https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
โครงงานปลูกส้มโอขาวแตงกวาไร้เมล็ด ( ตอนที่ 3 ) MUSLIMTHAIPOST

 

โครงงานปลูกส้มโอขาวแตงกวาไร้เมล็ด ( ตอนที่ 3 )


829 ผู้ชม


เกิดแนวคิดใหม่ในการดูแลรักษาสวนส้มโอ แบบประหยัด ปลอดภัย และยั่งยืนป้าบุญตาบอกว่า การปลูกส้มโอขาวแตงกวามีรายได้เป็นแสน......ดีกว่าทำนา 30 ไร่ ได้เงินมากกว่า และมีเวลาพักผ่อนมากกว่าไม่ต้องกรำตากฝน และไม่ต้องกลัว   

                      โครงงานปลูกส้มโอขาวแตงกวาไร้เมล็ด ( ตอนที่ 3 )
      เกิดแนวคิดใหม่ในการดูแลรักษาสวนส้มโอ แบบประหยัด ปลอดภัย และยั่งยืน
ป้าบุญตาบอกว่า   การปลูกส้มโอขาวแตงกวามีรายได้เป็นแสน......ดีกว่าทำนา  30  ไร่  ได้เงินมากกว่า  และมีเวลาพักผ่อนมากกว่าไม่ต้องกรำตากฝน และไม่ต้องกลัว
ขาดทุน  
       นางบุญตาเล่าว่าการปลูกส้มโอพันธ์ขาวแตงกวาไร้เมล็ดทำอย่างไร  ธรรมดาส้มโอมีเมล็ดมาก  เริ่มปลูกแรกๆ  ส้มโอก็มีเมล็ดมาก  แต่ในระยะหลังส้มโอก็ไม่ค่อยมีเมล็ด  นางบูญตาเล่าว่า  
ชึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ดูแล  ถ้าใส่ปุ๋ยอินทรีย์อย่างเดียว  ส้มก็จะมีเมล็ดมาก  ถ้าจะให้ไม่มีเมล็ดต้องใส่ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์  ถึงจะดี

           เกิดแนวคิดใหม่ในการดูแลรักษาสวนส้มโอ แบบประหยัด ปลอดภัย และยั่งยืน
รียกว่า "ปุ๋ย อินทรีย์น้ำ" หรือ "ปุ๋ยหมักน้ำ" โดยหลักการทั่ว ๆ ไปนิยมใช้เศษพืชผักผสมกับกากน้ำตาลในอัตราส่วน 3 : 1 หรือใช้เศษเนื้อปลา เนื้อหอยเชอรี่หรือไข่หอยเชอรี่ อย่างใดอย่างหนึ่งผสมกับกากน้ำตาลในอัตราส่วน 1 : 1 แล้วหมักในสภาพไม่มีอากาศเป็นเวลา 15 - 30 วัน ถ้าต้องการใช้ประโยชน์ เร็วขึ้นต้องใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์เร่งกระบวนการย่อยสลายอาจใช้อีเอ็ม หรือ พด.1 ก็ได้

        ปัจจุบันนี้ นางบุญตา เลิกใช้สารเคมีทุกชนิดในสวนส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวา และลดการใช้ปุ๋ยเคมีเกือบ 50% เมื่อคิดค่าใช้จ่าย 
จากเดิมใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมีเป็นเงิน 2,000 บาท/เดือน ปัจจุบันเหลือเพียง 500 บาท/เดือน และในปี 2551 ส้มโอให้ผลผลิตประมาณ 2 ตันครึ่ง
 และยังมีส้มโอนอกฤดูอีกประมาณ ครึ่งตัน จำหน่ายราคากิโลกรัมละประมาณ 25 บาท และได้ศึกษาการผลิตน้ำสกัดชีวภาพจากหลาย ๆ สูตร และหลาย ๆ 
แหล่ง แล้วนำมาปรับใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นแถบจังหวัดชัยนาทและจังหวัดข้างเคียง เพื่อความสะดวกและประหยัดค่าขนส่งในการเดินทาง
ไปหาในพื้นที่ไกล ๆ จึงได้คิดสูตรในการผลิตปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพใช้เอง ดังมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

