การทำงานล่วงเวลา - กฎหมายแรงงาน


826 ผู้ชม


การทำงานล่วงเวลา - กฎหมายแรงงาน




    

การที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานเกินเวลาทำงานปกติของลูกจ้าง หรือทำงานนอกเหนือชั่วโมงการทำงานที่ได้ประกาศหรือกำหนดไว้   ถือว่าเป็นการทำงานล่วงเวลา ซึ่งนายจ้างจะสามารถทำได้ในเงื่อนไขดังนี้

      - ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างเป็นคราวๆไป 

      - ชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ  รวมชั่วโมงการทำงานในวันหยุด และชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาในวันหยุด รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

      - หากเป็นงานที่มีลักษณะต้องทำติดต่อกันไป ถ้าหยุดจะเสียหายแก่งานหรือเป็นงานฉุกเฉิน นายจ้างอาจให้ลูกจ้าง ทำงานล่วงเวลาเท่าที่จำเป็นได้

      - ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง

      - ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำว่า 18 ปีทำงานล่วงเวลา 

      - ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ทำงานล่วงเวลา ยกเว้น งานบางประเภท ได้แก่  งานในตำแหน่งบริหาร  งานวิชาการ  งานธุรการ งานบัญชีและการเงิน

      - กรณีที่ต้องทำงานล่วงเวลาต่อเนื่องจากเวลาทำงานปกติ ตั้งแต่ 2 ชั่วโมง  นายจ้างจะต้องจัดเวลาพักให้แก่ลูกจ้างอย่างน้อย 20 นาทีก่อนเริ่มทำงานล่วงเวลา

งานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา และค่าล่วงเวลาในวันหยุด

ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฯม.65 ได้กำหนดเกี่ยวกับงานที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาและค่าล่วงเวลาในวันหยุดไว้  แต่มีสิทธิได้รับ "ค่าตอบแทน" เป็นเงินเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ  ได้แก่

  • งานขบวนการจัดงานรถไฟ ซึ่งได้แก่ งานที่ทำบนขบวนรถและงานอำนวยความสะดวกแก่การเดินรถ
  • งานปิดเปิดประตูน้ำหรือประตูระบายน้ำ
  • งานอ่านระดับน้ำและวัดปริมาณน้ำ
  • งานดับเพลิงหรืองานป้องกันอันตรายสาธารณะ
  • งานที่มีลักษณะหรือสภาพที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ และโดยลักษณะหรือสภาพของงานไม่อาจกำหนดเวลาทำงานที่แน่นอนได้
  • งานอยู่เวรเฝ้าดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินอันมิใช่หน้าที่การทำงานปกติของลูกจ้าง
  • งานอื่นที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง

ผู้ที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนในการทำงานล่วงเวลา และล่วงเวลาในวันหยุด

ลูกจ้างซึ่งมีหน้าที่กระทำการแทนนายจ้างสำหรับกรณีการจ้าง  การให้บำเหน็จ  การลดค่าจ้าง  หรือการเลิกจ้าง

ที่มา : สมาชิก HR

อัพเดทล่าสุด