ดิฉันชอบและเลื่อมใสในคำสอนหลาย ๆ อย่างของศาสนาอิสลาม อยากทราบว่า
1. คำสั่งสอน หรือเกณฑ์การปฎิบัติของอิสลามทั่วโลกเหมือนกันหรือไม่ มีการแบ่งหรือไม่ว่านิกายใด สอนแบบใด
2.ถ้าอยากเข้ารับศาสนาอิสลามต้องทำอย่างไร
3.ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เป็นอิสลามด้วย (นับถือศาสนาเดิม) จะเป็นอย่างไร มีผลดีหรือไม่ดีอย่างไรคะ ... ขอบคุณค่ะ
------------
ขอตอบคำถามของคุณ YEE ในข้อสองก่อนนะครับ ถ้าคุณ YEE มีความชอบและเลื่อมใสในคำสอนของศาสนาอิสลาม และประสงค์อย่างจริงใจด้วยความแน่วแน่ ก็ขอให้คุณ YEE กล่าวถ้อยคำต่อไปนี้โดยมีสติระลึกรู้ รู้ตัวรู้ตน และรู้ใจตนเองว่า
“อัชฮะดุ้ อัลฺลาอิลาฮ้า อิลฺลัลฺลอฮุ้ ว่า อัชฮะดุ้ อันฺน่ามุฮัมฺมะดัร ร่อซู้ลุลฺลอฮี่”
ซึ่งมีความหมายว่า “ข้าพเจ้าขอให้สัตย์ปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และข้าพเจ้าขอให้สัตย์ปฏิญาณว่า แท้จริง มุฮัมมัด คือศาสนทูตของอัลลอฮฺ”
หากคุณ YEE กล่าวท่อนบนที่เป็นคำอาหรับไม่ได้ ก็กล่าวถ้อยคำภาษาไทยเพียงอย่างเดียวก็ได้ แต่ที่ดีคุณ YEE ลองอ่านคำภาษาอาหรับก่อนจะชัด หรือตะกุกตะกัก ก็ไม่เป็นไร และกล่าวถ้อยคำที่เป็นภาษาไทยพร้อมมีสติระลึกรู้ให้ถ้อยคำภาษาไทยนั้นออกมาจากหัวใจ
เพียงเท่านี้ คุณ YEE ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้ารับอิสลามแล้ว คุณ YEE ก็กลายเป็นมุสลิมะฮฺ คือ สตรีผู้นอบน้อมยอมจำนนต่อองค์อัลลอฮฺ โดยประโยคแรกเป็นการปฏิเสธพระเจ้าที่ถูกอุปโลกน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ก้อนหิน รูปเคารพ คน สัตว์ รูปสัญลักษณ์ ดวงดาว และสิ่งถูกสร้างทั้งปวง และยืนยันความเป็นพระผู้เป็นเจ้าที่ถูกเคารพสักการะโดยเที่ยงแท้เพียงหนึ่งเดียว คือพระองค์อัลลอฮฺ พระผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง
คุณ YEE คือบ่าวของพระองค์ซึ่งพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงสร้างและประทานชีวิตให้ และจะถวายการเคารพสักการะ ศรัทธา และเชื่อมั่นในพระองค์เพียงพระองค์เดียว คุณ YEE ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ศรัทธาที่รักพระองค์จนหมดจิตหมดใจ ไม่เผื่อใจให้แก่สิ่งอุปโลกน์ที่เป็นพระเจ้าจอมปลอมทั้งปวง รักเดียวใจเดียว สักการะพระองค์เพียงผู้เดียวเป็นบ่าวผู้มีนายหนึ่งเดียวคือ
พระองค์อัลลอฮฺ พระผู้ทรงเอกะ ไม่ใช่ข้าหลายเจ้า บ่าวหลายนายอีกต่อไป พระองค์เป็นที่พึ่ง และเป็นที่มอบหมายในภารกิจทั้งปวง พระองค์ไม่พึ่งพาสิ่งใด แต่ทุกสรรพสิ่งต้องพึ่งพาพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระผู้ทรงสร้าง แต่พระเจ้าอุปโลกน์เป็นสิ่งถูกสร้างด้วยน้ำมือของมนุษย์ และเป็นไปตามจินตนาการของมนุษย์