                         สูตรปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพ     
ส่วนประกอบ

          1. มูลค้างคาว   3 ส่วน
          2. หัวหนอนตายหยาก   1 ส่วน
          3. ใบขี่เหล็ก   1 ส่วน
          4. สะเดา (เมล็ด 3 กก. และใบ 2 กก.) 30 ซีซี
          5. ตะไคร้หอม (ทั้งต้น)  30 ซีซี
          6. เถาหางไหลแดง  1 ส่วน  10 ซ๊ซี


  วิธีทำ 
นำแกลบดำ มูลค้างคาว รำละเอียด ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำกากน้ำตาลอีเอ็ม หรือ พด.1 และน้ำผสมให้เข้ากันแล้วนำมาราด คลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยให้มีความชื้นประมาณ 50% ซึ่งวิธีตรวจสอบความชื้นว่าได้ 50% 
หรือไม่ให้ใช้มือกำส่วนผสมให้แน่นเป็นก้อนแล้วแบมือออก เมื่อใช้นิ้วสัมผัสส่วนผสมที่เป็นก้อนแล้วแตกออก แสดงว่ามีความชื้นประมาณ 50% แต่ถ้ากำแน่นแล้วพอแบมือออกส่วนผสมแตกไม่เป็นก้อนแสดงว่าความชื้นน้อยไป ให้ผสมกากน้ำตาล อีเอ็มและน้ำ รดหรือราดเพิ่มเติม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ในกรณีที่กำส่วนผสมให้แน่น พอแบมือออกแล้วใช้นิ้วสัมผัสส่วนผสมนั้นไม่แตกกระจาย แสดงว่าเปียกเกินไป ให้ใช้แกลบดำผสมเพิ่มขึ้นอีกจนกว่าจะได้ความชื้น 50% 
และเมื่อได้ความชื้นตามความต้องการแล้วนำไปกองกับพื้นปูน หรือบนพลาสติกให้มีความสูงไม่เกิน 15 เซนติเมตร แล้วใช้กระสอบป่านคลุมให้มิดชิดหมักไว้ 3 วัน สามารถนำไปใช้ได้ โดยมีวิธีการตรวจสอบ ดังนี้

           1. ตรวจสอบอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมัก โดยใช้มือแหย่ลงไปในกอง ถ้าอุณหภูมิยังร้อนกว่าอุณหภูมิปกติรอบตัวเรา แสดงว่ายังใช้ไม่ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิในกองปุ๋ยหมักเท่ากับอุณหภูมิปกติรอบตัวเราแสดงว่าใช้ได้
         2. ดมกลิ่นปุ๋ยที่เราหมักไว้ จะมีกลิ่นหอมอมเปรี้ยวแสดงว่าใช้ได้ ต่ถ้ามีกลิ่นเหม็น ให้ใช้อีเอ็ม กากน้ำตาล น้ำ ผสมกันแล้วราดตามขั้นตอนแรก และหมักไว้อีกจนกว่าจะใช้ได้
วิธีการใช้
     1. ใช้โรยรอบทรงพุ่มสำหรับส้มโอ โดยใช้ดูอายุไม้ผลเป็นหลัก เช้น ส้มโอมีอายุ 1 ปี ใช้ 1 กิโลกรัม/ต้น
     2. ใช้ผสมดินสำหรับรองก้นหลุมในการปลูกใหม่ โดยผสมปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพในอัตราส่วน 1 : 4 ของดินที่จะใส่ลงไปในหลุม
     3. ใช้สำหรับโรยเพื่อหมักฟางข้าวในนา โดยโรยบนฟางข้าว ไร่ละ 100 กิโลกรัม และใช้อีเอ็มฉีดพ่นให้เปียกชุ่มแล้วหมักไว้ 15 วัน

