ไม่ใช่ขนม แต่ทำไมเรียก"ขนมจีน"ล่ะ ?!? MUSLIMTHAIPOST

 

ไม่ใช่ขนม แต่ทำไมเรียก"ขนมจีน"ล่ะ ?!?


740 ผู้ชม


ขนมจีนถือเป็นอาหารคาวที่มีแทบจะทุกภาคของประเทศไทยเรา ประกอบไปด้วยเส้นขนมจีน และน้ำยา ที่มีหลายชนิดแล้วแต่จะนิยม   

ไม่ใช่ขนม แต่ทำไมเรียก"ขนมจีน"ล่ะ ?!?
ภาพจากที่นี่ดอทคอม

        เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงจะรู้จักและคุ้นเคยกับอาหารที่ชื่อว่า  "ขนมจีน" กันะครับ ซึ่งขนมจีนถือเป็นอาหารคาวที่มีแทบจะทุกภาคของประเทศไทยแม้แต่ที่ต่างประเทศเองก็มีขนมจีนรับประทานโดยผู้เขียนได้เดินทางไปเยี่ยมหลานที่ประเทศออสเตร เมื่อ 3-4 เดือนก่อน อาหารมื้อแรกที่หลานทำต้อนรับก็จะมีขนมจีนด้วย  ผู้เขียนก็งงเหมือนกันว่าที่ประเทศออสเตรเลียมีขนมจีนให้รับประทานด้วยเหรอ  สอบถามแล้วปรากฎว่าขนมจีนที่นั่นเขาจะมีขายตามห้างสรรพสินค้าโดยมาในรูปแบบของเส้นขนมจีนแห้งซึ่งสั่งมาจากประเทศเกาหลี  ก่อนรับประทานก็เอาเส้นมาแช่น้ำสักประมาณ 20 นาที  แล้วนำไปลวกในน้ำร้อนอีกทีหนึ่ง อ้อลืมบอกไปเส้นขนมจีนที่วางขายตามตลาดของที่นั่นจะมีขนาดของเส้น  3 ขนาด คือ  S  X  และ XL  เล็กใหญ่ตามขนาด
        การรับประทานขนมจีนจะต้องมีน้ำยาเป็นส่วนประกอบ  ซึ่งน้ำยาในปัจจุบันนี้ก็มีหลากหลายชนิดแล้วแต่จะนิยม  ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำยาเขียวหวาน น้ำเงี้ยว น้ำพริก ซาวน้ำและน้ำยาหวาน ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นต่างก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป
        ทางเหนือเรียกขนมจีนว่า "ขนมเส้น"

        ทางอิสานเรียกขนมจีนว่า 
"ข้าวปุ้น"

        แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นต่างก็เข้าใจตรงกันว่ามันคือ ขนมจีน ซึ่งด้วยชื่อของมันที่ว่า "ขนมจีน" ท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่า ขนมจีนนั้นถือเป็นอาหารคาว แล้วทำไมถึงได้เรียว่า "ขนม"ล่ะ ซึ่งเรื่องนี้นั้นมีที่มา ....ดังนี้
สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากมอญซึ่งเรียกขนมจีนว่า "คนอมจิน"
หมายถึง "สุก 2 ครั้ง" พิศาล บุญปลูก ชาวไทยเชื้อสายรามัญผู้สนใจศึกษาอาหารและวัฒนธรรมมอญกล่าวว่า "จริง ๆ แล้ว ขนมจีนเป็นอาหารของคนมอญหรือรามัญ คนมอญเรียกขนมจีนว่า     คนอมจิน คนอม หมายความว่าจับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน จินแปลว่าทำให้สุก" 
นอกจากนี้ "คนอม" นั้นสันนิษฐานว่าน่าจะใกล้เคียงกับคำไทย "เข้าหนม"
แปลว่าข้าวที่นำมานวดให้เป็นแป้งเสียก่อน ซึ่งภายหลังกร่อนเป็น "ขนม" จริง ๆ แล้ว ขนม ในความหมายดั้งเดิมจึงมิใช่ของหวานอย่างที่เข้าใจในปัจจุบัน ขนม หรือ หนม ในภาษาเขมร หรือ คนอม ในภาษามอญหมายถึงอาหารที่ทำจากแป้ง
        ดังนั้นขนมจีน จึงน่าจะเพี้ยนมาจาก คนอมจิน ซึ่งทำให้เกิดสมมุติฐานตามมาอีกว่า ดั้งเดิมทีเดียวขนมจีนเป็นอาหารมอญ แล้วจึงแพร่หลายไปสู่ชนชาติอื่น ๆ ในสุวรรณภูมิตั้งแต่โบราณกาล จนเป็นอาหารที่ทำงานและมีความนิยมสูง สามารถหาทานได้ทั่วไป
         และนี่ก็คือที่มาของคำว่า "ขนมจีน" คราวหน้าถ้าจะสั่งขนมจีนก็คงจะไม่ต้องสงสัยกันแล้วนะจ๊ะว่าทำไม อาหารคาวถึงเรียกว่า "ขนม" !!~

