https://lentera.uin-alauddin.ac.id/question/gratis-terlengkap/https://old-elearning.uad.ac.id/gampang-menang/https://fk.ilearn.unand.ac.id/demo/https://elearning.uika-bogor.ac.id/tanpa-potongan/https://e-learning.iainponorogo.ac.id/thai/https://organisasi.palembang.go.id/userfiles/images/https://lms.binawan.ac.id/terbaik/https://disperkim.purwakartakab.go.id/storage/https://pakbejo.jatengprov.go.id/assets/https://zonalapor.fis.unp.ac.id/-/slot-terbaik/https://sepasi.tubankab.go.id/2024tte/storage/http://ti.lab.gunadarma.ac.id/jobe/runguard/https://satudata.kemenpora.go.id/uploads/terbaru/
จริงหรือไม่? “สัญญาณ WIFI” อันตรายต่อสมองเด็ก MUSLIMTHAIPOST

 

จริงหรือไม่? “สัญญาณ WIFI” อันตรายต่อสมองเด็ก


2,377 ผู้ชม

ถ้ารักลูกห่วงหลานของตัวเอง อย่าปล่อยให้ WIFI เป็นพี่เลี้ยงของเขา...


จริงหรือไม่? “สัญญาณ WIFI” อันตรายต่อสมองเด็ก

สังคมครอบครัวในปัจจุบันแตกต่างจากยุคสมัยก่อนอย่างมาก มีความทันสมัยในทุกๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือ สัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายหรือ WIFI เด็กส่วนใหญ่ที่เกิดมาในยุคดิจิตอล แทบทุกคนจะชอบหยิบมือถือ แท็บเล็ตของพ่อแม่มาเล่นและก็จะปล่อยให้เด็กอยู่กับอุปกรณ์เหล่านั้นจนไม่ได้ให้ความสนใจว่า จะมีผลกระทบต่อสมองของเด็กหรือเปล่า เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจึงขอนำอันตรายจากสัญญาณ WIFI มาฝากกัน

อันตรายของสัญญาณ WIFI ที่มีต่อสมองของเด็ก

ออทิสติก มีโอกาสเกิดในเด็กที่อยู่กับสัญญาณ WIFI สูงเนื่องจากการอยู่กับสัญญาณ WIFI เป็นเวลานาน สัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจาก WIFI ROUTER จะทำให้เกิดการจับตัวกันของธาตุโลหะในเซลล์สมอง ซึ่งมีโอกาสที่เด็กจะเป็นออทิสติกสูง

ระบบหายใจขัดข้อง เด็กจะมีอาการหายใจไม่สะดวก เนื่องจากสัญญาณ WIFI จะทำให้เซลล์ในร่างกายหยุดการทำงาน  หากได้รับเป็นเวลานานจะส่งผลให้ดีเอ็นเอในร่างกายถูกทำลาย ทำงานไม่เป็นปกติ และนอกจากจะส่งผลต่อสมองแล้ว ยังมีการค้นพบอีกว่าคลื่นแม่เหล็กเหล่านี้มีผลต่อเม็ดเลือดขาวในร่างกาย มีความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้

เนื้องอกในสมอง มีผลการวิจัยทางการแพทย์ออกมาว่า ความถี่ของสัญญาณ WIFI มีความเข้มข้นสูง มีความเสี่ยงที่พัฒนาการของเด็กจะด้อยกว่าปกติและมีโอกาสที่เกิดเนื้องอกในสมองขึ้นมากกว่าผู้ใหญ่เพราะเนื้อสมองของเด็กเล็กมีความอ่อนแอมาก ทำให้คลื่นสัญญาณ WIFI ที่มีความเข้มข้นสูงสามารถผ่านเข้ามาในสมองได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

สิ่งที่อำนวยความสะดวกให้เรามาโดยตลอด ทำให้การสื่อสาร รับสารต่างๆเป็นไปได้สะดวกสบายมากขึ้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีอันตรายมากขนาดนี้ หากไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น เพียงแค่กำหนดเวลาในการเปิด-ปิด WIFI และการเล่นของเด็กๆ ให้ดี อย่าปล่อยให้อยู่กับมือถือ แท็บเล็ตนานเกิน 8 ชั่วโมง เท่านี้ก็ป้องกันไม่ให้เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นได้แล้ว

อัพเดทล่าสุด