นเดิม และในทางตรงข้ามยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ล้วนจะผลิตออกมาเพื่อรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทั้งสิ้น
 
          ดังนั้นจากเหตุผลข้างต้นดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่า ยุทธศาสตร์พืชพลังงานทดแทนของประเทศ จะไม่สะดุดแน่นอน แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงก็ตาม เพราะพืชพลังงานไม่ใช่แค่จะสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศเท่านั้น แต่ยังจะทำให้ช่วยพี่น้องเกษตรกรขายผลผลิตอ้อยและมันสำปะหลังได้ในราคาที่ยุติธรรม สามารถลดมลพิษในอากาศ ลดดุลการค้าระหว่างประเทศ และมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไปอีกด้วย
 
          ราคาน้ำมันที่ลงลดอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเรื่องพลังงานทดแทนมีความมั่นใจกันว่าน่าจะไม่กระทบต่อยุทธศาสตร์พืชพลังงานของไทย และความฝันที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นโอเปกด้านพืชพลังงานแห่งที่ 2 ของโลกรองจากประเทศบราซิลนั้นก็ยังคงเป็นความหวังที่สามารถมองเห็นรูปธรรมอยู่.
ที่มา https://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=285

อัพเดทล่าสุด