การตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ใน ผู้ป่วยเป็นโรคซิฟิลิส ว่าติดต่อหรือไม่อย่างไรแน่ MUSLIMTHAIPOST

 

การตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ใน ผู้ป่วยเป็นโรคซิฟิลิส ว่าติดต่อหรือไม่อย่างไรแน่


682 ผู้ชม


ข้อมูลคนที่เป็นซิฟิลิส
การติดต่อทางอื่น
เชื้อจะอ่อนแอตายง่ายดังนั้นการสัมผัสมือหรือการนั่งโถส้วมจะไม่ติดต่อ
หากผิวหนังที่มีแผลสัมผัสกับแผลที่มีเชื้อก็ทำให้เกิดการติดเชื้อ
จากแม่ไปลูก
เชื้อสามารถติดจากแม่ไปลูกขณะตั้งครรภ์และขณะคลอด
อาการของโรค
Primary Syphilis
ในระยะ primary รอยโรคจะปรากฏเป็นแผลริมแข็ง Chancre ซึ่งจะมีลักษณะที่สำคัญดังนี้
หลังจากได้รับเชื้อ 10-90 วันจะมีตุ่มแดงแตกออกเป็นแผลที่อวัยวะเพศตรงบริเวณที่เชื้อเข้า
แผลมักจะเป็นแผลเดียว ไม่เจ็บ ขอบนูน ต่อมน้ำเหลืองจะโตกดไม่เจ็บ
ตำแหน่งที่พบได้บ่อยได้แก่ อวัยวะเพศชาย อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด ริมฝีปาก
แผลจะอยู่ 1-5สัปดาห์แผลจะหายไปเอง
แม้ว่าแผลจะหายไปแต่ยังคงมีเชื้ออยู่ในกระแสเลือด
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเอดส์ และมีขนาดใหญ่และมีอาการเจ็บมาก
การตรวจเลือกในช่วงนี้อาจจะให้ผลลบได้ร้อยละ30
Secondary Syphilis
ระยะนี้จะเกิดหลังได้รับเชื้อ 17วัน- 6 เดือน
ผู้ป่วยจะมีอาการอยู่ประมาณ 2-6 สัปดาห์แล้วจะหายไปแม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษา
ต่อมน้ำเหลืองโต
ปวดตามข้อเนื่องจากข้ออักเสบ
อาการที่สำคัญมีดังนี้
มีผื่นสีแดงน้ำตาลที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ไม่คัน
ผื่นนี้สามารถพบได้ทั่วตัว
จะพบหูด Condylomata lata บริเวณที่อับชื้น เช่นรักแร้ ทวารหนัก ขาหนีบ
จะพบผื่นสีเทาในปาก คอ และปากมดลูก
ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
ผู้ป่วยจะรู้สึกไม่สบาย
อาการเหล่านี้จะอยู่ได้ 1-3 เดือนหายไปได้เอง และอาจจะกลับเป็นซ้ำ
การตรวจเลือดในช่วงนี้จะให้ผลบวก
Latent Stage ระยะแฝง
ช่วงนี้ผู้ป่วยไม่มีอาการของโรค ช่วงนี้กินเวลา 2-30 ปีหลังจากได้รับเชื้อ
ในช่วงนี้จะทราบได้โดยการเจาะเลือดตรวจ
ในระยะนี้อาจจะเกิดผื่นเหมือนในระยะ Secondary Syphilis
ในระยะนี้หากตั้งครรภ์ เชื้อสามารถติดไปยังลูกได้
Late Stage (Tertiary)
ระยะนี้จะกินเวลา 2-30 ปีหลังได้รับเชื้อ
ระยะนี้เชื้อโรคจะทำลายอวัยวะต่างๆเช่น หัวใจและหลอดเลือด สมองทำให้อ่อนแรงหรืออาจจะตาบอด กระดูกหักง่าย
หากไม่รักษาให้ทัน อวัยวะต่างๆจะถูกทำลายโดยที่ไม่สามารถกลับเป็นปกติ
การตรวจเลือดอาจจะให้ผลลบได้ร้อยละ30
Congenital Syphilis
หมายถึงทารกที่ติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เด็กจะมีอาการดังนี้
เด็กจะมีอาการหลังคลอด 3-8 สัปดาห์
อาการอาจจะมีเล็กน้อยจนไม่ทันสังเกตเห็น ทำให้ไม่ได้รับการรักษา
เด็กโตขึ้นจะกลายเป็นระยะ Late Stage (Tertiary)
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นซิฟิลิส
การตรวจวินิจฉัยโรคนี้สามารถทำได้โดยการนำหนองจากแผล หรือเลือดไปตรวจหาตัวเชื้อ การตรวจเชื้อทำได้โดย
>>>>Darkfield Exam<<<<
การตรวจทำไดโดยการน้ำเหลืองจากแผลหรือผื่นที่สงสัยไปตรวจ
นำน้ำเหลืองนั้นไปส่องกล้องเพื่อหาตัวเชื้อ
การตรวจนี้สามารถวินิจฉัยได้ทั้งระยะ Primary Syphilis และ Secondary Syphilis
>>>>การตรวจเลือด<<<<
การเจาะเลือดตรวจหาภูมิต่อเชื้อซิฟิลิสทำได้ 2วิธีคือ
การ เจาะเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันซึ่งไม่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส ได้แก่การเจาะ VDRL (Venereal Disease Research Laboratory) หรือ RPR (Rapid Plasma Reagent) หากให้ผลบวกต้องเจาะเลือดอีกเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
การเจาะเลือดเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโดยการเจาะ FTA-ABS (Fluorescent Treponemal Antibody Absorption Test) หรือ MHA-TP (Microhemagglutination-Treponema Pallidum)
ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่เคยเป็นซิฟิลิสมาก่อนอาจจะให้ผลบวกหลอกโดยที่ไม่เป็นโรค
Cerebrospinal Fluid Test การตรวจน้ำไขสันหลังจะทำในรายสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อในระบบประสาท
การรักษาโรคนี้ต้องทำอย่างไร
ยาที่ใช้รักษาคือ Penicillin
การรักษาต้องรักษาทั้งคู่
หลังจากรักษา 6 เดือนต้องตรวจซ้ำหลังจากนั้นตรวจทุกปี
https://www.siamhealth.net/public_html/Disease/infectious/std/Syphilis.htm
 

อัพเดทล่าสุด