พระองค์อัลลอฮฺมิใช่พระผู้เป็นเจ้าที่มนุษย์สร้าง และไม่ได้เป็นไปตามจินตนาการของมนุษย์ ไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์ และพระองค์ไม่เหมือนสิ่งใด พระองค์ไม่มีภาคีหุ้นส่วน พระองค์ไม่มีผู้ช่วย และไม่มีพระบุตร พระองค์ทรงอยู่เหนือกาลเวลา และพระองค์ทรงสูงสุดเหนือทุกสรรพสิ่ง
นี่คือนัย และเนื้อหาหลักของประโยคแรก
ส่วนประโยคที่สองในคำปฏิญาณนั้น เป็นการยืนยันและยอมรับว่านบีมุฮัมมัด (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) คือศาสนทูตของอัลลอฮฺ ที่พระองค์ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ประกาศสาส์นคือ อิสลามแก่มนุษยชาติ และหมู่อมนุษย์ทั้งปวง การจะรู้จักพระองค์อัลลอฮฺ พระผู้ทรงสูงส่ง และมหาบริสุทธิ์ได้ก็ต้องผ่านการบอกของผู้นำสาส์นคือ ทูตของพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ ทรงเลือกสรรจากมนุษย์ผู้ประเสริฐสุดในหมู่มวลมนุษย์ด้วยกัน คือ นบีมุฮัมมัด (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ศาสนทูตท่านสุดท้ายของพระองค์ที่จะไม่มีศาสนทูตใดอีกหลังจากท่าน
นบีมุฮัมมัด (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) คือบ่าวผู้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺเป็นที่สุด มีมารยาทงดงามเป็นที่สุด เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดที่มุสลิมทุกคนต้องศรัทธา ท่านเป็นผู้สืบสานสาส์นของพระผู้เป็นเจ้าที่มีมาก่อนท่าน สาส์นที่ท่านประกาศเป็นสาส์นเดียวกันกับที่ โนอาหฺ (นูหฺ) อับราฮัม (อิบรอฮีม) โมเสส (มูซา) จีซัส – เยซู (อีซา) และเหล่าศาสดาประกาศกทั้งหลายคือสาส์นที่ประกาศถึงความเป็นพระผู้เป็นเจ้าหนึ่งเดียวของอัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์บอกผ่านศาสนทูตของพระองค์ทรงมีอยู่ ทรงดำรงอยู่ ทรงมีคุณลักษณะอันสมบูรณ์หมดจด พระองค์บอกผ่านศาสนทูตของพระองค์ให้แจ้งแก่มวลมนุษย์ว่าจะเคารพสักการะต่อพระองค์อย่างไร สาส์นที่เป็นหนึ่งเดียวนี้คือ อิสลาม ศาสนาหนึ่งเดียวทั้งในชั้นฟ้า และผืนแผ่นดิน
เมื่อคุณ YEE ทำความเข้าใจในเบื้องต้นเกี่ยวกับนัยของสองประโยคข้างต้นแล้ว ก็ขอให้คุณ YEE กล่าวซ้ำทวนประโยคทั้งสองนี้ในทุกขณะที่ระลึกได้ กล่าวซ้ำไปซ้ำมาให้ขึ้นใจ ให้ติดปาก จนมั่นใจว่า 2 ประโยคนี้ ตราตรึงอยู่ในหัวใจของคุณ หากจะกล่าวซ้ำทวนแบบสั้นๆว่า “ ลาอิลาฮ้า อิลฺลัลฺลอฮฺ มุฮัมมัดฺ ร่อซูลุ้ลฺลอฮิ” ก็ได้ โดยให้กล่าวถ้อยคำสั้นๆ นี้ หลังจากกล่าวประโยคปฏิญาณแล้ว (คือประโยคยาวพร้อมความหมาย)
