https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1 MUSLIMTHAIPOST

 

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1


700 ผู้ชม


เมื่อต้องเข้าสอนแทนแล้วมีเ;ลามากพอ ควรเก็บสิ่งควรรู้เอาไปฝากผู้เรียน เพื่อเพิ่มสรรพรส   

      ครูเนาว์   “สวัสดีจ้ะ วันนี้ครูมาสอนแทนคุณครูอรทัย  ท่านไปราชการจ้ะ  คุณครูฝากให้ช่วยต่องานร้อยมาลัย วันนี้จะร้อยมาลัยกลมใช่ไหม แต่เอ๊! ใครเอาสับปะรดมากองไว้ข้างโต๊ะครูจ๊ะ”
      นักเรียน “ สวัสดีค่ะคุณครู หนูไปปราณบุรีมาค่ะ ซื้อสับปะรดมาฝากคุณครูอรทัย มีหลายลูก หนูแบ่งให้คุณครูด้วย”
  
    ครุเนาว์ “ หนูจ๋านามของสับปะรดเป็นลูกหรือว่าผล! ไม่เป็นไร ไปหาคำตอบเอาเองนะ อือ...เธอเก่งจังหิ้วมาตั้งหลายผลแน่ะ”
      นักเรียน “ครูขาทำไมสับปะรดมีหลายชนิด รูปร่างก็แปลก ๆ
      ครุเนาว์ “ได้..ได้ .. ก่อนร้อยมาลัย มารู้จักสับปะรดกันดีกว่า

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1

สับปะรด (Pineapple)

        สับปะรด (ชื่อทางวิทยาศาตร์: Ananas comosus) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ลำต้นมีขนาดสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร การปลูกก็สามารถปลูกได้ง่ายโดยการใช้หน่อหรือที่เป็นส่วนยอดของผลที่เรียก ว่า จุก มาฝังกลบดินไว้ และออกเป็นผล เปลือกของผลสับปะรดภายนอกมีลักษณะคล้ายตาล้อมรอบผล     แต่ละท้องถิ่นเรียกสับปะรดแตกต่างกันออกไปเช่น  

ภาคกลาง เรียกว่า "สับปะรด"                                                                                                      

ภาคอิสาน เรียกว่า "บักนัด"                                                                                               

ภาคเหนือ เรียกว่า "มะนัด, มะขะนัด, บ่อนัด"                                                                               

ภาคใต้ เรียกว่า "ย่านัด, ย่านนัด, ขนุนทอง" 

       นักเรียน “ โอหลายชื่อจัง แล้วเป็นของไทยหรือเอามาจากไหนคะ”
        ครุเนาว์  “ครุพอรู้อยู่บ้างนะ”................

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1ประวัติความเป็นมาของสับปะรด
          ครูดูรายการชีวิตชีวาช่วงสมุนไพรใกล้ตัวกับโรงพยาบาลอภัยภูเบศร วันที่20 ธ.ค.52 เวลา 05.45 น. ทางช่อง 3 ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอภัยภูเบศร ให้ความรู้เรื่องสับปะรดว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาได้ ที่บราซิล พบโดยคริสโตเฟอร์  โคลัมบัส  นักเดินเรือชาวสเปนและรายงานของชาวตะวันตกอ้างว่า  พบสับปะรดในไทย  ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์ได้รับสับปะรดมา ก็ให้มหาดเล็กชิม มหาดเล็กร้องออกมาว่า  มีสรรพรสมาก (มีรส 7 รส)  เพี้ยนมาจนเป็น “สับปะรด”ลองเข้าไปดูทีวีย้อนหลังที่ https://tvonline.happymass.com/#  เลือกเวลา05.00 - 05.59 น. นะ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย ครูเล่าจะเสียเวลาและอาจไม่ครบถ้วนจ้ะ

      นักเรียน “ทำไมสับปะรดจึงใช้ชื่อว่า Pineappleคะ”
      ครูเนาว์ “ ต้องไปหาคำตอบแล้วมาเล่าให้ครูฟังนะ” เว็บไซต์จะบอกให้ตอนท้ายชั่วโมงจ้ะ

