https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก MUSLIMTHAIPOST

 

5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก


6,441 ผู้ชม

ปัญหาเรื่องการมีลูกยากถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของคู่สามีภรรยา ตามปกติจะถือว่ามีลูกยากต่อเมื่อแต่งงานและมีเพศสัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอ...


5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก

5 วิธีทดสอบช่วงไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก


1. วัดอุณหภูมิร่างกายทุกวันด้วยเทอร์โมมิเตอร์ (ปรอท)

ถ้าคุณอยากมีลูก การคำนวณวันไข่ตกจะช่วยคุณให้ตั้งท้องได้ดังใจ ทำได้ง่ายๆ เพียง วัดอุณหภูมิร่างกาย (BBT) หลังจากตื่นนอน

วิธีการวัดอุณหภูมิร่างกาย (BBT) เพื่อหาช่วงเวลาวันตกไข่นั้น

  • หลังจากตื่นนอนทันที ก่อนทำกิจกรรมต่างๆ ให้ใช้ปรอทวัดอุณหภูมิร่างกาย
  • จดบันทึกอุณหภูมิที่วัดได้ไว้ทุกๆ วัน เริ่มทำตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมา
  • อย่าลืมจดรายละเอียด ปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลต่ออุณหภูมิร่างกายหรือการเจริญพันธุ์ของคุณไว้ด้วย เช่น มีเลือดออก นอนน้อย หรือเจ็บป่วย ไม่สบาย รวมถึงช่วงเวลาที่มีกิจกรรมกุ๊กกิ๊กอย่างว่า


การตกไข่ของผู้หญิงบางรายอาจไม่โชว์ทางอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ หลายอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิร่างกายของคุณ (BBT) เช่น เมื่อร่างกายอ่อนเพลีย หรือเป็นหวัด เป็นต้น

อุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นจากเดิมประมาณครึ่งองศาจะเกิดราววันที่ 14 ในผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาทุก 28 วัน แม้ว่าจะพิสูจน์ชัดๆ ไม่ได้ว่าคุณกำลังตกไข่อยู่ก็ตาม แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีบอกว่า นี่แหละคือ วันตกไข่ของคุณ

https://www.thailand.fertilityasia.com/th/stage1/articles/article1/calculating_ovulation/calculating_ovulation.html


การแปลผลจากกราฟ :

ต้องวัด BBT ทุกวัน และนำมาพล็อตกราฟ แล้วแปลผล โดยเริ่มวัดตั้งแต่วันที่มีประจำเดือนวันแรกไปจนวันแรกของการมีประจำเดือนในรอบถัดไป โดยลักษณะกราฟจะแบ่งเป็น 2 ช่วงอย่างชัดเจน ได้แก่

  • ช่วงก่อนตกไข่ (Pre-Ovulatory) ซึ่งเริ่มต้นจากที่มีประจำเดือนวันแรก ไปจนถึงก่อนการตกไข่ ช่วงนี้จะมีระดับฮอร์โมน Estrogen เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลให้ ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ และเมื่อมีการตกไข่ จะมีระดับฮอร์โมน Estrogen สูงที่สุด ดังนั้นอุณหภูมิของร่างกายจึงลดต่ำสุด
  • ช่วงหลังตกไข่ (Post-Ovulatory ) ช่วงที่มีการตกไข่ไปแล้ว ฮอร์โมน LH ยังคงสร้าง Estrogen อยู่บ้างแต่ไม่มากนัก แต่ที่สำคัญคือการสร้างฮอร์โมน Progesterone ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น และสูงถึงประมาณ 37.00 -37.20 º C (98.60-98.96 º F )ในระยะเวลา 7-9 วันหลังการตกไข่และค่อยๆ ลดลง และมีประจำเดือนออกมา

สตรีที่มีการตกไข่ จะมีความแตกต่างของอุณหภูมิในช่วงก่อนตกไข่ (Pre-ovulatory) และช่วงหลังตกไข่ (Post-Ovulatory ) ไม่น้อยกว่า 0.3-0.5 º C (0.6-1.0º F )

ตัวอย่าง กราฟอุณหภูมิร่างกายของผู้หญิงมีรอบประจำเดือน 28 วัน เราสามารถแปลผลจากกราฟได้ดังนี้