หลังจากนี้ให้คุณ YEE อาบน้ำชำระร่างกายให้ทั่วทุกขุมขน และให้รำลึกอยู่เสมอว่า คุณเป็นมุสลิมะฮฺ คือสตรีผู้ยอมรับอิสลามเป็นสรณะแล้ว คุณตัดขาดจากความเชื่อเดิมในศาสนาเดิม ตัดขาดจากพิธีกรรมทางศาสนาเดิมทั้งสิ้นแล้ว ไม่ข้องแวะ ไม่ยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว และคุณเป็นไทแก่ตัวแล้ว คือคุณไม่ตกเป็นทาสของสรรพสิ่งทั้งหลายที่ถูกอูปโลกน์ขึ้นเป็นเจ้า เพราะสิ่งเหล่านั้นเหมือนกับคุณคือเป็นสิ่งถูกสร้างเช่นกัน
คุณเป็นบ่าวของพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวคือ “อัลลอฮฺ” หมั่นออกนามของพระองค์ให้ขึ้นใจ และโปรดรับรู้ไว้ด้วยว่า ความดีทั้งหลายที่สอดคล้องกับคำสอนของศาสนาอิสลาม เช่นการบริจาคทาน การช่วยเหลือผู้คน การมีมารยาทที่งดงาม การรักนวลสงวนตัวที่ทั้งหมดถูกปฏิบัติเมื่อครั้งอยู่ในศาสนาเดิม บัดนี้พระองค์อัลลอฮฺทรงบันทึกความดีเหล่านั้นให้เป็นทุนแห่งกุศลกิจของคุณแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่สูญเปล่า และคุณก็ไม่ได้เริ่มจากศูนย์แต่คุณมีความดีเหล่านั้นเป็นทุนแห่งกุศลกิจแล้ว
และโปรดรับรู้ไว้ด้วยว่า เมื่อคุณรับอิสลามเป็นแนวทางของชีวิตคุณแล้ว อิสลามได้ลบล้างบาปและความผิดที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นทั้งหมดแล้ว คุณจึงมิได้เริ่มจากศูนย์ แต่คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความหมดจดทั้งกาย วาจา ใจแล้ว หลังจากนี้คือการเริ่มเรียนรู้ศึกษาเรื่องราวหลักความเชื่อของศาสนาอิสลาม หลักการปฏิบัติ การประกอบศาสนกิจ การครองตน และใช้ชีวิตเยี่ยงชาวมุสลิมทั่วไป
ในศาสนาอิสลาม มีนิกายก็จริง เช่น สุนนียฺ กับชีอะฮฺ ซึ่งเป็นนิกายใหญ่ของชาวมุสลิมทั่วโลก กระนั้นทั้งสองก็มีหลักการปฏิบัติเหมือนกัน คือ มีอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน มีนบีมุฮัมมัด เป็นศาสนทูตท่านเดียวกัน มีการละหมาด 5 เวลา มีการจ่ายทานซะกาต มีการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน และมีการไปประกอบพิธีหัจญ์ ณ กรุงมักกะฮฺ เหมือนกัน
ถือในคัมภีร์ อัล-กุรอานเล่มเดียวกัน อ่านและสวดวิงวอนด้วยภาษาเดียวกัน คือภาษาของคัมภีร์อัล-กุรอาน อันเป็นภาษาอารบิค มุสลิมทุกคนเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะมีสีผิว ภาษา วัฒนธรรมหรืออยู่ในภูมิภาคใดของโลกใบนี้ก็ตาม ชาวมุสลิมสุนนีย์ คือชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในโลก และในประเทศไทย คนรักของคุณก็เป็นสุนนียฺ ผมเองก็เป็นสุนนียฺ ดังนั้นจึงเป็นหนทางอันชอบ และเหมาะสมแล้วที่คุณจะดำเนินชีวิตตามแบบมุสลิมสุนนียฺ นี่คือคำตอบของข้อที่ 1, 2
