https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
มาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานฟุตบอล ตอนที่ 4 MUSLIMTHAIPOST

 

มาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานฟุตบอล ตอนที่ 4


821 ผู้ชม


การโหม่งลูกบอลเป็นการใช้ศีรษะบริเวณหน้าผากบังคับลูกบอลที่ลอยมาในอากาศให้เปลี่ยนทิศทาง หรือส่งให้เพื่อนร่วมทีม หรือเพื่อทำประตู   

              แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มมีรอยยิ้มให้เห็นบ้างแล้วหลังทีมรักทำผลงานในเกมล่าสุดได้ค่อนข้างดี เมื่อจัดการเปิดบ้านเชือดเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ แบบไม่บอบช้ำมากนัก 3-0 โดยเกมนี้สองกองหน้าตัวเก่งอย่าง เวย์น รูนี่ย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ แบ่งกันยิงคนละเม็ดเช่นเดียวกับ มาเม่ บีรัม ดิยุฟ กองหน้าตัวใหม่ที่ลงมายิงให้ทีมเก็บ 3 แต้มเอาไว้ได้เมื่อคืนที่ผ่านมาก
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ  วันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2553
              แมนฯ ยูไนเต็ด 3 - 0  เบิร์นลี่ย์  สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจองานไม่ยากในการเปิดบ้านรอรับเบิร์นลี่ย์ โดยเจ้าถิ่นต้องขาด ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่ถูกพักแข้ง แต่ข่าวดีคือได้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ กลับมาลงเฝ้าเสาเป็นครั้งแรกในรอบ 12 นัด พร้อมมี ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จับคู่ล่าตาข่ายกับ เวย์น รูนี่ย์
            ด้านทีมเยือนที่มี ไบรอัน ลอว์ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ได้ ไทโรน เมียร์ส และ สตีเฟ่น จอร์แดน พ้นโทษแบนกลับมา เกมรุกฝากความหวังไว้กับ เดวิด นิวเจนท์ กับ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์
               เริ่มเกมมาเป็น "เดอะ คลาเร็ตส์" ที่ได้เสียวก่อน จากจังหวะโต้กลับเร็วที่นิวเจนท์ จ่ายให้เฟล็ทเชอร์หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเฉี่ยวเสาสองอย่างน่าเสียดาย
           เจ้าบ้านตอบโต้บ้าง เบอร์บาตอฟเก็บตกได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนตัดเข้าในแล้วสับไกด้วยขวา บอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไป
            ถัดมาเบอร์บาตอฟป้ายต่อให้นานี่เลี้ยงลุยขึ้นมาจนได้โอกาสซัดไกลจากระยะประมาณ 20 หลา แต่ ไบรอัน เยนเซ่น ยังล้มตัวรับสบาย
           "ปีศาจแดง" ยังรุกหนัก นาทีที่ 24 นานี่โยนจากขวาให้รูนี่ย์ขึ้นโหม่ง บอลยังไม่ผ่านมือของนายทวารผู้มาเยือนเช่นเคย
 แมนฯ ยูไนเต็ดบุกต่อเนื่องหวังเอาประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายกลับไม่เด็ดขาดพอ ทั้งจากรูนี่ย์และเบอร์บาตอฟ
          ทีมเยือนต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกตั้งแต่นาทีที่ 36 หลังเฟล็ทเชอร์มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง สตีเว่น ธอมป์สัน ลงมาเล่นแทน   จากนั้นนานี่ไหลกลับหลังให้รูนี่ย์ได้ปั่นบริเวณหัวกะโหลก บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปอีกครั้ง
          ท้ายครึ่งแรกเจ้าถิ่นทำเกมสวนกลับขึ้นมาสวย จังหวะสุดท้ายเป็น อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่เปิดจากขวาให้นานี่พักอก ก่อนกระโดดตีลังกายิง แต่เยนเซ่นซูเปอร์เซฟปัดออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเสมอกันไปก่อนแบบไร้สกอร์
          เริ่มครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เมื่อ รูนี่ย์ บรรจงจ่ายบอลให้ เบอร์บาตอฟ หลุดเข้าไปยิงเสียบเสาสองให้เจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0   หลังจากจ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ไม่นาน รูนี่ย์ ก็เติมเกมรุกก่อนได้บอลในกรอบเขตโทษก่อนยิงหักข้อบอลเสียบเสาแรกสวยงามให้ ผีแดง นำ 2-0
           ช่วงท้ายเกม มาเม่ บีรัม ดิยุฟ กองหน้าตัวใหม่ของ เจ้าบ้านก็มายิงประตูตอกย้ำชัยชนะเด็ดขาด 3-0 และเป็นประตูแรกของกองหน้าชาวเซเนกัล ในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม  
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, นานี่, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนี่ย์
  
เบิร์นลี่ย์ : ไบรอัน เยนเซ่น, ไทโรน เมียร์ส, เดวิด เอ็ดการ์, ไมเคิ่ล ดัฟฟ์, สตีเฟ่น จอร์แดน, เกรแฮม อเล็กซานเดอร์, เควิน แม็คโดนัลด์, คริส อีเกิ้ลส์, เวด เอลเลียตต์, เดวิด นิวเจนท์, สตีเว่น เฟล็ทเชอร์

มาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานฟุตบอล ตอนที่ 4

ที่มา:https://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100117_001.html

กลุ่มสาระการเรียนรู้   สุขศึกษาและพลศึกษา ช่วงชั้นที่ 4 ( ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 6)