  • วันที่ 1- 13 อุณหภูมิร่างกายจะมีระดับต่ำ ซึ่งเป็นช่วงก่อนการตกไข่
  • วันที่ 14 ซึ่งเป็นวันที่ตกไข่ สังเกตจากอุณหภูมิร่างกายจะลดต่ำสุดและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในวันถัดไป
  • ตั้งแต่วันที่ 15 เป็นต้นไปจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นช่วงที่มีการตกไข่ไปแล้ว และในวันที่ 28 อุณหภูมิ จะลดต่ำอีกครั้งเมื่อเริ่มมีประจำเดือนในรอบถัดไป


5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก

ข้อแนะนำ :

  • จากกราฟ การตกไข่ คือ วันที่ 14 ดังนั้น ควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 12-15 จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูง ควรเผื่อเวลาให้อสุจิเดินทาง อย่างน้อย 6 ช.ม.
  • การวัด BBT ควรทำล่วงหน้าติดต่อกันอย่างน้อย 2-3 เดือน จึงจะช่วยให้สามารถดูแนวโน้มและประมาณวันตกไข่ พร้อมทั้งกำหนดวันมีเพศสัมพันธ์ได้ค่อนข้างแม่นยำ
  • การใช้วิธีวัด BBT จะใช้หลักการว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นฐานของร่างกายนั้น ชี้ว่าการตกไข่ได้เกิดขึ้นแล้ว (ต้องทำติดต่อกันหลายเดือน จึงจะเริ่มรู้แนวโน้มและประมาณวันตกไข่ล่วงหน้าได้) แต่การใช้ชุดทดสอบการตกไข่ (LH ovulation test) จะบอกว่าการตกไข่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้น หากใช้ชุดทดสอบการตกไข่ควบคู่กับการวัด BBT จะช่วยให้ตรวจหาวันตกไข่ ได้ความแม่นยำมากขึ้น
  • นอกจากการใช้ชุดทดสอบการตกไข่ช่วยในการหาวันไข่ตกแล้ว การตรวจสอบลักษณะของมูกที่บริเวณปากมดลูกก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำควบคู่กันกับการวัดอุณหภูมิ BBT เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการหาวันตกไข่ได้ค่ะ

ข้อจำกัดของวิธีการนี้ก็คือ ชาร์ทอุณหภูมิร่างกายช่วยให้คุณทราบว่า การตกไข่เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่บอกได้แค่หลังจากที่ไข่ตกแล้ว ซึ่งเลย “ช่วงไข่สุก” ไปแล้วจนถึงรอบตกไข่ครั้งต่อไป

++++++++++++++++++++++++++++++++


2. คำนวนจากรอบเดือน
ก่อนอื่นต้องมีความเข้าใจพื้นฐานก่อนเรื่องการเปลี่ยนแปลงของรังไข่ในแต่ละวันของรอบเดือน
โดยปกติจะแบ่งการเปลี่ยนแปลงของรังไข่เป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือ 
  • ช่วงก่อนไข่ตก (follicular phase) ช่วงนี้จะเริ่มตั้งแต่วันแรกของการมีรอบเดือน เป็นช่วงที่จะมีการเจริญของฟองไข่ เพื่อที่จะได้ไข่ที่สมบูรณ์ที่สุด 1 ใบเพื่อที่จะเข้าสู่ระยะตกไข่ต่อไป ความยาวของช่วงนี้ในผู้หญิงแต่ละคนจะแตกต่างไม่เท่ากัน
  • ช่วงหลังไข่ตก (luteal phase) ช่วงนี้จะเริ่มตั้งแต่ระยะหลังไข่ตกไปจนถึงวันก่อนที่จะมีรอบเดือนครั้งต่อไป ความยาวของช่วงนี้ในผู้หญิงแต่ละคนจะเท่ากันคือประมาณ 14 วัน