       ในการปลูกส้มโอไร้เมล็ดของสวนบุญตา  เพราะปุ๋ยเคมีราคาแพงในราคาลูกละ  1,400  บาท  และใส่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวส้มโอก็มีรสชาติไม่อร่อยก็ไม่ดีต้องใส่ปุ๋ย
หมักแห้งชีวภาพที่มีประสิทธิภาพ  ลดการใช้จ่ายเป็นอย่างมาก  เพราะสวนบุญตาปลูกส้มโอเพิ่มจาก  2  ไร่เป็น  5  ไร่
                       ปลูกส้มโอขาวแตงกวาไร่ละ  40  ต้น  5  ไร่  ปลูกส้มโอขาวแตงกวา  40  X  5  = 200  ต้น
          ใส่ปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพรอบต้น  ต้นละ  1  กิโลกรัม    200  X  1  =   200  กิโลกรัม
          ปุ๋ยเคมี       50  กิโลกรัม                1400  บาท  กิโลกรัมละ   1400  ÷  50  =  28  บาท
           ลดการใส่ปุ๋ยเคมี   200  กิโลกรัม  ลดค่าใช้จ่าย   200 X  28  =  5,600  บาท
   ในแต่ละครั้งที่ใส่ปุ๋ยลดค่าใช้จ่าย  1  ปี ใส่ปีละ  2 ครั้ง  11,200  บาท

             เนื้อหา  สอนการคิดราคาลงทุน   ร้อยละ   การวิเคราะห์โจทย์
             บูรณาการ   การงานอาชีพเทคโนโลยี  การทำปุ๋ยหมัก  วิทยาศาสตร์  สารเคมีต่างๆ
                              สารพิษ   อาชีพในชุมชน
            ประเด็นคำถาม   
                     1. ส้ม 1  ตัน มีกี่กิโลกรัม  ขายส้มโอขาวแตงกวา  6  ตัน ในราคคากิโลกรัมละ
                         25  บาท  คิดเป็นเงินเท่าไร

                    2.  ปุ่ยหมักใส่ต้นละ  1  กิโลกรัม  1  ไร่มี  40  ต้นต้องใส่ปุ๋ยหมักคิดเป็นเท่าไร

                    3.  ปุ๋ยหมักราคากิโลกรัมละ  15  บาท  ปุ๋ย  1  ตัน  คิดเป็นเงินเท่าไร

            ในการปลูกส้มโอไร้เมล็ดต้องเอาใจใส่ดูแล  ผลผลิตที่ได้ก็คุ้มค่ากับความเหน็ดเหนื่อย  ป้าบุญตา  เล่าว่าเขาปลูกส้มโอขาวแตงกวาในการเก็บแต่ละครั้งจะได้ผลผลิต  6  ตัน  ใราคากิโลกรัมละ  25  บาท  คิดเป็นเงิน  6000 X 25  =  150,000  บาท
ในแต่ละคราวจะลงทุนทั้งหมดประมาณ   50,000  บาท  ต่อคราว  ทำให้ได้เงินเป็นกำไรคราวละประมาณ  100,000  บาท
            การปลูกส้มโอขาวแตงกวาไร้เมล็ดลงทุนครั้งสามารถเก็บผลผลิตไปประมาณ  7  ปีจะดีลูกจะไม่เล็กมากรสชาติดี

              ป้าบุญตาบอกว่า   การปลูกส้มโอขาวแตงกวาดีกว่าทำนา  30  ไร่  ได้เงินมากกว่า  และมีเวลาพักผ่อนมากกว่า  ไม่ต้องกรำแดดตากฝน และไม่ต้องกลัวขาดทุน
อาชีพทำสวนส้มโอขาวแตงกวา   เป็นอาชีพหนึ่งที่ทุกคนทำได้  เพราะลงทุนน้อย  ใช้พื้นที่น้อย  แต่รายได้ดีคุ้มค่าเหนื่อย  เหลือกินเหลือใช้  ผลผลิตเป็นที่ขึ้นชื่อเลื่องลือไปทั่ว  ในเรื่องรสชาติ  หวานอมเปรี้ยว  กรอบอร่อย  กุ้งใหญ่  รสเด็ดจริงๆ   ใครมาชัยนาทต้องถามถึงส้มโอขาวแตงกวา..............
จัดทำโดยนางบุญส่ง  ใหญ่โต  ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนอนุบาลสรรคบุรี  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชัยนาท
 ข้อมูลจาก  ป้าบุญตา 
              

ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=755

อัพเดทล่าสุด