ส่วนคำตอบของข้อที่ 3 หากคุณพ่อคุณแม่ หรือพี่น้องของคุณไม่ได้เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามก็มิใช่ปัญหาในความเป็นมุสลิมของคุณ ท่านทั้งสองยังคงเป็นบุพการีย์ผู้มีพระคุณที่คุณต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบกับท่านในฐานะของบุตรี พวกเขาก็ยังคงเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตที่คุณต้องปฏิบัติดีด้วยในฐานะพี่น้อง
คุณสามารถปฏิบัติดีกับท่านทั้งสอง และพวกเขาได้ดังเดิม เพราะคุณยังคงเป็นบุตรีของท่านทั้งสอง เพราะคุณยังคงเป็นพี่น้องร่วมสายโลหิตของพวกเขา เพียงแต่เมื่อคุณเป็นมุสลิมะฮฺแล้ว คุณมีอิสลามเป็นหลักชัยแล้ว เรื่องใดที่เป็นที่ต้องห้ามในศาสนาอิสลาม ก็มิอาจปฏิบัติกับท่านทั้งสอง และพวกเขาได้อีกต่อไป เช่น จะกราบท่านทั้งสองมิได้แล้ว เพราะเรากราบได้เฉพาะพระผู้เป็นเจ้าของเราเพียงพระองค์เดียว
เราจะร่วมในพิธีกรรมศาสนาของท่านทั้งสองไม่ได้แล้ว เพราะเราถือศาสนาต่างกัน ศาสนาของท่านก็คือศาสนาของท่าน ศาสนาของเราคือศาสนาของเรา เราเชื่ออย่างหมดจิตหมดใจแล้ว
แต่จงรับรู้และเตรียมใจกับการทดสอบความศรัทธาของคุณ คุณพ่อคุณแม่ และพี่น้องอาจจะไม่เข้าใจ และไม่เห็นดีด้วย แต่อย่าท้อถอยและถอดใจ จงตั้งมั่นในศรัทธา จงเชื่อมั่นในอิสลามว่าเป็นทางรอดที่เราพบแล้วด้วยพระกรุณาของอัลลอฮฺ จงมีขันติธรรม และวางใจในพระองค์
จงใช้วาจาสุภาพในการบอกกล่าว จงทำให้ประจักษ์แจ้งถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีที่เกิดขึ้นกับตัวคุณ แสดงให้ท่านทั้งสองและพี่น้องเห็นว่า การเป็นมุสลิมมิใช่สิ่งเสียหาย แต่เป็นความงดงามและผ่องใส ซึ่งคุณจะทำได้ดีก็ต่อเมื่อคุณศึกษาเรียนรู้ และทำความเข้าใจกับหลักคำสอนของอิสลาม อิสลามจะมีคำตอบ และคำตอบของคุณจะเกิดได้ด้วยการศึกษาเรียนรู้อิสลาม
ไม่แน่ว่า หากอัลลอฮฺทรงประสงค์พระองค์จะชี้ทางสว่างให้แก่ท่านทั้งสอง และพี่น้องของคุณ แต่ถ้าไม่มีผู้ใดตั้งข้อรังเกียจ และเห็นดีด้วยก็ถือเป็นการเอื้ออำนวยจากพระองค์อัลลอฮฺที่มีต่อคุณ โปรดรับรู้ด้วยว่า หากคุณเข้ารับอิสลามด้วยน้ำใสใจจริง และศรัทธา คุณได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้กับตัวผม และทีมงานในเว็บไซท์อย่างล้ำค่ายิ่งกว่านั้น ผู้ได้ครอบครองฝูงอูฐที่มีขนสีแดง อันเป็นทรัพย์สินที่หายาก และล้ำค่าในโลกสำหรับชาวอาหรับ
ขอให้คุณ Yee ติดต่อหาผม ได้ทางE-mail : ali_sour@hotmail.com เราจะได้พูดคุยกันโดยตรง ผมจะได้แนะนำสถานที่ศึกษาอบรมอิสลามเบื้องต้นให้แก่คุณ ขอบอกคุณตามตรงว่า นี่คือความดีที่สุดสำหรับคุณและผม ขอพระองค์อัลลอฮฺทรงชี้นำทางแห่งความรอดแก่เราทุกคน