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทำไมผู้หญิงแต่ละคนถึงมีความยาวของรอบเดือนไม่เท่ากัน สาเหตุก็มาจากความยาวของระยะช่วงก่อนไข่ตกไม่เท่ากันนั่นเอง
วิธีคำนวนหาวันไข่ตกก็เริ่มจากต้องหาความยาวของรอบเดือนให้ได้ก่อนโดยคำนวนจาก
(วันแรกของรอบเดือนครั้งล่าสุด – วันแรกของรอบเดือนของเดือนก่อนหน้านี้) +1
หลังจากที่ได้แล้วก็หาวันที่ไข่ตกโดยคำนวนจากความยาวของรอบเดือน – 14 ก็จะได้วันที่ไข่ตก
ตัวอย่าง
วันแรกของรอบเดือนครั้งล่าสุดคือ 7/3/2558
วันแรกของรอบเดือนของเดือนก่อนหน้านี้คือ 6/2/2558
ดังนั้นความยาวของรอบเดือนของผู้หญิงคนนี้คือ (7/3/2558 – 6/2/2558) + 1 = 30 วัน
คำนวนหาวันที่ไข่ตกต่อโดยเอา 30-14 = 16
ดังนั้นวันที่ไข่ตกของผู้หญิงคนนี้คือ วันที่ 16 ของรอบเดือน
ต่อไปเราก็จะมาหาว่าวันที่ไข่ตกของเดือนนี้คือวันที่เท่าไร ก็นับจากวันแรกของรอบเดือนครั้งล่าสุดโดยถือเอาวันแรกของรอบเดือนเป็นวันที่ 1 ดังนั้นในผู้หญิงรายนี้ไข่จะตกวันที่ 22/3/2558
https://www.hc-obgyn.com


++++++++++++++++++++++++++++++++


3. ตรวจปัสสาวะด้วยชุดทดสอบการตกไข่
ให้คำนวณหาความยาวของรอบเดือนก่อนจากตัวอย่างข้างบน นำผลลัพธ์ที่ได้เทียบกับตารางด้านล่างนี้ ก็จะได้วันที่ควรจะเริ่มใช้ชุดทดสอบวันไข่ตก (ดังนั้นควรบันทึกวันที่มีประจำเดือนไว้เสมอ เพื่อทราบถึงความยาวของรอบเดือนปกติ) 
รอบประจำเดือน >>>> วันที่เริ่มตรวจ
21 วัน>>>>>>>>>>>>วันที่ 5
22 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 6
23 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 7
24 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 8
25 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 9
26 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 10
27 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 11
28 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 12
29 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 13
30 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 14
31 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 15
32 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 16
33 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 17
34 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 18
35 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 19
36 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 20
37 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 21
38 วัน >>>>>>>>>>>>วันที่ 22

การแปรผล ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อของชุดทดสอบ

ตัวอย่างการแปรผลของชุดทดสอบไข่ตกดิจิตอลยี่ห้อต่างๆ
หาเวลาไข่ตก,หาวันไข่ตก,ทดสอบไข่ตก,นับรอบเดือน,นับรอบประจำเดือน,วัดอุณหภูมิหาไข่ตก,BBT,วัดอุณหภูมิ,ปฎิสนธิ,ไข่,ทารก,มีลูก,อสจิ,ตั้งท้อง,ตั้งครรภ์,มีลูกยาก,ผสมพันธุ์,อสุจิ,ไข่ตก,มดลูก,เพศสัมพันธ์,หาเวลาไข่ตก,หาวันไข่ตก,ทดสอบไข่ตก,นับรอบเดือน,นับรอบประจำเดือน,วัดอุณหภูมิหาไข่ตก,BBT,วัดอุณหภูมิ,ปฎิสนธิ,ไข่,ทารก,มีลูก,อสจิ,ตั้งท้อง,ตั้งครรภ์,มีลูกยาก,ผสมพันธุ์,อสุจิ,ไข่ตก,มดลูก,เพศสัมพันธ์,