สาระที่ 3 :  การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย  เกม  กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ 3.1:  เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา
มาตรฐาน พ 3.2: รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา  ปฏิบัติเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ  มีวินัย  เคารพสิทธิ กฎ กติกา  มีน้ำใจนักกีฬา  มีจิตวิญญาณ ในการแข่งขัน  และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา

ผลการเรียนรู้ที่คาดหว้ง
      1.สามารถอธิบายทักษะการโหม่งฟุตบอลแบบต่างๆได้
      2.สามารถปฏิบัติทักษะการโหม่งฟุตบอลแบบต่างๆได้

สาระสำคัญ
      การโหม่งลูกบอลเป็นการใช้ศีรษะบริเวณหน้าผากบังคับลูกบอลที่ลอยมาในอากาศให้เปลี่ยนทิศทาง  หรือส่งให้เพื่อนร่วมทีม  หรือเพื่อทำประตู

สารระการเรียนรู้
       การโหม่งลูกบอลให้โด่ง
       การโหม่งลูกบอลระดับอก
       การโหม่งลูกบอลลงพื้น 
การฝึกทักษะการโหม่งลูกบอล  การโหม่งลูกบอล คือ การใช้บริเวณหน้าผากเป็นส่วนที่สัมผัส ลูกบอล เพราะเป็นจุดที่สามารถรับแรงปะทะได้ดี   การโหม่งมี  3  ประเภท 
1.การโหม่งให้โด่ง 
2.การโหม่งระดับอก 
3.การโหม่งลงพื้น  
         
วิธีการโหม่ง

1.ตาต้องมองดูลูกบอลอยู่ตลอดเวลา  ห้ามหลับตาโดยเด็ดขาด 
2.ลำคอเกร็ง  ใช้หน้าผากสัมผัสลูกบอล 
3.การโหม่งให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการให้ใช้ลำตัวช่วย  โดยบิดตั้งเอว  อย่าสลัดคอ 
4.ให้ใช้เข่า  ลำตัว  ช่วยในการโหม่ง  โดยการโยกตัว  ลักษณะของลูกบอลจะแรงหรือค่อยอยู่ที่ลักษณะของลูกบอลที่ลอยมาหรือการกระทำต่อลูกบอลนั้น 
5.การโหม่งจะยืนอยู่หรือกระโดดโหม่งก็ตามให้ดูที่จังหวะการเคลื่อนที่มาของลูกบอล  สำคัญต้องใช้หน้าผากเท่านั้น

1.การโหม่งให้โด่ง 
          เป็นการโหม่งเพื่อให้ข้ามศีรษะของ  คู่ต่อสู้ที่อยู่ขวางหน้า  อาจจะยืนอยู่เฉยๆ  หรือกระโดดโหม่งก็ตาม  เหมาะสำหรับผู้เล่นกองหลังหรือกองกลาง

มาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานฟุตบอล ตอนที่ 4

ที่มา: https://www.w-nikro.com/images/1196355454/DSC01804.gif

วิธีการปฏิบัติ
          ให้เงยหน้า  เกร็งคอ  เอนหลังเล็กน้อย  ใช้แรงส่งขึ้นมาตั้งแต่เท้าและหัวไหล่  ลืมตา  โน้มตัวกระแทกไปข้างหน้า 
2.การโหม่งระดับอก 
          เป็นการโหม่งเพื่อส่งให้เพื่อน  ในการเล่นความแรงหรือน้ำหนัก  อยู่ที่จังหวะและระยะทางความใกล้หรือไกล

  มาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานฟุตบอล ตอนที่ 4

ที่มา:https://www.rakball.net/Rakballworld/pics/20090617632_02.jpg

วิธีการปฏิบัติ
          ให้กดคางลงมาเล็กน้อย  โน้มตัวไปข้างหน้า  ไม่ต้องกระแทกมากนัก  เมื่อโหม่งแล้วจึงเปิดคางเล็กน้อย


3.การโหม่งลงพื้น 
          เป็นการโหม่งเพื่อยิงประตูหรือเปลี่ยนทิศทาง     ลูกโหม่งลงพื้นนี้กองหน้ามักจะใช้ในการยิงประตู
 

 มาเรียนรู้ทักษะพื้นฐานฟุตบอล ตอนที่ 4

ที่มา:https://www4.pictures.zimbio.com/gi/Sunderland+v+Liverpool+Premier+League+keqcPfFLVkcl.jpg

 วิธีการปฏิบัติ
          หดตัว  ถอยหลัง  และให้คางกดชิดอกของตัวเองเหมือนก้มศีรษะลง  คล้ายคำนับ  และเพิ่มแรกกระแทก หรือพุ่งใส่ตัวก็ได้  เพื่อให้ลูกนั้นพุ่งได้แรงและเร็วขึ้น

ประเด็นคำถาม
        1. จงอธิบายทักษะการโหม่งฟุตบอลแบบต่างๆมาให้เข้าใจ
        2. การโหม่งลูกฟุตบอลมีประโยชน์อย่างไร   

กิจกรรมเสนอแนะ  
        1. ให้นักเรียนไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในห้องสมุดโรงเรียนหรืออินเตอร์เน็ต
        2. จัดนิทรรศการ หรือจัดบอร์ดเกี่ยวกับการโหม่งฟุตบอล
         
การบูรณาการกับกลุ่มสาระอื่นๆ
        1. ภาษาไทย     การอ่านจับใจความ  การสรุปบทความ 
        2. วิทยาศาสตร์  ระบบการไหลเวียนโลหิตและการเต้นของหัวใจ
        3. คณิตศาสตร์   การคำนวณเวลาในอดีตจนถึงปัจจุบัน
        4. สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา)  อาหารและโภชนาการสนองต่อการเล่นฟุตบอล            

                              

 
 ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1925

อัพเดทล่าสุด