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1ลักษณะของสับปะรด
          สับปะรดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี ปลูกได้ในดินแทบทุกแห่งในประเทศไทย เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อเจริญเป็นผลแล้วจะเจริญต่อไปโดยตาที่ลำต้น จะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้อีก และ สับปะรดสามารถดัดแปลงเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย
          สับปะรดแบ่งออกตามลักษณะความเป็นอยู่ได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ พวกที่มีระบบรากหาอาหารอยู่ในดิน หรือ เรียกว่าไม้ดิน พวกอาศัยอยู่ตามคาคบไม้หรือลำต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ ไม้อากาศต่าง ๆ ที่ไม่แย่งอาหารจากต้นไม้ที่มันเกาะอาศัยอยู่ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประดับและพวกที่เจริญเติบโตบนผาหินหรือโขดหิน
          ส่วนสับปะรดที่เราใช้บริโภคจัดเป็นไม้ดิน แต่ยังมีลักษณะบางประการของไม้อากาศเอาไว้ คือ สามารถเก็บน้ำไว้ตามซอกใบได้เล็กน้อยมีเซลล์พิเศษสำหรับเก็บน้ำเอาไว้ในใบ ทำให้ทนทานในช่วงแล้งได้
รูปลักษณะ ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 90 - 100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ ซ้อนกันถี่มากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อ ออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผล เป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลาย

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
          สับปะรดต้องการอากาศค่อนข้างร้อนอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 23.9-29.4℃ ปริมาณน้ำฝนที่ต้องการอยู่ในช่วง 1,000-1,500 มิลลิเมตรต่อปี แต่ต้องตกกระจายสม่ำเสมอตลอดปี และมีความชื้นในอากาศสูง
สับปะรดชอบขึ้นในดินร่วน,ดินร่วนปนทราย,ดินปนลูกรัง,ดินทรายชายทะเล และชอบที่ลาดเท เช่น ที่ลาดเชิงเขา สภาพความเป็นกรดด่าง (pH) ของดินควรเป็นกรดเล็กน้อย คือตั้งแต่ 4.5-5.5 แต่ไม่เกิน 6.0
ฤดูกาลของสับปะรด
          ช่วงเก็บเกี่ยวในฤดู ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - มกราคม และกลางเดือนเมษายน - กรกฎาคม สับปะรดจะให้ผลผลิตมาก ในตลาดมีราคาถูก 
           ช่วงเก็บเกี่ยวนอกฤดู ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - ต้นเดือนเมษายน และเดือนสิงหาคม - ตุลาคม สับปะรดจะให้ผลผลิตน้อย ราคาแพง

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1แหล่งที่ปลูกสับปะรดในไทย
          แหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญของไทย อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเลได้แก่
             • จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 
             • จังหวัดเพชรบุรี 
             • จังหวัดชลบุรี 
             • จังหวัดระยอง 
             • จังหวัดฉะเชิงเทรา 
             • จังหวัดจันทบุรี 
             • จังหวัดตราด 
             • และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต พังงา ชุมพร

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1พันธุ์สับปะรดที่นิยมปลูกในไทย
            • พันธุ์ปัตตาเวีย หรือเรียกว่า สับปะรดศรีราชา 
            • พันธุ์อินทรชิต เป็นสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง 
            • พันธุ์ขาว 
            • พันธุ์ภูเก็ต หรือ พันธุ์สวี 
            • พันธุ์นางแล หรือ พันธุ์น้ำผึ้ง

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1สรรพคุณทางสารเคมี
           มีเอนไซม์ย่อยโปรตีนชื่อบรอมีลิน (Bromelin) ช่วยย่อยโปรตีนไม่ให้ตกค้างในลำไส้ และ มีเกลือแร่ วิตามินซีจำนวนมาก

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1สรรพคุณทางสมุนไพร
           • ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง 
           • ช่วยขับปัสสาวะ 
           • แก้ร้อนกระสับกระส่าย กระหายน้ำ 
           • แก้อาการบวมน้ำ ปัสสาวะไม่ออก 
           • บรรเทาอาการโรคบิด 
           • ช่วยย่อยอาหารพวกโปรตีน 
           • แก้ท้องผูก 
           • เป็นยาแก้โรคนิ่ว 
           • แก้ส้นเท้าแตก

