ทำไมต้องเรียนรู้ทักษะพื้นฐานตะกร้อ ตอนที่ 7 MUSLIMTHAIPOST

 

ทำไมต้องเรียนรู้ทักษะพื้นฐานตะกร้อ ตอนที่ 7


513 ผู้ชม


การรุกบริเวณหน้าตาข่ายหรือที่นิยมเรียกกันว่า การทำ จุดมุ่งหมายของการรุก เพื่อให้ ลูกตะกร้อตกลงในสนามฝ่ายตรงข้าม หรือไม่ให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสามารถรับหรือเล่นลูกตะกร้อได้อีก ในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อมีวิธีการรุกบริเวณหน้าตาข่ายด้วยกันหลายวิธี   

             สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 1 เตรียมระเบิดศึกหวดลูกพลาสติก"นักเรียน สพฐ. มาราธอน 2009"ชิงถ้วยพระราชทานของ"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฏราชกุมาร"รอบคัดเลือกตัวแทนจังหวัดเชียงใหม่ใน 3 รุ่นอายุนายโกศล ปราคำ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 1 เปิดเผยว่าทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 1 ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ดำเนินการจัดการแข่งขันเซปักตะกร้อนักเรียน"สพฐ. มาราธอน 2009" ชิงถ้วยพระราชทานของ"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฏราชกุมาร"รอบคัดเลือกตัวแทนจังหวัดเชียงใหม่ในระหว่างวันที่ 8 - 10 สิงหาคม 2552 ณ สนามตะกร้อสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่
              ในการแข่งขันเซปักตะกร้อนักเรียน"สพฐ. มาราธอน 2009" ครั้งนี้ได้กำหนดจัดแข่งขันใน 2 ประเภทมีประเภททีมชายและประเภททีมหญิงแบ่งออกเป็น 3 รุ่นอายุได้แก่รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีและรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี สำหรับโรงเรียนต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ที่สนใจส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันขอรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ฝ่ายส่งเสริมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต 1 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปในวันเวลาราชการโดยทีมที่ชนะเลิศในแต่ระรุ่นอายุชาย - หญิงจะได้เป็นตัวแทนจังหวัดเชียงใหม่ไปแข่งขันในรอบภาคเหนือต่อไป

                 ที่มา: https://203.172.247.84/webcri2/modules/news/visit.php?fileid=569

สาระที่ ๓ :  การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย  เกม  กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓. ๑:  เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา
มาตรฐาน พ ๓.๒ : รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา  ปฏิบัติเป็นประจำ  อย่างสม่ำเสมอ  มีวินัย  เคารพสิทธิ กฎ กติกา  มีน้ำใจนักกีฬา  มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน  และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา

ผลการเรียนรู้ที่คาดหว้ง 
1.สามารถอธิบายและปฏิบัติทักษะการสกัดกั้นได้
2.สามารถอธิบายความสำคัญของการสกัดกั้นได้ 
การสกัดกั้นหรือการบล๊อกลูกตะกร้อเป็นทักษะอย่างหนึ่ง    ที่ใช้เล่นในกีฬาเซปักตะกร้อ   เป็นการเล่นของผู้เล่นฝ่ายรับ  ซึ่งมีวิธีการสกัดกั้น ดังนี้   คือ  การสกัดกั้นด้วยขาและลำตัว  การสกัดกั้นด้วยหลังและการสกัดกั้นด้วยศีรษะ  เพื่อ ไม่ให้ลูกตะกร้อจากการรุกของฝ่ายตรงข้าม ข้ามตาข่ายมาลงในแดนของฝ่ายรับได้ หรือเพื่อเพิ่มความกดดันการรุกหรือการทำบริเวณหน้าตาข่าย ของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม 
   การสกัดกั้นหรือที่นิยมเรียกกันว่า  การบล๊อก   เป็นการเล่นของฝ่ายรับ   ที่พยายามไม่ให้ลูกตะกร้อจาการรุกหรือการทำของฝ่ายตรงข้าม ข้ามมาลงในสนามของฝ่ายรับ   และเพื่อกดดัน การรุกหรือการทำของฝ่ายตรงข้าม   สถาพร  เกษแก้ว  (2543  : 133)  ได้ให้ความหมายของ   การสกัดกั้นหรือการบล๊อกไว้ว่า คือ การตั้งรับที่เกิดหลังจากการรุกด้วยการเสิร์ฟ ซึ่งฝ่ายตรงข้ามจะรุกกลับทันทีหลังจากการเสิร์ฟแล้ว   อาจจะเป็นการเล่นครั้งที่ 2  หรือครั้งที่ 3    ซึ่งเป็นการรุก    ที่รุนแรงและรวดเร็ว   ยากแก่การตั้งรับแบบธรรมดา
      การสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยศีรษะ การสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยหลัง การสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยลำตัวและขา 
การสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยศีรษะ
     การสกัดกั้นหรือการบล็อกด้วยศีรษะ  คือ  การกระโดดใช้ศีรษะบริเวณด้านบน     บล๊อกหรือสกัดกั้นจากการรุกของคู่แข่งขัน     มักจะนิยมใช้กับการรุกใกล้ตาข่าย      หรือลูกที่อยู่เหนือตาข่าย     โดยระมัดระวังไม่ให้อวัยวะส่วนของศีรษะยื่นข้ามตาข่าย      ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติดังนี้  
           1   ยืนตรงหันหน้าเข้าหาตาข่าย    อย่าให้ร่างกายชิดตาข่ายมากเกินไป
           2   ย่อเข่ากระโดดลอยตัวขึ้นตรง ๆ ด้วยเท้าทั้งสองข้าง แขนทั้งสองกางออก     เล็กน้อย  เพื่อการทรงตัว
           3.  ก้มศีรษะ  เก็บใบหน้า  ให้บริเวณด้านบนของศีรษะตั้งเป็นแผงรับการรุกของ   คู่แข่งขัน  โดยไม่ต้องหลับตา
           4  ระวังอย่าให้ศีรษะยื่นข้ามตาข่าย และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายถูกตาข่ายหรือเหยียบเส้นแบ่งกลาง 
              ให้ฝึกเคลื่อนตัวไปทั้งด้านซ้ายและขวา  โดยสไลด์เท้า ทำไมต้องเรียนรู้ทักษะพื้นฐานตะกร้อ ตอนที่ 72 – 3  ก้าว  แล้วกระโดดขึ้นบล๊อกตลอดแนวของตาข่าย

 การสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยหลัง
         การสกัดกั้นหรือการบล๊อกด้วยหลัง    คือ   การกระโดดขึ้นบล๊อกตรง ๆ    หรือ   เอียงตัว   โดยใช้บริเวณส่วนของแผ่นหลังสกัดกั้นการรุกของคู่แข่งขัน  การบล๊อกด้วยหลังนิยมเล่นกัน   2    แบบ    คือ   การขึ้นบล๊อกแบบตัวตรง   และการขึ้นบล็อกแบบตัวเอียง โดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้
        1    การสกัดกั้นหรือการบล๊อกด้วยหลังแบบตัวตรง
        2   ยืนหันหลังเข้าหาตาข่าย    แต่อย่าให้ชิดตาข่ายมากเกินไป
่        3   กระโดดลอยตัวด้วยเท้าทั้งสองข้างให้แผ่นหลังอยู่สูงเหนือตาข่าย
        4   เก็บแขนทั้งสองข้างให้ดี หรือกางออกด้านข้างเล็กน้อยเพื่อการทรงตัว
        5    ฝึกเคลื่อนตัวไปทั้งด้ายซ้ายและขวา   โดยสไลด์เท้า   2  – 3   ก้าว   แล้วกระโดดขึ้นบล๊อกตลอดแนวตาข่าย


การสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยลำตัวและขา

      การสกัดกั้นหรือการบล๊อกด้วยลำตัวและขา   คือ   การกระโดดใช้อวัยวะของร่างกายส่วนขาและลำตัว  ขึ้นสกัดกั้นหรือบล๊อกลูกตะกร้อ  จากการเล่นลูกตะกร้อบริเวณหน้าตาข่ายของ  ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม  การบล๊อกวิธีนี้นิยมเล่นกันมากที่สุด เพราะสามารถบล๊อกได้ทั้งลูกสูง ลูกต่ำ ระยะใกล้  ระยะไกล    และมีประสิทธิภาพสูง    ขอแนะวิธีการสกัดกั้นหรือบล๊อกด้วยลำตัวและขา ดังนี้
      1 ยืนหันไหล่ข้างที่ตนเองถนัดเข้าหาตาข่าย  เท้าถนัดอยู่ด้านหน้า  เท้าไม่ถนัดอยู่ด้านหลังห่างจากตาข่ายโดยประมาณ คือไม่ชิดตาข่ายหรือห่างตาข่ายมากเกินไป และหันหน้าไปยังฝ่ายตรงข้าม  สายตามองที่ลูกตะกร้อ
      2 เมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามกระโดดขึ้นเตะ (ฟาด)  ลูกตะกร้อ ให้ก้าวเท้าไม่ถนัดไปด้านหน้า 1  ก้าว  แล้วใช้เท้าไม่ถนัดกระโดดพร้อมยกขาข้างถนัดและลำตัวขึ้นเหนือตาข่าย  โดยเหยียดลำตัว  ต้นขา และปลายเท้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  แขนข้างถนัดให้แนบชิดกับลำตัว  และงอพับเก็บไว้บริเวณหน้าท้อง และระมัดระวังไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายถูกตาข่าย หรือล้ำเข้าไปยังฝ่าย ตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นส่วนบนหรือส่วนล่าง หรือเหยียบเส้นกลางสนาม
      3 กลับลงสู่พื้นด้วยเท้าไม่ถนัด พร้อมกางแขนออกเพื่อการทรงตัว

ทำไมต้องเรียนรู้ทักษะพื้นฐานตะกร้อ ตอนที่ 7

ที่มา: hilight.kapook.com

กิจกรรมเสนอเสนอแนะ 
1.ก่อนการเล่นตะกร้อควร Warm  Up ทุกครั้ง และหลังการเล่นต้อง Cool Down 
2.ศึกษาเพิ่มเติมและติดตามการแข่งขันตะกร้อเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
3.ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการตะกร้อ

การบูรณาการกับสาระการเรียนรู้อื่นๆ
1.สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เกี่ยวกับ การเล่นลูกการสกัดกั้น
2.สาระการเรียนรู้ศิลปศึกษา เกี่ยวกับ การวาดภาพ
3.สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับ แรงและการเคลื่อนไหว ในการเล่นลูกการสกัดกั้น

อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
1.ที่มา:  https://www.prdnorth.in.th
2.ที่มา: hilight.kapook.com


 ประเด็นคำถาม

1. ทักษะการเล่นการสกัดกั้นเป็นอย่างไร
2. การเล่นลูกการสกัดกั้นมีความสำคัญอย่างไร 
ที่มา : https://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file=readknowledge&id=1560

อัพเดทล่าสุด