วิธีทำขนมจีน 
1.  ก่อนอื่นนำแป้งดิบสัก 4 กิโล มาต้มในกระปีปที่มีน้ำเดือดอยู่โดยใส่แป้งที่ปั้นกลม ๆ ในชะลอมแล้วหย่อนลงไปหรืออาจใช้วิธีนึ่งในซึ้งก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที แต่หากเป็นแป้ง 8 กิโลจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีให้ลองดูแป้ง โดยวิธีหยิกแป้งดูถ้าแป้งสุกลึกเข้าเนื้อแป้งสักครึ่งข้อนิ้วข้อแรกเป็นใช้ได้ 
2.  นำลูกแป้งที่สุกแล้วมาตีด้วยเครื่องนวด หากไม่มีใช้ครกใหญ่ตำก็ได้ ตีจนแป้งแตกตัว 
3.  นำแป้งมาใส่กะละมังเทน้ำร้อนลงไปคลุกเคล้า ช่วงนี้ต้องดูแป้งเป็นคือ อย่าใส่น้ำมากเกินเพราะจะเหลวบีบไม่เป็นเส้น หากข้นไปก็จะปีบไม่ออก ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการทดลองกันเล็กน้อย แต่ไม่เกินครั้งสองครั้งก็ดูเป็น 
4.  เสร็จแล้วเทแป้งใส่ผ้าขาวบางแล้วรวบผ้าช่วยบีบให้แป้งลอดผ้าออกมารูดให้หมด เนื่องจากแป้งมีความหนืดเหนียวจึงต้องออกแรงบีบเล็กน้อย 
5.  นำแป้งมาใส่ที่โรยเส้นแล้วโรยเส้นลงในกะละมังที่ใส่น้ำตั้งบนเตา โรยในขณะที่น้ำเดือดสำหรับเทคนิคการโรยคือ เวลาโรยจะต้องไม่อยู่กับที่จะต้องวนไปเรื่อย ๆ ในขณะบีบอยู่จะไม่ให้เส้นลงซ้ำกันและอย่าโรยสูงให้ที่โรยอยู่เหนือน้ำสัก 3-4 นิ้ว โรยจนหมดแป้งและไม่ต้องโรยแบบลีลา ให้รีบ ๆ โรยโดยออกแรงกดมาก ๆ เร็ว ๆ ให้แป้งพุ่งออกมาจากรูเลย 
6.  ทิ้งไว้จนเห็นเส้นลอยขึ้นมาเป็นแพ  ใช้ที่ตักช้อนเส้นออกมาให้หมดในคราวเดียว 
7.  นำเส้นที่ได้ไปล้างน้ำในกะละมังน้ำเย็น  โดยใช้กะละมังสัก 4 ลูก ใส่น้ำวางเรียงไว้โดยไม่ต้องเอาเส้นออกจากที่ตัก จุ่มไปทั้งหมดใช้มือช่วยเขย่าขยำเบา ๆ ทำอย่างนี้เรื่อย ๆ กับกะละมังลูก 2 ลูก 3 พอถึงลูกที่ 4 ก็ให้เทเส้นลงแช่ในน้ำเลย และหากน้ำที่ใช้ล้างเริ่มจะร้อนก็ให้รีบเปลี่ยนทันที 
8.  ดึงเส้นออกมาจับโดยใช้วิธีพันนิ้ว เมื่อได้ขนาดแล้วเด็ดออก หากก้อนเล็กให้พันนิ้วเดียว(นิ้วชี้ซ้าย) ก้อนใหญ่ก็สองนิ้ว ได้แล้วใช้มือบีบน้ำออกเบา ๆ วางขนมจีนเรียงใส่กระจาด ควรจะทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว อย่าปล่อยให้แช่น้ำนาน ๆ เป็นอันเสร็จวิธีทำเส้นสูตรหล่มเก่า 
ประเด็นคำถาม
         1. ขนมจีนทำมาจากวัตถุดิบอะไร   
              ตอบ  แป้ง  ที่ได้จากการหมักข้าวจ้าวแดง
          2. จะใช้ข้าวเหนียวมาเป็นวัตถุดิบในการทำขนมจีนได้หรือไม่  
               ตอบ  ไม่ได้

กิจกรรมเสนอแนะ
           แบ่งกลุ่มให้นักเรียนร่วมกันเขียนแสดงอุปกรณ์และวิธีทำน้ำยาขนมจีนมากลุ่มละ  1  ชนิด

การบูรณาการ
           1.  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ คำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์และวิธีทำขนมจีน
           2.  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
           3.  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  เรื่อง  คำ  ภาษาท้องถิ่น

แหล่งข้อมูล
           https://www.horapa.com/content.php?Category=Thai&No=521
              https://www.horapa.com/content.php?Category=Thai&No=521

    ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1081 

อัพเดทล่าสุด