หาเวลาไข่ตก,หาวันไข่ตก,ทดสอบไข่ตก,นับรอบเดือน,นับรอบประจำเดือน,วัดอุณหภูมิหาไข่ตก,BBT,วัดอุณหภูมิ,ปฎิสนธิ,ไข่,ทารก,มีลูก,อสจิ,ตั้งท้อง,ตั้งครรภ์,มีลูกยาก,ผสมพันธุ์,อสุจิ,ไข่ตก,มดลูก,เพศสัมพันธ์,
หาเวลาไข่ตก,หาวันไข่ตก,ทดสอบไข่ตก,นับรอบเดือน,นับรอบประจำเดือน,วัดอุณหภูมิหาไข่ตก,BBT,วัดอุณหภูมิ,ปฎิสนธิ,ไข่,ทารก,มีลูก,อสจิ,ตั้งท้อง,ตั้งครรภ์,มีลูกยาก,ผสมพันธุ์,อสุจิ,ไข่ตก,มดลูก,เพศสัมพันธ์,

  • รูปวงกลมพร้อมหน้ายิ้ม หมายความว่าตรวจพบฮอร์โมน LH ซึ่งหมายถึงอยู่ในช่วงไข่ตก การมีเพศสัมพันธุ์ภายใน 48 ชม. หลังจากพบรูปหน้ายิ้ม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น
  • รูปวงกลมว่างเปล่า หมายความว่าตรวจไม่พบฮอร์โมน LH แสดงว่าไม่ได้อยู่ในช่วงที่ไข่ตก ให้ทำการทดสอบต่อไปในวันรุ่งขึ้น และวันต่อไปจนกว่าจะพบรูปหน้ายิ้ม

++++++++++++++++++++++++++++++++


4. ตรวจน้ำลายด้วยกล้องตรวจน้ำลายหาช่วงเวลาตกไข่


กล้องกำลังขยาย 50 เท่า ใช้ตรวจสอบรูปร่างของน้ำลายเพื่อหาช่วงเวลาไข่ตก ในช่วงใกล้การตกไข่ของรอบเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายจะปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับระดับความเข้มข้นของ electrolytes ในน้ำลาย ซึ่งทำให้เกิดผลึกซึ่งมีรูปร่างคล้ายใบเฟิร์นขึ้นมา ดังนั้นเราจึงสามารถตรวจสอบหาช่วงเวลาการตกไข่ได้จากหลักการนี้นั่นเอง

ใช้งานง่าย เพียงแค่แตะน้ำลายลงบนเลนส์ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วส่องดูรูปร่างของผลึก

5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก ไม่มีการตกไข่
ภาพที่เห็น จะเป็นจุดๆ หรือเส้นๆ แสดงว่าในช่วงที่ทดสอบนี้ยังไม่มีการตกไข่เกิดขึ้น

5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก

ใกล้การตกไข่ 
ภาพที่เห็น จะเป็นรูปคล้ายใบเฟิร์นเล็กน้อยบางส่วน ผสมกับจุดๆ และเส้นๆ แสดงว่าอยู่ในช่วงที่กำลังจะเกิดการตกไข่ภายใน 3-4 วัน การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ อาจตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่เต็มที่

5 วิธีหาช่วงเวลาไข่ตกด้วยตัวเอง ของคนอยากมีลูก

เกิดการตกไข่
ภาพที่เห็นจะเป็นรูปใบเฟิร์นปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน แสดงว่ากำลังเกิดการตกไข่ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จะช่วยให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์มากที่สุด

https://www.weneedbaby.com
++++++++++++++++++++++++++++++++


5. ดูจากความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และอารมณ์
วิธีการนี้เป็นเพียงการสังเกตุร่างกาย และอารมณ์ในเบื้องต้น ถ้าต้องการความแม่นยำควรใช้วิธีการทดสอบอื่นๆ ร่วมด้วย 
ในช่วงใกล้ไข่ตกหรือในวันไข่ตกอาจพบอาการต่างๆ เหล่านี้
  • พบมูกไข่ตก
  • อวัยยะเพศเต่งขึ้น ช่องคลอดแน่นขึ้น
  • รู้สึกปวดจี๊ด หรือปวดหน่วงๆ ที่ช่องท้องข้างใดข้างหนึ่ง
  • พบรอยเลือดจางๆ
  • รู้สึกมีความต้องการทางเพศมากขึ้น
  • หน้าอกคัด
  • ท้องอืด
  • รู้สึกว่ามีความไวต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การมองเห็น การได้ยิน การรับรู้กลิ่นและรสชาติได้ไวขึ้น

https://www.maveta.com/faqs-การตกไข่/

อัพเดทล่าสุด