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1การให้ปุ๋ยหลังจากสับปะรดออกหัว
          ระยะที่สับปะรดเป็นหัวห้ามใช้ปุ๋ย 21-0-0 หรือปุ๋ยไนเตรทอื่นๆ เพราะจะทำให้มีสารตกค้างอันตรายต่อผู้บริโภคให้ใช้ปุ๋ยพ่น     ทางใบ เช่นปุ๋ยส้ม 0-0-60 หรือปุ๋ยหวานอื่นๆ
          ธาตุอาหารที่สัปปะรดต้องการ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส  โพแทสเซียม แคลเซียม แม็กนีเซียม แมงกานิส
          การให้น้ำ สับปะรดเป็นพืชที่ทนแล้ง แต่ก็ต้องการน้ำไปช่วยการเจริญเติบโตเป็นระยะ สามารถวางแผนให้สับปะรดออกลูกได้ด้วยตนเอง ช่วงที่สับปะรดต้องการน้ำอยู่ในช่วง เริ่มปลูกใหม่ ช่วงออกลูก ระยะการให้น้ำ 10 วันต่อ 1 ครั้ง

แผนการจัดสอนแทนของครูเนาว์ ครั้งที่1อาหารจากสับปะรด
       ครูเนาว์ “สับปะรดสามารถทำอาหารได้ทั้งอาหารหวานและอาหารคาว ที่ครูเคยทำก็มี
           อาหารหวาน ได้แก่ สับปะรดลอยแก้ว  สับปะรดแช่อิ่ม สับปะรดกวน น้ำสับปะรด
           อาหารคาว ได้แก่ ผัดเปรี้ยวหวานสับปะรดใส่ได้ทั้งกุ้ง หมูไก่  ต้มส้มสับปะรด ข้าวผัดสับปะรด เป็นต้น
       นักเรียน “ หิวแล้วค่ะ ครั้งหน้าครูสอนทำข้าวผัดสับปะรดนะ”  
       ครูเนาว์ “ วันนี้เรามาร้อยลาลัยกลมกันดีกว่า เดี๋ยวจะไม่เป็นสับปะรด“ อย่างง เป็นสำนวนไทยจ้ะ วันหลังค่อยรู้นะ หรืออยากรู้จริง ๆ หาเพิ่มเติมได้ และครูยังมีสำนวนเพิ่มให้อีก เช่น

1. " บอกเล่าเก้าสิบ " ที่ถูกต้องเป็น " บอกเก้าเล่าสิบ " หมายถึงพูดเกินหรือพูดมากกว่าที่ได้ยินมา

2. " ผีซ้ำด้ามพลอย " ที่ถูกต้องคือ " ผีซ้ำด้ำพลอย " สำนวน ผีซ้ำนั้นหมายถึงว่าทำอะไรพลาดไปแล้ว ยังมีผลไม่ดีแถมมาอีก ส่วน ด้ำ เป้นภาษาเหนือ แปลว่า ผีเรือน สำนวน " ผีซ้ำด้ำพลอย " ก็คือ ถูกซ้ำเติมเมื่อทำอะไรพลาดพลั้ง 

      นักเรียน "ครั้งต่อไปคุณครูมาสอนแทนมาเล่าอะไรที่ใสรรพรสอีกนะคะ"

      ครูเนาว์ "พวกเราก็ต้องสนจสิ่งที่เป็นความรู้รอบตัวหมั่นดูทีวีอ่านหนังสือพิมพ์และค้นคว้าในอินเทอร์เน็ตมีโอกาสจะสอนให้นะ พบกับคราวหน้าจ้ะ  สวัสดี"      

ข้อมูลจาก   จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี   และขอบคุณเจ้าของLinkน่ารู้
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%94

https://www.boontham.com/index.php?mo=3&art=377380

ถ้าต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้สามารถดูได้ที่ https://www.fwdder.com/topic/98505/hl=%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0

https://gotoknow.org/blog/paktay/156640

https://www.duseevdoclip.com/vdo/%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89/

 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1868

อัพเดทล่าสุด